5 เหตุผล! แมวอ้วนไม่ได้น่ารักเสมอไป (และอาจเสี่ยงถึงชีวิตถ้าคุณยังปล่อยไว้)
“แมวอ้วน” ในโลกโซเชียลอาจจะดูน่ารัก ตลก นุ่มนิ่มน่าฟัด
แต่ในโลกความจริงแล้ว แมวที่อ้วนเกินไป กำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพหลายด้านที่คุณอาจไม่เคยรู้
ในไทยตอนนี้ แมวบ้านกว่า 1 ใน 4 มีภาวะน้ำหนักเกิน และมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี
บทความนี้จะพาคุณไปรู้ว่า…ความน่ารักที่เพิ่มขึ้นของพุงแมว อาจเป็น “ภัยเงียบ” ที่เจ้าของควรหยุดมองว่าเป็นเรื่องขำๆ ได้แล้ว
แมวที่มีไขมันสะสมมาก โดยเฉพาะรอบหน้าท้อง จะทำให้ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน และเสี่ยงต่อเบาหวาน
ซึ่งต้องรักษาด้วยการฉีดอินซูลินทุกวัน (ใช่ครับ…ฉีดยาทุกวันจริงๆ)
“แมวอ้วนมีโอกาสเป็นเบาหวานสูงกว่าแมวปกติถึง 3 เท่า”
– Journal of Feline Medicine and Surgery, 2022
ข้อควรรู้:
เบาหวานในแมววินิจฉัยยาก ต้องตรวจเลือดเฉพาะ
สัญญาณเริ่มต้น เช่น ดื่มน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย น้ำหนักลดแม้กินเยอะ
แมวที่มีน้ำหนักมากจะเกิดแรงกดที่ข้อต่อทุกครั้งที่เดิน กระโดด หรือปีนป่าย
ซึ่งในระยะยาวอาจเกิดภาวะข้อเสื่อม ปวดขา หรือเดินผิดปกติ
“มากกว่า 60% ของแมวอายุ 6 ปีขึ้นไปที่มีน้ำหนักเกิน แสดงอาการปวดข้อ”
– Veterinary Orthopedic Society, 2021
เคล็ดลับ:
ตรวจสอบพฤติกรรมแมวว่าเลี่ยงการกระโดดหรือเล่นน้อยลงหรือไม่
ควบคุมน้ำหนักเพื่อป้องกันโรคข้อโดยไม่ต้องพึ่งยา
ไขมันพอกตับ หรือ Hepatic Lipidosis คือภาวะที่เกิดขึ้นบ่อยในแมวอ้วนที่หยุดกินอาหารกะทันหัน เช่น เวลาเครียด
ตับจะพยายามดึงไขมันมาใช้ แต่เพราะระบบย่อยของแมวไม่พร้อมกับไขมันมากๆ จึงกลายเป็นตับวายเฉียบพลันได้
“ภาวะไขมันพอกตับเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ในแมวอ้วนที่ป่วยเฉียบพลัน”
– American Association of Feline Practitioners, 2023
ข้อควรรู้:
ถ้าแมวหยุดกินอาหารเกิน 48 ชั่วโมง ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์
ลดน้ำหนักต้องค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรงดอาหารทันที
ความน่ารักของแมวไม่ใช่แค่ขนนุ่ม แต่คือ “ความกระตือรือร้น” “ความอยากรู้อยากเห็น” และ “ความเป็นนักล่า”
แต่แมวอ้วนจะเหนื่อยง่าย ง่วงนอน ไม่กระโดด ไม่ไล่ของเล่น ทำให้สุขภาพจิตเสื่อมโทรมไปพร้อมๆ กับสุขภาพร่างกาย
“แมวที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์เฉลี่ย 20% แสดงพฤติกรรมซึมเศร้าและเบื่ออาหารมากกว่าปกติถึง 2 เท่า”
– International Cat Care, 2022
เคล็ดลับ:
ใช้ของเล่นที่กระตุ้นให้แมวเคลื่อนไหว เช่น ไม้ตกแมว ลูกบอล หรือแสงเลเซอร์
แบ่งเวลาเล่นกับแมววันละ 10–15 นาที ช่วยเผาผลาญพลังงานและลดความเครียด
แมวไม่ควรลดน้ำหนักแบบหักดิบ เพราะจะเสี่ยงไขมันพอกตับ
การควบคุมต้องใช้เวลา โดยปกติควรลดน้ำหนักแค่ 0.5–1% ของน้ำหนักตัวต่อสัปดาห์ เท่านั้น
“แมวที่ลดน้ำหนักได้อย่างเหมาะสมจะมีอายุยืนขึ้นเฉลี่ย 1.8 ปี เทียบกับแมวที่ปล่อยให้อ้วนต่อเนื่อง”
– Feline Longevity Study, 2021
แนวทางการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย:
เปลี่ยนอาหารเป็นสูตรควบคุมน้ำหนัก (Low Fat/High Protein)
ให้อาหารตามตาราง ไม่วางอาหารทิ้งไว้ทั้งวัน
วัดปริมาณอาหารด้วยช้อนตวง และไม่ให้ของว่างบ่อยเกินไป
แมวอ้วนไม่ใช่แค่เรื่องของรูปร่าง แต่มันคือ "สัญญาณเตือน" ว่าแมวของคุณอาจกำลังเสี่ยงกับโรคหลายชนิดที่คุณไม่เคยคาดคิด
เพราะในท้ายที่สุด ความรักที่แท้จริงคือการดูแลให้น้องแมวสุขภาพดี ไม่ใช่แค่น่ารักเวลานั่งจ้ำม่ำบนโซฟา
❝แมวอ้วนไม่ใช่แค่ตุ้ยนุ้ย แต่มันคือความเสี่ยงที่ต้องรีบจัดการ❞ #แมวอ้วนต้องระวัง #ควบคุมน้ำหนักแมว #สุขภาพแมวดีไม่มีพุง #รักแมวต้องเข้าใจ #Lazadogรู้ใจแมว
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com