5 ข้อควรรู้! เสียงฟู่ในหัวใจแมวไม่ใช่เรื่องเบา อาจเป็นสัญญาณโรคร้ายที่แอบซ่อนอยู่ (อัปเดท 2025)

Apr 20, 2025
healthy สุขภาพ
5 ข้อควรรู้! เสียงฟู่ในหัวใจแมวไม่ใช่เรื่องเบา อาจเป็นสัญญาณโรคร้ายที่แอบซ่อนอยู่ (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

5 ข้อควรรู้! เสียงฟู่ในหัวใจแมวไม่ใช่เรื่องเบา อาจเป็นสัญญาณโรคร้ายที่แอบซ่อนอยู่

แมวของคุณเคยถูกหมอฟังหัวใจแล้วพูดเบาๆ ว่า
“เหมือนจะมีเสียงฟู่ๆ ในหัวใจนะครับ”
แล้วคุณก็ทำหน้างงปนตกใจ เพราะฟังดูเหมือนไม่รุนแรง แต่ก็ไม่ธรรมดา

เสียงฟู่ในหัวใจแมว หรือ Heart Murmur คือหนึ่งในสัญญาณที่เราไม่ควรมองข้าม
เพราะมันอาจหมายถึงโรคหัวใจจริงจังที่ซ่อนอยู่ หรืออาจเป็นแค่เสียงชั่วคราวที่ไม่อันตรายก็ได้

วันนี้เราจะพาไปเจาะลึก 5 ข้อควรรู้เกี่ยวกับเสียงฟู่ในหัวใจแมว
ให้คุณเข้าใจแบบไม่ต้องมีพื้นฐานแพทย์ และรู้ว่าควรทำอย่างไรเมื่อคุณได้ยินคำว่า “Heart Murmur”


1. Heart Murmur คืออะไร? ทำไมหมอฟังแล้วถึงเจอเสียง “ฟู่”

Heart Murmur คือเสียงที่สัตวแพทย์ได้ยินจากการฟังหัวใจแมวด้วยเครื่อง Stethoscope
เสียงนี้เกิดจาก “การไหลของเลือดในหัวใจที่ผิดปกติ” เช่น ไหลเร็วเกิน ไหลย้อน หรือมีแรงดันสูงผิดปกติ

เสียงฟู่ไม่ได้แปลว่าเป็นโรคเสมอไป
แต่สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก:

  • Physiologic Murmur (ไม่มีโรค): มักพบในลูกแมว หรือแมวตื่นเต้น/เครียดขณะตรวจ

  • Pathologic Murmur (เกิดจากโรค): มักเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจจริง เช่น Cardiomyopathy หรือภาวะลิ้นหัวใจผิดปกติ

“พบว่า 30–50% ของแมวที่มีเสียง Heart Murmur จริงๆ แล้วมีโรคหัวใจแฝงอยู่”
Journal of Feline Medicine, 2021


2. เสียงฟู่ไม่ได้ดังเสมอไป…แต่ระดับเสียงมีความหมาย

Heart Murmur ถูกแบ่งตาม “เกรด” ของความดัง ตั้งแต่ระดับ 1 ถึง 6

เกรด ความดังของเสียง ความเสี่ยงโรคหัวใจ
1-2 เบา ฟังยาก อาจไม่ใช่โรค / ต้องเฝ้าระวัง
3-4 ชัดขึ้น มีเสียงต่อเนื่อง อาจมีโรคหัวใจแฝง ต้องตรวจละเอียด
5-6 ดังมาก / มีการสั่น มีแนวโน้มเป็นโรคหัวใจรุนแรง

ข้อควรรู้:

  • เกรดไม่ได้ฟันธงว่าอันตรายหรือไม่ ต้องดูร่วมกับอาการและการตรวจอื่น

  • แมวที่เครียดขณะตรวจอาจมีเสียงดังขึ้นชั่วคราว


3. แมวไม่มีอาการใช่ว่าจะไม่มีโรค

แมวเก่งเรื่อง “ซ่อนอาการ” ครับ โดยเฉพาะโรคหัวใจที่พบบ่อย เช่น
Hypertrophic Cardiomyopathy (HCM) ซึ่งทำให้ผนังหัวใจหนาและทำงานผิดปกติ

สัญญาณที่เจ้าของควรสังเกต (ถ้าเริ่มมีอาการ):

  • หายใจถี่ หอบ

  • เหนื่อยง่าย

  • เดินแล้วขาหลังไม่มีแรง

  • ลิ้นหรือเหงือกซีดคล้ำ

  • นอนมากผิดปกติ ไม่สนใจสิ่งรอบตัว

“แมวกว่า 70% ที่เป็น HCM ไม่แสดงอาการจนกว่าจะเข้าสู่ระยะรุนแรง”
Feline Heart Health Data, 2022


4. ตรวจอย่างไรให้ชัดว่าเสียงฟู่มาจากโรคจริงหรือไม่?

การฟังเสียงหัวใจเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้นครับ
ถ้าแมวของคุณถูกวินิจฉัยว่าได้ยิน Heart Murmur ควรทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น:

  • X-ray ทรวงอก: ดูขนาดหัวใจและปอด

  • Echocardiogram (อัลตราซาวด์หัวใจ): ตรวจโครงสร้างหัวใจแบบละเอียด

  • ECG: ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ

  • ตรวจเลือดเพื่อดูไตและเกลือแร่: เพราะโรคไตก็สัมพันธ์กับหัวใจ

คำแนะนำ:

  • ถ้าแมวยังเด็ก ให้ติดตามฟังซ้ำอีกครั้งเมื่ออายุ 5–6 เดือน

  • ถ้าแมวโตและมีเสียงฟู่ ควรตรวจอัลตราซาวด์หัวใจทันที


5. รู้เร็ว = รักษาได้ไว แมวอยู่กับเรานานขึ้นอีกหลายปี

ข่าวดีคือ โรคหัวใจในแมวหลายชนิดสามารถควบคุมอาการได้
ถ้ารู้เร็วและรักษาอย่างต่อเนื่อง แมวสามารถใช้ชีวิตได้ปกติแบบแฮปปี้

แนวทางการดูแลแมวที่มีปัญหาหัวใจ:

  • รับประทานยาลดความดันหัวใจ เช่น Atenolol, Clopidogrel (ตามดุลยพินิจสัตวแพทย์)

  • ควบคุมความเครียด (แมวเครียด หัวใจก็ทำงานหนัก)

  • ตรวจสุขภาพหัวใจทุก 6 เดือน

  • เลี่ยงอาหารโซเดียมสูง

  • อย่าใช้ยาเองโดยไม่ปรึกษาหมอเด็ดขาด


เสียงฟู่ในหัวใจแมวอาจฟังดูเบา แต่ไม่ควรมองข้าม
เพราะมันอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคที่เราป้องกันได้ถ้าเจอเร็ว
หมั่นพาแมวตรวจสุขภาพ ฟังหัวใจ และดูแลอย่างใกล้ชิด แมวจะได้อยู่กับเรานานขึ้น แข็งแรงขึ้น และมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม


❝เสียงฟู่เล็กๆ ที่หัวใจ…อาจเป็นเสียงเตือนที่คุณไม่ควรมองข้าม❞


#เสียงหัวใจแมวผิดปกติ #HeartMurmurแมว #โรคหัวใจแมว #ตรวจสุขภาพแมว #ดูแลแมวด้วยใจ #Lazadogรู้ใจแมว


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts