เปิด 5 สถิติน่ารู้ “หลอดเลือดหัวใจตีบในหมา” โรคเงียบที่เจอในลูกหมามากกว่าที่คุณคิด!
แม้น้องหมาจะดูแข็งแรง ร่าเริง กินเก่ง วิ่งไล่จิ้งจกไม่รู้เหนื่อย
แต่บางครั้งโรคที่ซ่อนอยู่ข้างในกลับ “เงียบ” และ “รุนแรง” โดยไม่แสดงอาการจนเข้าสู่ระยะอันตราย
หนึ่งในนั้นคือ โรคพัลโมนิก สเตอโนซิส หรือ ภาวะตีบของลิ้นหัวใจด้านขวา ซึ่งเป็นตัวควบคุมการไหลเวียนเลือดจากหัวใจไปยังปอด
บทความนี้จะพาไปดู 5 สถิติน่ารู้เกี่ยวกับโรคนี้ พร้อมวิธีสังเกตเบื้องต้นที่เจ้าของควรรู้ ก่อนหัวใจของน้องหมาจะทำงานหนักเกินไปแบบไม่ทันตั้งตัวครับ
จากรายงานของ Veterinary Cardiology Society
โรคหัวใจแต่กำเนิดที่พบบ่อยในหมาคือ PDA (Patent Ductus Arteriosus) ตามด้วย Pulmonic Stenosis (PS)
คิดเป็นประมาณ 20–30% ของโรคหัวใจในลูกหมาทั้งหมด
ปั๊ก (Pug)
บูลด็อก (Bulldog)
บีเกิ้ล (Beagle)
บ็อกเซอร์ (Boxer)
เทอร์เรียร์บางสายพันธุ์ เช่น เวสต์ตี้
ข้อควรรู้: โรคนี้ไม่สามารถป้องกันได้ แต่ “สามารถตรวจพบตั้งแต่ลูกหมาอายุ 8 สัปดาห์ขึ้นไป”
ข้อมูลจาก American College of Veterinary Internal Medicine (ACVIM)
พบว่า น้องหมาที่เป็นโรค PS ส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการจนกว่าจะโต หรือหัวใจเริ่มทำงานหนักกว่าปกติ
เจ้าของจึงมักไม่รู้ตัว จนเกิดอาการแทรกซ้อน เช่น หอบง่าย เป็นลม หรือหัวใจล้มเหลว
หายใจหอบเวลาออกกำลังกาย
เป็นลมขณะวิ่งหรือเล่นแรง
พฤติกรรมเฉื่อยลงแบบกะทันหัน
มีเสียงฟู่ในหัวใจจากการตรวจโดยสัตวแพทย์
เคล็ดลับ: ขอให้สัตวแพทย์ฟังเสียงหัวใจตอนพาน้องไปฉีดวัคซีน เพื่อจับอาการตั้งแต่ระยะแรก
แม้จะตรวจพบเสียงหัวใจผิดปกติจากการฟังด้วย Stethoscope ได้เบื้องต้น
แต่ การยืนยันโรคพัลโมนิก สเตอโนซิสต้องใช้การอัลตราซาวด์หัวใจ (Echo) เป็นหลัก
เพื่อดูความหนา ความตีบ และความดันที่หัวใจห้องขวา
ตรวจ Echo: 2,000–4,500 บาท
ตรวจ EKG เพิ่ม: 1,200–2,000 บาท
ทำ Ballon Valvuloplasty (ผ่าตัดเปิดลิ้นหัวใจ): 40,000–80,000 บาท (ในกรณีรุนแรง)
ข้อควรรู้: หมอโรคหัวใจเฉพาะทางสัตว์มีน้อย ควรนัดล่วงหน้า และปรึกษาคลินิกที่มีอุปกรณ์ครบ
จากแนวทางของ University of Florida College of Veterinary Medicine
หมาที่เป็น PS ระดับ 1–2 มักไม่จำเป็นต้องผ่าตัด
แต่ต้องตรวจติดตามทุก 6 เดือน–1 ปี และปรับการใช้ชีวิตให้ไม่กระตุ้นหัวใจทำงานหนัก
หลีกเลี่ยงกิจกรรมวิ่ง กระโดด หรือเล่นนานๆ
ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์
ตรวจ Echo ทุกปี
ใช้ยา beta-blockers ในบางกรณีที่แนะนำโดยสัตวแพทย์
กลเม็ด: ทำบันทึกอาการน้องหมา เช่น เหนื่อยง่ายผิดปกติ หรือพฤติกรรมเปลี่ยน เพื่อใช้ประกอบการประเมินอาการ
จากรายงานของ Journal of Veterinary Internal Medicine
หากตรวจพบเร็ว และดูแลตามคำแนะนำของสัตวแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
หมาที่เป็นโรค PS สามารถมีอายุขัยเท่ากับหมาที่ไม่มีโรคหัวใจได้ถึง 85% โดยไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดเลย
ไม่ต้องเปลี่ยนอาหารพิเศษ (ยกเว้นมีโรคแทรกซ้อน)
ใช้ชีวิตตามปกติได้ หากปรับกิจกรรม
เจ็บป่วยน้อยลง เพราะรู้วิธีดูแลเฉพาะจุด
เทคนิคเสริม: ใช้แอป Lazadog Health Tracker บันทึกอัตราการหายใจขณะหลับ หรือตรวจพฤติกรรมซึม เพื่อแจ้งหมอทันทีเมื่อน่าสงสัย
โรคพัลโมนิก สเตอโนซิส (Pulmonic Stenosis) ไม่ใช่โรคใหม่
แต่คือ “โรคหัวใจที่ซ่อนอยู่เงียบๆ” โดยที่หมายังดูแข็งแรง
ยิ่งคุณรู้เร็ว ยิ่งช่วยให้น้องหมามีชีวิตยืนยาว สุขภาพดี และวิ่งเล่นได้แบบไม่เหนื่อยง่าย
ดังนั้น... อย่าลืมให้หมอฟังเสียงหัวใจน้องทุกครั้งที่ไปหาหมอนะครับ!
#โรคหัวใจในหมาตรวจได้ตั้งแต่เล็ก #น้องหมาหัวใจแข็งแรงเริ่มที่เจ้าของใส่ใจ #หลอดเลือดหัวใจตีบในหมาคืออะไร #Lazadogห่วงหัวใจน้องหมา #ตรวจโรคแต่เนิ่นน้องหมายิ้มได้
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com