5 เรื่องที่คุณควรรู้ "หมาสายลุย คู่หูเดินป่า ปีนเขา ที่พร้อมไปทุกที่กับคุณ"

ถ้าคุณเป็นสายธรรมชาติ รักการออกทริป เดินป่า ปีนเขา วิ่งเทรล หรือใช้ชีวิต Outdoor เป็นประจำ เชื่อผมครับว่า “มีเพื่อน 4 ขา” ที่พร้อมลุยไปกับคุณจะทำให้ทุกการผจญภัยมีสีสันและอบอุ่นขึ้นหลายเท่า

แต่น้องหมาทุกตัวไม่ได้เกิดมาเพื่อเดินป่าหรือปีนเขาได้นะครับ เพราะต้องมีทั้งความอึด ความแข็งแรง การปรับตัว และนิสัยรักการผจญภัยด้วย วันนี้ผมจะพาไปรู้จักกับ 5 เรื่องที่คุณควรรู้เกี่ยวกับน้องหมาสายลุย ที่เหมาะจะเป็นคู่หูตัวจริงในการออกทริปทุกประเภท

1. น้องหมาสายลุยต้องมี “หัวใจนักผจญภัย” อยู่ใน DNA

ไม่ใช่แค่แข็งแรง แต่น้องหมาที่เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งต้องมีนิสัยกระตือรือร้น คล่องตัว และพร้อมลุยในสภาพแวดล้อมหลากหลาย

สายพันธุ์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความลุย:

• ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky) – อึด ถึก วิ่งเก่ง พลังงานล้น

• ออสเตรเลียน เชพเพิร์ด (Australian Shepherd) – ฉลาด เรียนรู้ไว เดินไกลได้

• ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) – ขี้เล่น ว่ายน้ำเก่ง วิ่งได้ทั้งวัน

• แจ็ครัสเซลล์ เทอร์เรียร์ (Jack Russell Terrier) – ตัวเล็กพลังเยอะ เดินป่าก็ไม่หวั่น

• เยอรมันเชพเพิร์ด (German Shepherd) – แข็งแรง ฉลาด เฝ้าเก่ง ปกป้องเจ้าของได้

2. ไม่ใช่แค่แรงดี แต่ต้อง “มีวินัยและเชื่อฟังคำสั่ง”

การพาหมาออกไปนอกบ้าน โดยเฉพาะป่าเขาหรือที่โล่งกว้าง ต้องมั่นใจว่าเขาสามารถควบคุมได้ ไม่ไล่สัตว์ป่า ไม่ออกนอกเส้นทาง และสามารถหยุดตามคำสั่งได้

สิ่งที่ควรฝึกไว้ล่วงหน้า:

• คำสั่งพื้นฐาน เช่น นั่ง คอย มา

• เดินเคียงข้างโดยไม่ดึงสายจูง

• ฝึกให้คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น ทางลาด ดินโคลน ลำธาร

• ให้รางวัลเพื่อกระตุ้นความร่วมมือ

3. พันธุกรรมสำคัญกว่าที่คิด: บางพันธุ์ไม่เหมาะกับกิจกรรม Outdoor

แม้จะมีใจรักเดินเขาแค่ไหน แต่หมาบางพันธุ์ก็ไม่ควรถูกพาไปลุยด้วย เช่น สายพันธุ์หน้าสั้น (Brachycephalic breeds) อย่างปั๊ก บูลด็อก หรือชิสุ ที่หายใจไม่ค่อยสะดวกเวลาทำกิจกรรมหนัก หรืออยู่ในอุณหภูมิร้อน

พันธุ์ที่ควรหลีกเลี่ยงการพาไปปีนเขาหนักๆ:

• ปั๊ก

• เฟรนช์บูลด็อก

• ชิสุ

• ปักกิ่ง

• บูลมาสทิฟ (ถ้าอายุมากหรือน้ำหนักเกิน)

4. อย่าลืมเรื่องอุปกรณ์: หมาก็ต้องมี Gear สำหรับเดินป่า

นอกจากรองเท้าเดินป่าและเป้สะพายของเราแล้ว น้องหมาก็ควรมีอุปกรณ์พร้อมเหมือนกัน เพื่อความปลอดภัยและสบายตัว

อุปกรณ์ที่แนะนำ:

• สายจูงแบบมือจับมั่นคงหรือแบบพยุงหลัง (สำหรับปีนเขาชัน)

• รองเท้าหมาสำหรับป้องกันพื้นร้อนหรือหินแหลม

• เสื้อกันฝนหรือเสื้อกันลม (ถ้าขึ้นเขาอากาศเย็น)

• ขวดน้ำสำหรับหมา + ชามพกพา

• ป้ายชื่อพร้อมเบอร์โทรเจ้าของ (ในกรณีพลัดหลง)

5. ก่อนออกทริปทุกครั้ง ต้องเช็ก “สุขภาพและความพร้อม” ของน้องหมา

ไม่ว่าจะเป็นการเดินแค่ 3 กิโลหรือทริปปีนเขาหลายชั่วโมง สุขภาพของหมาคือสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง ควรปรึกษาสัตวแพทย์หากมีข้อสงสัย และไม่ฝืนพาหมาที่ไม่พร้อมไปเดินทางไกล

รายการที่ควรตรวจสอบก่อนออกเดินทาง:

• ฉีดวัคซีนครบและหยอดยาเห็บหมัด

• ไม่มีอาการป่วยหรืออ่อนแรง

• เล็บไม่ยาวจนเกินไป (เสี่ยงบาดเจ็บเวลาเดินเยอะ)

• น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม

• พกอาหาร ขนม และน้ำสะอาดให้เพียงพอ

สรุป

การพาน้องหมาออกเดินป่าหรือปีนเขา ไม่ใช่แค่เรื่องของความเท่หรือถ่ายรูปสวยเท่านั้น แต่มันคือกิจกรรมที่สร้างความผูกพันลึกซึ้งระหว่างคุณกับเขา แต่อย่าลืมเลือกน้องหมาที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ และเตรียมตัวให้พร้อมทั้งสองฝ่าย

เพราะหมาที่เกิดมา “พร้อมลุย” ก็จะทำให้ทุกการเดินทางของคุณ...มีความหมายยิ่งกว่าเดิม #หมาสายลุย #หมาเดินป่า #หมาคู่ใจสายแอดเวนเจอร์ #คู่หูปีนเขา #LazadogCareTips

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมาให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com