5 เรื่องที่คุณควรรู้ เกี่ยวกับ “พยาธิในลำไส้น้องหมา” ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม (อัปเดท 2025)

Apr 09, 2025
การรับเลี้ยงและการดูแล
5 เรื่องที่คุณควรรู้ เกี่ยวกับ “พยาธิในลำไส้น้องหมา” ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

5 เรื่องที่คุณควรรู้ เกี่ยวกับ “พยาธิในลำไส้น้องหมา” ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม

เจ้าของหมาหลายคนดูแลเรื่องอาหาร ของเล่น หรือสุขภาพภายนอกอย่างดี
แต่รู้ไหมครับว่า “ภัยเงียบ” ที่แฝงตัวอยู่ภายในลำไส้ของน้องหมาอย่าง พยาธิ ก็อาจทำร้ายสุขภาพเขาแบบที่เราไม่ทันสังเกตได้เหมือนกัน

พยาธิในลำไส้หมาไม่ได้มีแค่ชนิดเดียว และไม่ได้เกิดขึ้นกับหมาจรจัดเท่านั้น
หมาที่อยู่ในบ้าน กินอาหารดีๆ ก็ยังสามารถติดพยาธิได้ ถ้าไม่ได้ป้องกันหรือถ่ายพยาธิอย่างสม่ำเสมอ

วันนี้ผมจะพาคุณไปรู้จัก 5 เรื่องสำคัญที่เจ้าของทุกคนควรรู้
เพื่อให้น้องหมาของคุณมีลำไส้ที่แข็งแรง และห่างไกลจากเจ้าวายร้ายตัวจิ๋วเหล่านี้ครับ


1. พยาธิลำไส้ในหมามีหลายชนิด และแต่ละชนิดก็อันตรายต่างกัน

พยาธิไม่ได้มีแค่ตัวกลมๆ อย่างที่เรานึกภาพ
จริงๆ แล้วมันมีหลายสายพันธุ์ และอาการที่แสดงก็ไม่เหมือนกันเลย

พยาธิหลักๆ ที่พบได้บ่อยในหมา:

  • พยาธิปากขอ (Hookworm): ดูดเลือดในลำไส้ ทำให้หมาซึม อ่อนแรง

  • พยาธิตัวกลม (Roundworm): พบได้บ่อยในลูกสุนัข อาจเห็นออกมากับอุจจาระ

  • พยาธิตัวแบน (Tapeworm): เห็นลักษณะเป็นชิ้นขาวๆ คล้ายเมล็ดแตงที่ก้น

  • พยาธิแส้ม้า (Whipworm): มักทำให้ถ่ายเป็นมูกเลือดเรื้อรัง

Fact: งานวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุว่า สุนัขที่ไม่ได้ถ่ายพยาธิเลยในช่วง 6 เดือนแรก มีความเสี่ยงเจอพยาธิในลำไส้ถึง 65%


2. อาการของพยาธิบางอย่าง “แทบไม่แสดงออก” แต่สะสมอันตราย

หมาหลายตัวที่ดูแข็งแรง กินเก่ง ซนดี แต่จริงๆ อาจมีพยาธิในร่างกายโดยที่เราไม่รู้
เพราะพยาธิบางชนิดจะค่อยๆ ทำร้ายระบบย่อยอาหาร หรือดูดสารอาหารไปจนหมาเริ่มผอมลงโดยไม่รู้สาเหตุ

อาการที่ควรระวัง:

  • น้ำหนักลดทั้งที่กินปกติ

  • ถ่ายเหลวเป็นระยะ หรือมีมูกเลือด

  • พุงโตผิดปกติในลูกหมา

  • อาเจียน/ถ่ายออกมาเป็นตัวพยาธิ

Tip: หากคุณเริ่มเห็นน้องหมา “กินเยอะแต่น้ำหนักไม่ขึ้น” ควรพาไปตรวจอุจจาระเพื่อเช็กพยาธิทันที


3. ลูกหมา = กลุ่มเสี่ยงพยาธิอันดับหนึ่ง

พยาธิสามารถติดต่อจากแม่สุนัขไปยังลูกสุนัขได้ตั้งแต่ในท้อง หรือผ่านน้ำนม
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมลูกหมาที่เพิ่งคลอดจึงควรถ่ายพยาธิตั้งแต่อายุยังน้อย

แนวทางถ่ายพยาธิสำหรับลูกหมา:

  • เริ่มถ่ายพยาธิครั้งแรกเมื่ออายุ 2 สัปดาห์

  • จากนั้นถ่ายพยาธิซ้ำทุก 2 สัปดาห์จนถึงอายุ 12 สัปดาห์

  • หลังจากนั้น ถ่ายทุก 3 เดือนเป็นประจำ

Fact: จากคู่มือของสมาคมสัตวแพทย์สากล (WSAVA) การถ่ายพยาธิสม่ำเสมอในลูกหมาช่วยลดการติดพยาธิลงได้ถึง 90%


4. พยาธิในหมา “ติดต่อถึงคน” ได้ โดยเฉพาะเด็กเล็ก

ใช่ครับ พยาธิบางชนิดในหมาสามารถติดต่อมาสู่คนได้ โดยเฉพาะพยาธิตัวกลมและตัวแบน
เด็กที่เล่นกับสัตว์เลี้ยงโดยไม่ล้างมือ มีโอกาสติดพยาธิผ่านการปนเปื้อนของอุจจาระหมาที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

วิธีลดความเสี่ยง:

  • ถ่ายพยาธิเป็นประจำตามรอบ

  • เก็บอุจจาระน้องหมาทุกครั้งที่พาไปเดิน

  • ล้างมือทุกครั้งหลังเล่นกับสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะก่อนทานอาหาร

Fact: องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า การติดพยาธิจากสัตว์เลี้ยง เป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคพยาธิในเด็กในเขตร้อนชื้นอย่างประเทศไทย


5. การป้องกันพยาธิ “ทำง่าย” แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ

การป้องกันพยาธิไม่ต้องรอให้น้องหมามีอาการแล้วค่อยรักษา
เพราะถ้าทำสม่ำเสมอ คุณจะป้องกันได้ตั้งแต่ต้น และลดภาระค่ารักษาพยาบาลในระยะยาวได้อีกด้วย

วิธีดูแลที่แนะนำ:

  • ถ่ายพยาธิทุก 3 เดือน หรือทุก 6 เดือนตามคำแนะนำของสัตวแพทย์

  • ใช้ยาถ่ายพยาธิที่เหมาะกับน้ำหนักและอายุของน้องหมา

  • หมั่นตรวจสุขภาพประจำปี พร้อมตรวจอุจจาระ

Tip: จดบันทึกหรือใช้แอปช่วยเตือนกำหนดการถ่ายพยาธิ จะช่วยให้คุณไม่ลืมรอบสำคัญ


พยาธิในลำไส้เป็นปัญหาที่ดูเหมือนไม่ร้ายแรง แต่ถ้าละเลยก็สามารถสะสมความอันตรายไว้ได้ไม่น้อย
แค่คุณรู้ทัน หมั่นสังเกต และวางแผนดูแลแบบสม่ำเสมอ น้องหมาของคุณก็จะมีลำไส้สะอาด แข็งแรง และปลอดภัยจากเจ้า “ตัวจิ๋วแต่จอมป่วน” พวกนี้ครับ


#พยาธิในลำไส้หมา #ถ่ายพยาธิหมา #สุขภาพลำไส้หมา #หมาผอมไม่รู้สาเหตุ #LazadogCareTips


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมาให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts