เปิด 5 สถิติน่ารู้ “ให้อาหารหมาเยอะไปไหม?” เช็กให้ชัวร์ก่อนสุขภาพจะพังแบบไม่รู้ตัว
การเลี้ยงหมาให้แข็งแรงไม่ได้อยู่ที่ให้อาหารแพงแค่ไหน แต่ อยู่ที่ให้พอดีแค่ไหนต่างหากครับ!
เพราะถ้าให้น้อยไป หมาก็ขาดสารอาหาร ซูบผอม พลังงานตก
แต่ถ้าให้มากไป ก็อ้วน เสี่ยงโรคข้อ โรคหัวใจ หรือเบาหมา (!)
ดังนั้นเจ้าของอย่างเราๆ จึงต้องรู้ว่า เท่าไหร่ถึงจะเรียกว่า “พอดี” จริงๆ
วันนี้ผมขอพาไปดู 5 สถิติน่ารู้เกี่ยวกับปริมาณอาหารหมา ที่จะช่วยให้คุณวางแผนการให้อาหารได้แบบไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไปครับ
จากข้อมูลของ Association for Pet Obesity Prevention (APOP)
พบว่า มากกว่าครึ่งของหมาที่ไปหาหมอทั่วโลก อยู่ในภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน
และที่น่าตกใจกว่าคือ 90% ของเจ้าของ “ไม่รู้เลยว่าน้องอ้วน”
จับซี่โครง: ถ้าจับไม่เจอหรือคลำยาก = อ้วน
มองจากด้านบน: ถ้าไม่มี “เอว” = อ้วน
ขนฟูไม่ใช่ข้ออ้าง หมาผอมต้องคลำเจอโครงกระดูกเบาๆ ได้เสมอ
ข้อควรรู้: หมาอ้วนมีอายุขัยเฉลี่ยสั้นลง 1.5–2 ปี เทียบกับหมาน้ำหนักปกติ
จากงานวิจัยของ WALTHAM Petcare Science
การให้อาหารหรือขนมเกินความต้องการเพียง 20% ต่อวัน
อาจทำให้หมาสะสมไขมันเร็วขึ้นถึง 3 เท่า โดยไม่ทันรู้ตัว
หมาขนาดกลาง (10–12 กก.) ต้องการพลังงานประมาณ 500–700 Kcal/วัน
ให้ขนมเพิ่มอีก 200 Kcal จากไก่ต้ม ไส้กรอก ฯลฯ = พลังงานเกินทันที
ถ้าให้แบบนี้ทุกวัน 1 เดือน น้ำหนักอาจพุ่งขึ้น 1–2 กก.
กลเม็ด: ใช้ตาชั่งชั่งอาหารแทนการ “กะๆ เอา” ชีวิตหมาจะดีขึ้นเยอะ!
จากผลสำรวจของ Royal Canin
เจ้าของ 8 ใน 10 คนไม่เคยอ่านฉลากอาหารหมา หรืออ่านแต่ไม่เข้าใจคำว่า kcal/100g หรือ “น้ำหนักตัวต่อวัน”
ส่วนใหญ่ใช้วิธีเดิมทุกวัน เช่น "ถ้วยนี้แหละพอแล้ว" หรือ "ดูว่าน้องยังหิวไหม"
หาน้ำหนักตัวน้อง = เช่น 8 กก.
ดูตารางว่าให้กี่กรัมต่อวัน = เช่น 140 กรัม
แบ่งออกเป็น 2 มื้อ (เช้า-เย็น)
ใช้ตาชั่งในครัวช่วยได้แม่นสุด
เทคนิค: แอป Lazadog Tracker มีฟีเจอร์คำนวณอาหารตามน้ำหนักตัวอัตโนมัติ ลองใช้ได้ฟรีเลยครับ
จากข้อมูลของ American College of Veterinary Nutrition (ACVN)
ลูกหมาอายุ 2–6 เดือน มีอัตราการเจริญเติบโตเร็วที่สุดในชีวิต
ต้องการพลังงานมากกว่าหมาโต 1.5–2 เท่า ตามสายพันธุ์
ถ้าให้น้อยไป อาจทำให้น้ำหนักไม่ขึ้น โตช้า หรือขนไม่สวย
อาหารสูตร Puppy เท่านั้น (ห้ามใช้สูตร Adult หรือ All stages ถ้าไม่ได้รับคำแนะนำ)
แบ่งเป็น 3–4 มื้อต่อวัน
เพิ่มปริมาณทุก 1–2 สัปดาห์ตามน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น
ข้อควรรู้: หมาโตสายพันธุ์ใหญ่ต้องการแคลเซียมสมดุลในสัดส่วนที่เฉพาะ ต้องเลือกสูตรเฉพาะพันธุ์
จากแนวทางของ World Small Animal Veterinary Association (WSAVA)
การให้อาหารแบบ measured feeding หรือ timed feeding
ช่วยควบคุมน้ำหนัก และลดปัญหากินเกินได้ถึง 67%
โดยเฉพาะกับหมาที่มีแนวโน้มขอกินทุกครั้งที่มีเสียงเปิดตู้เย็น
ให้อาหาร 2 มื้อต่อวัน (เช้า–เย็น)
กำหนดเวลาชัดเจน เช่น 7.00 น. และ 17.30 น.
เก็บชามออกเมื่อครบ 15–20 นาที ถ้าน้องไม่กินทันที
เทคนิคเสริม: อย่าทำให้ “การขอของกิน” กลายเป็นเกมที่น้องชนะได้ด้วยสายตาอ้อน
การให้อาหารน้องหมาไม่ใช่แค่ “เยอะหรือพอ” แต่คือการให้อย่างเข้าใจ
รู้จักน้ำหนักตัว พฤติกรรม และพลังงานที่ต้องการต่อวัน
เพราะถ้าให้น้อยไป หมาก็โทรม
ถ้าให้มากไป หมาก็อ้วน
และถ้าหมากินดี แต่อยู่เฉยทั้งวัน ก็เสี่ยงสะสมไขมันโดยไม่รู้ตัว
จำไว้นะครับ... “ชามข้าวหมา” คือจุดเริ่มต้นของสุขภาพดีแบบระยะยาว
#ให้อาหารหมาพอดีไม่ใช่พอใจ #หมาอ้วนไม่ใช่หมาน่ารักเสมอไป #สุขภาพดีเริ่มที่ช้อนตวง #วางแผนมื้อหมาแบบมือโปร #Lazadogเลี้ยงหมาเข้าใจจริง
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com