5 เรื่องน่าตกใจ! ไส้เดือนแมว (Toxocara cati) ไม่ได้อยู่แค่ในตัวแมว แต่อาจลามถึงคนแบบไม่รู้ตัว

เคยคิดไหมครับว่า "แค่พยาธิไส้เดือนในแมว จะน่ากลัวอะไรนักหนา?"
แต่ถ้าผมบอกว่า มันสามารถแพร่สู่คนได้ และอาจส่งผลถึงดวงตา ตับ หรือแม้แต่สมองของคุณ
ฟังดูน่าตกใจใช่ไหมครับ?

พยาธิชนิดนี้ชื่อว่า Toxocara cati หรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่า "พยาธิไส้เดือนแมว"
และแม้จะดูเป็นเรื่องเฉพาะของแมว แต่มนุษย์เรา—โดยเฉพาะเด็กเล็ก—ก็มีโอกาสติดได้หากไม่ระวัง

วันนี้ผมจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 5 เรื่องที่คุณ (อาจ) ยังไม่รู้เกี่ยวกับเจ้าไส้เดือนจิ๋วตัวนี้
พร้อมเทคนิคการป้องกันแบบทาสแมวมือโปร ที่ช่วยให้แมวปลอดภัย และเจ้าของไม่เสี่ยงครับ!

1. พยาธิ Toxocara cati มีในแมวมากกว่าที่คิด!

“จากงานวิจัยในประเทศไทย พบว่าแมวจรจัดมีอัตราการติด Toxocara cati สูงถึง 67% และแมวบ้านที่ไม่ได้ถ่ายพยาธิก็มีโอกาสสูงเช่นกัน”
– ข้อมูลจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

กลุ่มเสี่ยงสูง:

• ลูกแมวที่ยังไม่เคยถ่ายพยาธิ

• แมวที่ชอบออกนอกบ้าน

• แมวที่กินหนู จิ้งจก หรือแมลงเป็นของเล่น

• แมวที่เลี้ยงรวมในบ้านหลายตัว โดยไม่มีการถ่ายพยาธิหมุนเวียน

ข้อควรรู้:
พยาธินี้สามารถอาศัยอยู่ในลำไส้แมวได้ยาวนาน และขับไข่ออกมาทางอุจจาระทุกวัน โดยไม่มีอาการใดๆ

2. พยาธิไส้เดือนแมวสามารถ “แพร่สู่คนได้” โดยเฉพาะในเด็กเล็ก

Toxocara cati ไม่ได้หยุดแค่ในตัวแมว
ไข่พยาธิที่ออกมากับอุจจาระแมว สามารถเจริญในสิ่งแวดล้อมได้นานหลายเดือน
หากมนุษย์ (โดยเฉพาะเด็ก) กลืนไข่เข้าไปโดยไม่รู้ตัว เชื้อจะฟักในลำไส้แล้ว “เดินทางไปทั่วร่างกาย”

อาการในคน:

• คลื่นไส้ ไข้ต่ำ ปวดท้อง

• อาการทางตา เช่น ตาพร่ามัว หรือจุดบอด

• อาการรุนแรง เช่น อักเสบของตับหรือสมอง (พบได้น้อยแต่เป็นไปได้)

“ในบางประเทศ พบว่าเด็กที่เล่นทรายหรือดินโดยไม่ล้างมือ มีอัตราการสัมผัสเชื้อ Toxocara สูงถึง 30%”
– ข้อมูลจาก WHO, 2022

3. ไข่พยาธิในอุจจาระแมวมีชีวิตอยู่ได้นาน “เกือบปี” ในสิ่งแวดล้อม

ไข่ของ Toxocara cati มีเปลือกแข็งมาก และสามารถอยู่ในดิน สนามหญ้า ทราย หรือแม้แต่พื้นบ้านได้ถึง 1 ปีเต็ม
โดยที่ยังพร้อมจะติดเชื้อเมื่อถูกกลืนเข้าสู่ร่างกาย

ข้อควรรู้:
การกวาดพื้นธรรมดาไม่สามารถกำจัดไข่พยาธิได้ ต้องใช้วิธีถูพื้นด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพ และล้างมือเป็นประจำหลังจัดการกระบะทรายหรือทำสวน

4. การถ่ายพยาธิแมวเป็นประจำ = ทางรอดของทั้งแมวและคนในบ้าน

“ลูกแมวควรถ่ายพยาธิทุก 2 สัปดาห์ จนถึงอายุ 3 เดือน และถ่ายต่อเนื่องทุก 3 เดือนหลังจากนั้น”
– แนะนำโดยสมาคมสัตวแพทย์แมวแห่งสหราชอาณาจักร (ISFM)

เทคนิคง่ายๆ:

• ใช้ยาถ่ายพยาธิแบบเม็ด หรือแบบหยดหลังตามคำแนะนำสัตวแพทย์

• บันทึกวันที่ถ่ายพยาธิไว้เพื่อไม่ให้ลืม

• ถ่ายพยาธีพร้อมกันทุกตัวในบ้าน (เพื่อหยุดวงจร)

เคล็ดลับ:
แมวบ้าน 100% ก็ยังควรถ่ายพยาธิ เพราะอาจติดจากรองเท้า คน หรือแมลงที่หลุดเข้ามาในบ้าน

5. การล้างมือ = อาวุธลับในการป้องกัน Toxocara ที่ได้ผลที่สุด

ไม่ว่าคุณจะเลี้ยงแมวหรือไม่ ล้างมือยังคงเป็น “ด่านหน้าป้องกัน” พยาธิทุกชนิด
โดยเฉพาะหลังทำสิ่งเหล่านี้:

• เก็บอุจจาระแมวหรือเปลี่ยนกระบะทราย

• สัมผัสสนามหญ้า/ดิน/ทราย

• ก่อนรับประทานอาหาร

• หลังจับสัตว์เลี้ยงเล่นหรืออุ้มขึ้นมา

“การล้างมือด้วยสบู่อย่างถูกวิธีสามารถลดโอกาสการติดพยาธิในคนได้ถึง 75%”
– งานวิจัยจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH)

ไส้เดือนแมว (Toxocara cati) ไม่ได้เป็นเรื่องของแมวเท่านั้น
แต่มันคือ “เรื่องของทั้งบ้าน” โดยเฉพาะถ้ามีเด็กเล็ก ผู้สูงวัย หรือแมวหลายตัว

แต่ข่าวดีคือ...
แค่รู้ทัน + ถ่ายพยาธิแมวสม่ำเสมอ + ล้างมือเป็นนิสัย
ก็สามารถป้องกันปัญหานี้ได้แบบไม่ต้องเครียดเลยครับ

#พยาธิไส้เดือนแมวไม่ใช่เรื่องเล่น #Toxocaraต้องรู้ทัน #ถ่ายพยาธิแมวเท่ากับถนอมคนในบ้าน #เลี้ยงแมวแบบไม่เสี่ยง #Lazadogห่วงใยทั้งแมวทั้งทาส

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com