เปิด 5 สถิติน่ารู้ “โรคหัวใจโตในหมา” รู้ให้ไว ก่อนหัวใจน้องจะเหนื่อยเกินรับไหว

โรคหัวใจโตในหมา (DCM – Dilated Cardiomyopathy)
ไม่ใช่โรคที่เกิดจากอายุอย่างเดียว และไม่ใช่โรคของหมาแก่เท่านั้น
เพราะมันสามารถ “ซ่อนตัว” ในร่างกายน้องหมาได้หลายเดือนโดยไม่มีสัญญาณเตือน
แต่เมื่ออาการเริ่มแสดงชัด… ก็อาจสายไปสำหรับการรักษาแบบง่ายๆ แล้วครับ

วันนี้ผมขอชวนคุณมารู้จักกับโรคนี้ผ่าน 5 สถิติน่ารู้เกี่ยวกับโรคหัวใจโตในหมา ที่เจ้าของทุกคนควรทำความเข้าใจไว้แบบไม่ต้องใช้ศัพท์แพทย์ให้เวียนหัวครับ!

1. โรคหัวใจโต (DCM) เป็นโรคหัวใจอันดับ 2 ที่พบได้บ่อยในหมา โดยเฉพาะพันธุ์ใหญ่

จากรายงานของ American College of Veterinary Internal Medicine (ACVIM)
พบว่า DCM เป็นโรคหัวใจอันดับ 2 รองจากโรคลิ้นหัวใจรั่ว (MMVD)
และมักพบในสุนัขพันธุ์ใหญ่ เช่น

• โดเบอร์แมน

• เกรทเดน

• ไอริชวูล์ฟฮาวด์

• ซินต์เบอร์นาร์ด

• บ็อกเซอร์

ข้อควรรู้:

• โรคนี้มี “กรรมพันธุ์” เป็นปัจจัยหลัก

• แต่ในบางกรณี พันธุ์เล็กหรือพันธุ์ที่ไม่มีประวัติ ก็สามารถเป็นได้จากโภชนาการผิดพลาด

2. 60–70% ของหมาที่เป็น DCM “ไม่มีอาการผิดปกติจนกระทั่งหัวใจล้มเหลว”

จากข้อมูลของ Cornell University College of Veterinary Medicine
DCM มักไม่มีอาการในระยะเริ่มต้น และจะแสดงอาการเมื่อหัวใจเริ่มทำงานหนักมากเกินไป
โดยเฉพาะในพันธุ์ที่ไวต่อโรค เช่น โดเบอร์แมน หรือเกรทเดน

อาการที่ควรสังเกต:

• หอบง่าย เหนื่อยง่ายเวลาวิ่ง

• ไอแห้งๆ โดยเฉพาะตอนกลางคืน

• ซึม ไม่ร่าเริงเหมือนเดิม

• เป็นลมตอนตื่นเต้นหรือออกแรง

• ช่องท้องบวม (น้ำคั่ง)

กลเม็ด: ถ้าหมาของคุณเป็นพันธุ์ใหญ่และอายุมากกว่า 3 ปี ควรตรวจสุขภาพหัวใจทุก 6 เดือน

3. สุนัขพันธุ์โดเบอร์แมนที่เป็น DCM “มีโอกาสเสียชีวิตภายใน 6 เดือน” ถ้าไม่ตรวจพบแต่เนิ่นๆ

ข้อมูลจากงานวิจัยใน Journal of Veterinary Cardiology พบว่า
โดเบอร์แมนที่เริ่มมีอาการของ DCM โดยไม่รักษาทันที มีอัตราการเสียชีวิตสูงภายใน 6 เดือน
แต่ถ้าตรวจพบแต่เนิ่นๆ และใช้ยาอย่างเหมาะสม อัตราการรอดชีวิตจะเพิ่มเป็น 2–3 ปีขึ้นไป

แนวทางการรักษา:

• ใช้ยาขยายหลอดเลือดหัวใจ เช่น Pimobendan

• ใช้ยาขับปัสสาวะในกรณีมีน้ำท่วมปอด

• ควบคุมอาหาร โซเดียมต่ำ

• หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้หัวใจทำงานหนัก

เทคนิค: หาหมอโรคหัวใจเฉพาะทาง (Cardiology Vet) จะช่วยประเมินค่าการบีบตัวหัวใจ (EF) ได้แม่นยำ

4. อาหาร Grain-Free ที่มีถั่วลันเตา มันฝรั่ง หรือเลนทิลสูง “อาจสัมพันธ์กับการเกิด DCM”

จากรายงานของ FDA (สหรัฐอเมริกา) ปี 2019
พบความสัมพันธ์ที่น่าสงสัยระหว่าง อาหารสูตร Grain-Free ที่มีถั่วลันเตา เลนทิล หรือมันฝรั่ง
กับการเกิด DCM ในหมาหลายพันธุ์ที่ไม่มีประวัติพันธุกรรมมาก่อน

เหตุผลที่น่าสงสัย:

• ถั่วและเลนทิลอาจขัดขวางการดูดซึมทอรีน

• ทอรีนเป็นกรดอะมิโนสำคัญต่อการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ

ข้อควรรู้: ควรหลีกเลี่ยงการให้อาหารที่มีวัตถุดิบเหล่านี้ในปริมาณสูง โดยไม่ปรึกษาสัตวแพทย์ด้านโภชนาการ

5. หมา DCM ที่ได้รับยาครบถ้วน และปรับพฤติกรรมการกิน-ออกกำลังกาย “มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นถึง 70%”

จากการศึกษาของ WALTHAM Petcare Science
พบว่า หมาที่ได้รับการรักษาและดูแลอย่างเหมาะสม (ทั้งยา อาหาร และกิจกรรม)
จะมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดใน 70% ของกรณี
โดยสามารถใช้ชีวิตปกติ วิ่งเล่นเบาๆ และกินได้ดีเหมือนเดิม

คำแนะนำ:

• ใช้สายจูงแบบรัดอก ไม่รัดคอ

• งดกิจกรรมที่ทำให้น้องตื่นเต้นเกินไป

• แบ่งอาหารเป็นมื้อย่อย 2–3 มื้อต่อวัน

• บันทึกอัตราการหายใจตอนนอนเป็นประจำ

เทคนิคเสริม: ใช้แอป Lazadog Health Tracker ตรวจพฤติกรรมการหายใจ เพื่อวิเคราะห์สุขภาพหัวใจแบบไม่ต้องเดา

โรคหัวใจโตในหมา (DCM) ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่คิด
โดยเฉพาะถ้าคุณเลี้ยงหมาพันธุ์ใหญ่ หรือให้อาหารแบบ Grain-Free โดยไม่เข้าใจส่วนผสม
การตรวจสุขภาพหัวใจตั้งแต่ยังไม่แสดงอาการคือทางเลือกที่ดีที่สุด
เพราะเมื่อหัวใจน้องเริ่มส่งสัญญาณ… บางครั้งมันก็ช้าไปแล้ว

#โรคหัวใจโตในหมา #DCMในสุนัขคืออะไร #ตรวจหัวใจหมาก่อนสายเกินไป #สุขภาพหัวใจดีน้องหมาก็วิ่งได้ #Lazadogห่วงใยหัวใจน้องหมา

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com