เปิด 5 สถิติน่ารู้ “อาหารลูกหมาแบบไหนดีสุด?” เลือกผิดอาจโตช้า ระบบย่อยรวน น้ำหนักเกิน หรือกระดูกไม่แข็งแรง

ลูกหมาไม่เหมือนหมาโตครับ!
ช่วง 1 ปีแรกของชีวิตถือเป็น "ปีทอง" ที่การเจริญเติบโตรวดเร็วที่สุด ถ้าคุณให้ลูกหมากินอาหารที่เหมาะสมในช่วงนี้ น้องจะเติบโตสมวัย แข็งแรง และมีพัฒนาการดีตั้งแต่กระดูก สมอง ไปจนถึงระบบภูมิคุ้มกัน

วันนี้ผมเลยขอพาทุกคนมาเจาะลึก 5 สถิติน่ารู้เกี่ยวกับอาหารลูกหมา ที่คุณไม่ควรมองข้าม พร้อมข้อมูลจากสัตวแพทย์และแหล่งวิจัยทั่วโลก ที่ช่วยให้คุณเลือกอาหารที่ “ใช่” สำหรับน้องหมาของคุณได้แบบโปรๆ

1. ลูกหมาโตเร็วกว่าเด็กทารก “ถึง 20 เท่า” ในช่วง 6 เดือนแรก

จากข้อมูลของ American Veterinary Medical Association (AVMA) ระบุว่า
ลูกหมาจะเติบโตเร็วมากในช่วงอายุ 2–6 เดือน โดยอัตราการเจริญเติบโตของร่างกายเร็วกว่าเด็กแรกเกิดถึง 20 เท่า

แปลว่าอะไร?

• ลูกหมาต้องการพลังงานมากกว่าหมาโตถึง 2 เท่า

• ต้องการโปรตีนคุณภาพสูง ไขมันดี และแคลเซียมที่สมดุล

• ถ้าอาหารไม่ครบถ้วน อาจส่งผลต่อพัฒนาการของสมอง กระดูก และระบบภูมิคุ้มกัน

ข้อควรรู้: อาหารลูกหมาควรมีโปรตีนไม่ต่ำกว่า 22% และไขมันไม่ต่ำกว่า 8% (ตามมาตรฐาน AAFCO)

2. 67% ของเจ้าของลูกหมาในไทย “เลือกอาหารจากแบรนด์ที่เคยได้ยิน” มากกว่าดูคุณค่าทางโภชนาการ

จากการสำรวจของ PetCare Thailand ปี 2566
เจ้าของลูกหมา 67% เลือกอาหารโดยอิงจาก

• แบรนด์ที่คุ้นเคย

• คำแนะนำจากเพื่อน

• โปรโมชั่น
  มากกว่าการพิจารณาฉลากโภชนาการหรือปรึกษาสัตวแพทย์

ปัญหาที่พบ:

• เลือกสูตรสำหรับหมาโต

• ปริมาณโปรตีนไม่พอ

• มีสารเติมแต่งหรือโซเดียมเกินที่ลูกหมารับได้

เคล็ดลับ: มองหาฉลาก “ครบถ้วนและสมดุล” (Complete & Balanced) และผ่านมาตรฐาน AAFCO หรือ NRC

3. ลูกหมาต่างสายพันธุ์ ต้องการอาหารต่างชนิดกัน

ไม่ใช่ลูกหมาทุกตัวจะกินสูตรเดียวกันได้นะครับ!
ลูกหมาพันธุ์เล็ก (เช่น ปอม ชิสุ) ต้องการพลังงานมากกว่า เพราะอัตราการเผาผลาญสูง
ลูกหมาพันธุ์ใหญ่ (เช่น ลาบราดอร์ โกลเด้น) ต้องระวังไม่ให้โตเร็วเกินไป เพราะเสี่ยงข้อสะโพกเสื่อม

สถิติน่าสนใจ:

• ลูกหมาพันธุ์เล็ก ต้องการพลังงานเฉลี่ย 50–60 kcal ต่อกิโลกรัม/วัน

• ลูกหมาพันธุ์ใหญ่ควรจำกัดแคลเซียมไม่เกิน 1.5% และฟอสฟอรัสไม่เกิน 1.2% เพื่อป้องกันกระดูกผิดรูป

ข้อควรรู้: เลือกสูตร Puppy ที่ระบุ “สำหรับพันธุ์เล็ก” หรือ “Large Breed Puppy” เพื่อความเหมาะสม

4. ลูกหมาที่กินอาหารเม็ดคุณภาพสูง “มีระบบขับถ่ายและผิวหนังดีกว่า” ถึง 78%

งานวิจัยจาก WALTHAM Petcare Science พบว่า
ลูกหมาที่กินอาหารเม็ดที่มีไฟเบอร์ดี, โอเมก้า 3, โปรตีนจากเนื้อสัตว์แท้
มีโอกาสขับถ่ายเป็นปกติ ผิวหนังแข็งแรง และขนไม่ร่วงถึง 78%

ดูยังไงว่าอาหารดี?

• โปรตีนจาก “เนื้อสัตว์จริง” (ไม่ใช่ By-product)

• มีกรดไขมันโอเมก้า 3 (จากปลาแซลมอนหรือน้ำมันปลา)

• ไม่มีสี กลิ่น หรือสารกันเสียสังเคราะห์

กลเม็ด: ถ้าน้องถ่ายเหลวหรือคันบ่อย อาจต้องเปลี่ยนสูตรอาหารทันที

5. ลูกหมาที่กินอาหารตรงตามสูตร “โตได้เต็มศักยภาพ” ทั้งด้านร่างกายและพฤติกรรม

ข้อมูลจากสมาคมสัตวแพทย์ทั่วโลก (WSAVA) พบว่า
ลูกหมาที่ได้รับสารอาหารครบถ้วนตามสูตรมาตรฐาน
จะมีพฤติกรรมกระตือรือร้น ฉลาดไว และเข้าสังคมได้ดีกว่า
ในขณะที่ลูกหมาที่ขาดสารอาหารอาจมีภาวะเบื่ออาหาร ง่วงนานกว่าปกติ หรือมีพฤติกรรมซึม

เทคนิคการให้อาหาร:

• แบ่งเป็น 3 มื้อ/วัน ในช่วง 2–6 เดือนแรก

• ค่อยๆ ปรับลดเหลือ 2 มื้อเมื่ออายุเกิน 6 เดือน

• ควบคุมน้ำหนักเสมอด้วยตาราง BCS (Body Condition Score)

เทคนิคเสริม: ใช้แอป Lazadog Health Tracker ช่วยบันทึกน้ำหนักและชนิดอาหารแต่ละมื้อได้แบบเรียลไทม์

อาหารลูกหมาไม่ใช่แค่เรื่อง “อิ่มท้อง”
แต่เป็นรากฐานสำคัญของสุขภาพ การเจริญเติบโต และพฤติกรรมในอนาคต
ยิ่งเลือกถูก ยิ่งช่วยให้น้องหมาโตเต็มศักยภาพ ทั้งร่างกาย แข็งแรง และจิตใจสดใส พร้อมใช้ชีวิตอย่างแฮปปี้กับเจ้าของไปอีกหลายปี

#อาหารลูกหมาเลือกให้ถูกตั้งแต่วันแรก #สูตรลับหมาโตไวสุขภาพดี #โภชนาการลูกหมา #อาหารหมาตามสายพันธุ์ #Lazadogดูแลครบตั้งแต่คำแรก

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com