5 เหตุผล! โรคตับและถุงน้ำดีในแมว…ไม่ใช่เรื่องไกลตัว (และอาจกำลังค่อยๆ คร่าชีวิตแมวคุณแบบเงียบๆ) (อัปเดท 2025)

Apr 20, 2025
healthy สุขภาพ
5 เหตุผล! โรคตับและถุงน้ำดีในแมว…ไม่ใช่เรื่องไกลตัว (และอาจกำลังค่อยๆ คร่าชีวิตแมวคุณแบบเงียบๆ) (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

5 เหตุผล! โรคตับและถุงน้ำดีในแมว…ไม่ใช่เรื่องไกลตัว (และอาจกำลังค่อยๆ คร่าชีวิตแมวคุณแบบเงียบๆ)

เวลาเราพูดถึง “แมวป่วย” หลายคนอาจนึกถึงหวัดแมว ไข้หวัดแมว หรือโรคในระบบทางเดินอาหาร
แต่รู้ไหมครับว่า โรคตับและถุงน้ำดี คือภัยเงียบที่อันตรายมาก และมักถูกวินิจฉัยช้าเพราะอาการไม่ชัดเจน

แมวที่มีปัญหาตับมักไม่แสดงอาการชัดในช่วงแรก แต่ถ้าปล่อยไว้ อาจนำไปสู่ภาวะ “ตับวาย” หรือ “ภาวะดีซ่าน” ได้

มาดู 5 เหตุผลที่คุณควรเริ่มสังเกต และเข้าใจโรคตับ-ถุงน้ำดีในแมวอย่างจริงจัง เพื่อดูแลเจ้านายตัวน้อยให้มีชีวิตยืนยาวขึ้นแบบมือโปร


1. โรคตับในแมวพบได้มากกว่าที่คิด และไม่ได้เกิดจาก “ความชรา” เสมอไป

โรคตับในแมวสามารถเกิดได้ตั้งแต่วัยกลางคน โดยเฉพาะแมวที่มีน้ำหนักเกิน กินอาหารไม่สมดุล หรือเคยมีโรคในระบบทางเดินอาหาร

“มากกว่า 12% ของแมวที่มาตรวจสุขภาพประจำปี พบค่าตับผิดปกติ แม้ไม่มีอาการป่วยชัดเจน”
Feline Internal Medicine Journal, 2022

ข้อควรรู้:

  • โรคตับไม่ได้เกิดจากอายุเสมอไป แต่เกี่ยวกับพฤติกรรมการกิน ความเครียด และโรคแทรกซ้อน

  • ตรวจเลือดปีละครั้งช่วยค้นหาโรคตับระยะแรกได้


2. ถุงน้ำดีแมวมีจริง และเป็นอวัยวะที่ “สำคัญแต่ถูกลืม”

ถุงน้ำดีทำหน้าที่เก็บน้ำดีที่ใช้ย่อยไขมัน และหากมีการอักเสบ หรือเกิดนิ่ว อาจส่งผลต่อระบบตับและลำไส้โดยตรง
โดยเฉพาะในแมวอ้วน หรือแมวที่กินอาหารไขมันสูง

“แมวที่เป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี หรือ cholangitis มีโอกาสเกิดตับอักเสบร่วมด้วยในกว่า 70% ของเคส”
Veterinary Digestive System Review, 2023

สัญญาณเตือนถุงน้ำดีมีปัญหา:

  • อาเจียนเรื้อรัง

  • ท้องอืด เบื่ออาหาร

  • ขนแห้ง หยาบ

  • อุจจาระซีด หรือเปลี่ยนสี


3. แมวที่ “หยุดกินอาหาร” เกิน 2 วัน อาจเข้าสู่ภาวะไขมันพอกตับทันที

แมวไม่สามารถอดอาหารได้นานเหมือนสัตว์ชนิดอื่น
หากหยุดกิน 2–3 วัน โดยเฉพาะในแมวอ้วน ร่างกายจะนำไขมันไปใช้พลังงานมากเกินจนเกิด โรคไขมันพอกตับ (Hepatic Lipidosis) ซึ่งอันตรายถึงชีวิต

“อัตราการเสียชีวิตจากไขมันพอกตับในแมวสูงถึง 40% หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที”
American Association of Feline Practitioners, 2021

เคล็ดลับ:

  • อย่าปล่อยให้แมวหยุดกินอาหารเกิน 24–48 ชั่วโมง

  • หากแมวเบื่ออาหาร ควรปรึกษาสัตวแพทย์ทันที


4. ตับและถุงน้ำดีมีผลต่ออวัยวะอื่น เช่น ไต ลำไส้ และภูมิคุ้มกัน

เมื่อตับทำงานผิดปกติ จะส่งผลให้ร่างกายสะสมสารพิษ ทำให้ระบบอื่นๆ เสื่อมตาม เช่น

  • ไตวายเรื้อรัง

  • ลำไส้อักเสบ

  • ภูมิคุ้มกันลดลง

  • ภาวะดีซ่าน ตาเหลือง เหงือกซีด

“แมวที่มีโรคตับเรื้อรังมีโอกาสเกิดโรคไตตามมาใน 30% ภายใน 12 เดือน”
Feline Systemic Disease Consortium, 2022

คำแนะนำ:

  • ตรวจเลือดและอัลตราซาวนด์ตับ/ถุงน้ำดีหากมีอาการผิดปกติ

  • อาหารสูตรตับ (Liver Support) ช่วยลดภาระการทำงานของตับได้


5. ถ้ารู้เร็ว…โรคตับและถุงน้ำดีในแมว “รักษาและควบคุมได้”

ข่าวดีคือโรคเหล่านี้ไม่ได้หมายถึงจุดจบเสมอไป
การวินิจฉัยตั้งแต่ระยะแรก + อาหารที่เหมาะสม + การรักษาเฉพาะทาง สามารถทำให้แมวกลับมามีคุณภาพชีวิตดีได้

“แมวที่ได้รับการรักษาโรคตับในระยะเริ่มต้น มีอายุยืนยาวขึ้นเฉลี่ย 2.4 ปี เทียบกับแมวที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย”
Feline Hepatology Progress Report, 2023

แนวทางดูแลระยะยาว:

  • เปลี่ยนอาหารเป็นสูตรบำรุงตับ

  • ตรวจเลือดและทำอัลตราซาวนด์ติดตาม

  • เสริมวิตามินกลุ่ม B, E และ Taurine ตามคำแนะนำสัตวแพทย์


ตับและถุงน้ำดีอาจไม่ใช่อวัยวะที่คนพูดถึงบ่อยนัก แต่ในโลกของแมว พวกมันคือ “จุดสำคัญที่ควบคุมสุขภาพทั้งระบบ”
อย่ารอให้แมวแสดงอาการหนักถึงค่อยรู้ตัว เพราะโรคตับคือหนึ่งใน “โรคเงียบที่น่ากลัวที่สุด” ของแมว

แค่คุณใส่ใจเรื่องการกิน การตรวจสุขภาพ และสังเกตอาการแมวอย่างละเอียด ก็ช่วยยืดชีวิตและคุณภาพชีวิตของแมวได้มหาศาล


❝ตับดี แมวดี…อย่าปล่อยให้โรคเงียบครอบงำแมวแบบไม่รู้ตัว❞

#โรคตับในแมว #ถุงน้ำดีแมว #แมวไม่ยอมกิน #ไขมันพอกตับแมว #Lazadogรู้ใจแมว


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts