5 ข้อควรรู้! แมวเป็นแผลที่ปากหรือขาอาจไม่ใช่แค่แพ้ แต่คือ “Eosinophilic Granuloma Complex” โรคผิวหนังที่คุณต้องรู้จัก

แมวเลียปากบ่อย แผลแดงริมฝีปาก หรือขาเป็นตุ่มๆ คล้ายสิว?
อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นแค่แมวแพ้อาหาร หรือยุงกัดเฉยๆ
เพราะแมวอาจกำลังเจอกับ “โรคผิวหนังเรื้อรัง” ที่ชื่อไม่ค่อยคุ้นแต่เจอบ่อยมากในคลินิกสัตวแพทย์

โรคนี้ชื่อยาวฟังดูวิชาการสุดๆ — Eosinophilic Granuloma Complex (EGC)
แต่ความจริงคือ ถ้ารู้เท่าทัน ดูแลให้ถูก แมวของคุณจะกลับมาใช้ชีวิตแบบไม่มีแผลได้เหมือนเดิม

วันนี้ผมจะพาคุณไปรู้จัก EGC ผ่าน 5 ข้อควรรู้ เข้าใจง่าย เจาะลึกพอให้คุณเป็น “ทาสแมวเวอร์ชั่นผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง” ได้เลยครับ!

1. EGC คืออะไร? ทำไมชื่อยาวขนาดนี้?

Eosinophilic Granuloma Complex (EGC) คือกลุ่มอาการของโรคผิวหนังเรื้อรังในแมว
เกิดจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันของแมวตอบสนองต่อบางสิ่งแรงเกินไป (overreact) จนทำให้เกิดการอักเสบเฉพาะจุด

EGC แบ่งเป็น 3 รูปแบบหลัก:

1. Eosinophilic Ulcer (แผลริมฝีปาก): พบตรงริมฝีปากบน แดง แบน ขอบแข็ง

2. Eosinophilic Plaque (ผื่นนูนแดง): พบที่ท้อง ต้นขา หรือลำตัว

3. Eosinophilic Granuloma (ตุ่มแข็งเหมือนสิว): มักเกิดที่ขาหน้า หรือริมปาก

“โรค EGC พบได้ในแมวทุกเพศทุกวัย แต่แม้เพศเมียอายุน้อยมีแนวโน้มมากกว่า”
– Journal of Feline Dermatology, 2022

2. อาการแบบไหนบอกได้ว่าแมวของคุณอาจเป็น EGC?

แมวที่เป็น EGC มักแสดงอาการชัดเจนบนผิวหนัง บางครั้งอาจเริ่มจากรอยแดงเล็กๆ แต่ลุกลามอย่างรวดเร็ว
และแมวอาจไม่รู้ตัวว่า “เลียหรือเกาแผลตัวเองซ้ำ” จนแผลแย่ลง

สัญญาณที่ควรเฝ้าระวัง:

• แผลริมฝีปากบนหรือล่างที่ไม่หาย

• ตุ่มนูนแดงบนขาหรือท้อง

• ขนร่วงเฉพาะจุด

• เลีย/กัดตัวเองบ่อยในบริเวณเดิม

• ไม่มีอาการเจ็บ แต่แผลดูแปลกและไม่ยอมหาย

ข้อควรรู้:

• แผล EGC มักไม่ติดเชื้อในช่วงแรก

• ถ้าปล่อยไว้อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน

3. อะไรเป็นตัวกระตุ้น EGC? โรคนี้แพ้อะไรกันแน่?

ถึงแม้ชื่อจะดูน่ากลัว แต่สาเหตุหลักของ EGC คือ “การแพ้” ครับ
โดยเฉพาะสิ่งที่มากระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ตอบสนองเกินเหตุ

ตัวกระตุ้นที่พบบ่อย:

• แพ้อาหาร: โปรตีนในอาหาร เช่น ไก่ เนื้อวัว ปลา

• แพ้หมัด: น้ำลายหมัดเป็นสาเหตุหลักอันดับ 1

• แพ้สิ่งแวดล้อม: ไรฝุ่น เชื้อรา หญ้า สารเคมี

“กว่า 70% ของแมวที่มี EGC ตอบสนองดีต่อการรักษาที่ควบคุมหมัดหรือเปลี่ยนอาหาร”
– Veterinary Allergy Review, 2021

4. รักษา EGC ยังไงให้หายขาด (หรืออย่างน้อยไม่กลับมาอีก)

แม้ EGC จะไม่ใช่โรคที่หายขาด 100%
แต่สามารถควบคุมและลดอาการให้แมวมีชีวิตปกติได้
การรักษาเน้นไปที่การลดการอักเสบ และ “ตัดสิ่งกระตุ้น” ที่ทำให้ภูมิแมวแสดงออกเกินจริง

แนวทางรักษา EGC:

• คุมหมัด: ใช้ยาหยอดหลัง เช่น Revolution, Bravecto

• อาหารสูตรแพ้ง่าย: ลองเปลี่ยนเป็นอาหาร Hydrolyzed หรือ Novel Protein อย่างเป็ด กวาง

• ยาสเตียรอยด์: เช่น Prednisolone เพื่อลดการอักเสบ

• ยากดภูมิ: (เฉพาะกรณีเรื้อรัง) เช่น Cyclosporine

• ยาภายนอก: ครีมหรือสเปรย์ลดการอักเสบและฆ่าเชื้อ

ข้อควรรู้:

• ควรรักษาโดยสัตวแพทย์เท่านั้น ห้ามให้สเตียรอยด์เองเด็ดขาด!

• หากตอบสนองดี อาการจะหายภายใน 2–3 สัปดาห์

5. ป้องกัน EGC ได้ไหม?

ไม่มีวิธีป้องกัน EGC ได้ 100% เพราะแมวบางตัว “มีแนวโน้มทางพันธุกรรม”
แต่เราสามารถลดโอกาสเกิดซ้ำได้ด้วยการจัดการปัจจัยกระตุ้นให้ดี

เทคนิคลดโอกาสเกิด EGC:

• หยดหมัดสม่ำเสมอ ทุก 1–3 เดือน

• หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารก่อภูมิแพ้

• ทำความสะอาดบ้านด้วยน้ำยาที่ไม่ก่อภูมิแพ้

• ดูแลให้แมวเครียดน้อยที่สุด (เครียด = ภูมิคุ้มกันเพี้ยน)

“แมวที่ได้รับการควบคุมตัวกระตุ้นและได้รับอาหารเหมาะสม มีอัตราการกลับมาเป็น EGC ซ้ำลดลงถึง 80%”
– Feline Allergy Management Guide, 2023

EGC ไม่ใช่แค่แผลธรรมดา แต่คือสัญญาณว่าระบบภูมิคุ้มกันของแมว “กำลังทำงานเกินเหตุ”
ถ้าคุณสังเกตพฤติกรรมแมวให้ดี และพาไปพบสัตวแพทย์เร็วพอ
โรคนี้ก็ไม่ใช่ศัตรูของแมวคุณอีกต่อไปครับ

❝แผลที่ปากไม่ใช่รอยยิ้ม...อาจเป็นโรคผิวหนังที่รอคุณสังเกต❞

#EGCแมว #แมวผิวหนังอักเสบ #แมวแพ้อาหาร #แมวมีตุ่ม #โรคผิวหนังแมว #Lazadogรู้ใจแมว

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com