5 สถิติน่าทึ่ง! เรื่องจริงของลูกแมวที่เจ้าของมือใหม่ต้องรู้ก่อนรับน้องเข้าบ้าน
คุณคิดว่าการเลี้ยงลูกแมวแค่มีที่นอน อาหาร และกระบะทรายก็พอแล้วใช่ไหมครับ?
อย่าเพิ่งมั่นใจไป เพราะลูกแมวไม่ได้เป็นแค่สัตว์เลี้ยงสุดคิวท์ แต่เป็น "สิ่งมีชีวิตซับซ้อนขนาดย่อม" ที่มีความต้องการเฉพาะตัวระดับน้องๆ ทารกเลยทีเดียว
วันนี้ผมจะพาคุณไปพบกับ 5 สถิติน่าทึ่ง จากข้อมูลวิชาการของ International Cat Care ที่สรุปไว้ใน “Kitten Booklet” ซึ่งเป็นเหมือนไบเบิลสำหรับคนเลี้ยงลูกแมวทั่วโลกครับ
เตรียมตัวให้พร้อม แล้วคุณจะเข้าใจลูกแมวแบบมือโปร!
ลูกแมวแรกเกิดใช้เวลา นอนถึง 90% ของวัน หรือประมาณ 20–22 ชั่วโมงต่อวัน!
ใช่ครับ คุณอ่านไม่ผิด…ลูกแมวคือนักนอนมืออาชีพตั้งแต่เกิด
ลูกแมวแรกเกิดจะหลับลึกเพราะร่างกายหลั่ง "โกรทฮอร์โมน" ที่ช่วยในการเจริญเติบโต
การนอนที่เพียงพอมีผลต่อพัฒนาการของสมอง กล้ามเนื้อ และภูมิคุ้มกัน
ถ้าลูกแมวนอนน้อยหรือกระสับกระส่ายผิดปกติ อาจมีสัญญาณของการเจ็บป่วยหรือเครียด
ข้อควรรู้: ไม่ควรปลุกลูกแมวเพื่อเล่น ควรปล่อยให้นอนเต็มที่ และจัดมุมสงบให้นอนแบบ uninterrupted
ช่วง 2–7 สัปดาห์ คือ วัยทองของการเข้าสังคม ถ้าพลาดไป พฤติกรรมบางอย่างจะแก้ยากมากในอนาคตครับ
ลูกแมวที่สัมผัสคนบ่อยในช่วง 2–7 สัปดาห์จะคุ้นชินกับมนุษย์ได้ดีกว่า
แมวที่ไม่ผ่านการเข้าสังคมช่วงนี้ อาจโตมาเป็นแมวขี้ตกใจหรือไม่ยอมให้จับเลย
เสียง พื้นผิว กลิ่น หรือแม้แต่เสียงเครื่องดูดฝุ่น ถ้าฝึกให้คุ้นในช่วงนี้ จะลดความกลัวในระยะยาวได้มากถึง 63%
เคล็ดลับ: ให้ลูกแมวได้สัมผัสคนหลายคน เล่นของเล่นหลากหลาย และได้ยินเสียงสิ่งแวดล้อมต่างๆ จะช่วยสร้าง "แมวที่เข้ากับบ้านง่าย" ในอนาคตครับ
เรื่องกินไม่ใช่เรื่องเล่น โดยเฉพาะในลูกแมวช่วง 4–12 สัปดาห์ ที่ต้องการสารอาหารครบถ้วนแบบพิเศษกว่าปกติ
67% ของลูกแมวที่มีปัญหาการเจริญเติบโต มีประวัติได้รับอาหารที่ไม่เหมาะกับวัย
การให้นมวัวหรืออาหารสุนัขกับลูกแมว อาจทำให้เกิดภาวะท้องเสียหรือขาดโปรตีน
ลูกแมวต้องการพลังงานต่อวันประมาณ 2.5–3 เท่าของแมวโต (ต่อน้ำหนักตัว)
ข้อควรรู้:
ให้ลูกแมวกินอาหารสูตร Kitten โดยเฉพาะเท่านั้น
ถ้าต้องเสริมนม ใช้นมผงสำหรับลูกแมว ไม่ใช่นมวัวหรือถั่วเหลือง
เริ่มฝึกกินอาหารเม็ดหรือเปียกได้ตั้งแต่อายุ 4 สัปดาห์ แต่ควรแช่น้ำให้นุ่มก่อน
ใช่ครับ…แม้จะยังไม่เดินก็มีพยาธิแล้ว เพราะลูกแมวอาจรับพยาธิมาตั้งแต่ในครรภ์หรือจากการกินนมแม่ที่มีพยาธิ
25% ของลูกแมวอายุไม่เกิน 6 สัปดาห์ มีพยาธิตัวกลมในลำไส้
18% ตรวจพบไข่พยาธิในอุจจาระแม้ไม่แสดงอาการ
การถ่ายพยาธิไม่ครบหรือใช้ยาผิดชนิด อาจทำให้ลูกแมวขาดสารอาหารหรือโตช้า
เทคนิค:
ถ่ายพยาธิครั้งแรกเมื่ออายุ 2 สัปดาห์ และทำซ้ำทุก 2 สัปดาห์จนถึงอายุ 12 สัปดาห์
ใช้ยาถ่ายพยาธิสำหรับลูกแมวโดยเฉพาะ และให้สัตวแพทย์แนะนำชนิดที่เหมาะกับน้ำหนักตัว
วัคซีนไม่ใช่ทางเลือก…แต่คือ “เกราะป้องกันชีวิต” สำหรับลูกแมว เพราะช่วงนี้คือช่วงที่ภูมิคุ้มกันจากแม่เริ่มลดลง
แมวที่ไม่ได้รับวัคซีนในช่วง 8–12 สัปดาห์ มีโอกาสติดเชื้อ FVR, FCV, และ FPV สูงถึง 70%
โรคที่พบบ่อย เช่น หวัดแมว (Feline Herpesvirus) และพาร์โวแมว มีอัตราการตายสูงถึง 60% หากไม่ได้รักษา
ลูกแมวควรได้รับวัคซีนเข็มแรกที่อายุ 8 สัปดาห์ และเข็มกระตุ้นที่ 12 สัปดาห์
ข้อควรรู้: อย่าเพิ่งปล่อยลูกแมวออกนอกบ้านหรือให้สัมผัสแมวอื่นจนกว่าจะได้รับวัคซีนครบ
ลูกแมวตัวน้อยไม่ใช่แค่น่ารัก…แต่ต้องการความเข้าใจอย่างลึกซึ้งครับ
ทุกช่วงวัย ทุกพฤติกรรม มีเบื้องหลังที่ซับซ้อนกว่าที่คิด
แต่ถ้าเราเตรียมตัวดี สังเกตเป็น และใส่ใจอย่างสม่ำเสมอ
ลูกแมวก็จะเติบโตเป็นแมวโตสุขภาพดี มีความสุข และเป็นเพื่อนรักที่อยู่กับเราไปอีกนาน
#ลูกแมวต้องรู้ #สถิติลูกแมวที่เจ้าของใหม่ต้องรู้ #ดูแลลูกแมวให้โตดี #แมวสุขภาพดีเริ่มที่วัยเด็ก #Lazadogเลี้ยงแมวด้วยความรู้
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com