5 ข้อควรรู้! หอบหืดในแมวไม่ใช่เรื่องเล่น ถ้าเข้าใจเร็ว แมวจะหายใจโล่งขึ้นเยอะ
เสียงฟืดฟาดแปลกๆ เวลาน้องแมวหายใจ? หรือเห็นเขาไอคล้ายจะสำลักบ่อยขึ้น?
อย่าเพิ่งคิดว่าเขาแค่ “กินเร็วไปหน่อย” หรือ “สำลักขนตัวเอง” เท่านั้นนะครับ เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายที่ชื่อว่า...
"โรคหอบหืดในแมว (Feline Asthma)" ที่หลายคนไม่เคยรู้ว่า...แมวก็เป็นได้ และที่สำคัญคือ "เป็นเยอะขึ้นเรื่อยๆ ในไทย"
บทความนี้จะพาไปเปิดปอด (แบบไม่ต้องผ่าตัด) เพื่อทำความเข้าใจโรคหอบหืดในแมวอย่างลึกซึ้ง
รู้ทันก่อนสาย พร้อมเทคนิคช่วยให้แมวคุณ “หายใจโล่ง ไม่ต้องหอบทุกวัน”
โรคหอบหืดในแมว (Feline Asthma) คือภาวะอักเสบเรื้อรังของทางเดินหายใจ ที่ทำให้หลอดลมหดตัว มีเสมหะสะสม และเกิดอาการหอบ ไอ หรือหายใจลำบากคล้ายหืดในคน
ข้อมูลสำคัญ:
พบในแมวทั่วโลกประมาณ 1–5%
พบมากในแมวอายุระหว่าง 2–8 ปี
พันธุ์ที่มีแนวโน้มมากเป็นพิเศษ: สยาม, เบอร์แมน, และแมวพันธุ์ผสมบางกลุ่ม
มีแนวโน้ม “สูงขึ้นในเมืองใหญ่” ที่มีมลภาวะและฝุ่นเยอะ
อ้างอิงจาก Journal of Feline Medicine and Surgery, 2022 ระบุว่า แมวในเมืองมีแนวโน้มเป็นโรคหอบหืดมากขึ้นถึง 2.7 เท่า เมื่อเทียบกับแมวในชนบท
เพราะแมวพูดไม่ได้ การสังเกตจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก แมวหอบหืดอาจดูปกติในช่วงแรก แต่หากเจ้าของสังเกตดีๆ จะพบสัญญาณเตือนเหล่านี้:
สัญญาณเตือนสำคัญ:
ไอแห้งๆ บ่อย คล้ายจะสำลัก แต่ไม่มีอะไรออก
หายใจเร็ว หอบ เห็นท้องขยับแรงๆ
หายใจเสียงฟืดฟาด หรือมีเสียงครืดคราด
ชอบยืดคอขณะหายใจ หรือก้มหน้าลงพื้น
อ่อนแรง เหนื่อยง่ายกว่าปกติหลังเล่น
เทคนิค: ลองนับอัตราการหายใจของแมวตอนนอนหลับ ถ้าเกิน 30 ครั้ง/นาที ควรปรึกษาสัตวแพทย์ทันที
แมวบางตัวมีปัจจัยที่ทำให้หลอดลมหดตัวง่ายกว่าปกติ โดยเฉพาะสิ่งกระตุ้นในบ้านที่เราคาดไม่ถึง
สิ่งกระตุ้นที่พบบ่อยในไทย:
ฝุ่น PM2.5 และควันจากเตาแก๊ส
กลิ่นฉุน เช่น น้ำหอม สเปรย์ปรับอากาศ
ทรายแมวที่มีฝุ่น
ควันบุหรี่
เชื้อราและไรฝุ่นในพรมหรือผ้าม่าน
จากงานวิจัย Environmental Triggers in Feline Asthma, 2021 พบว่า “แมวที่อยู่ในบ้านที่มีการใช้สเปรย์บ่อย มีความเสี่ยงแสดงอาการหอบหืดเร็วขึ้นถึง 60%”
หากสงสัยว่าแมวมีอาการหอบหืด ต้องไม่ปล่อยไว้เด็ดขาด เพราะอาการอาจลุกลามถึงขั้นหายใจไม่ออกได้เลย
แนวทางตรวจและรักษาที่แนะนำ:
ตรวจเอกซเรย์ปอด (ดูการอักเสบหรือหนาแน่นของหลอดลม)
ใช้ยาสเตียรอยด์ลดการอักเสบ (เช่น prednisolone)
ใช้ยา bronchodilator ช่วยขยายหลอดลม (บางกรณีต้องใช้ Inhaler สำหรับแมว)
ลดสิ่งกระตุ้นในบ้านให้มากที่สุด
ควบคุมน้ำหนักแมว เพราะแมวอ้วนจะหอบง่ายกว่า
ข้อควรรู้: แมวบางตัวต้องใช้ยารักษาแบบต่อเนื่องตลอดชีวิต แต่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หากควบคุมได้ดี
แมวที่เป็นโรคหอบหืดสามารถมีชีวิตที่ดีได้ ถ้าเจ้าของเข้าใจและปรับสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย
เคล็ดลับดูแลแมวหอบหืด:
ใช้ทรายแมวแบบไร้ฝุ่น หรือทรายจากธรรมชาติ
เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท (หรือใช้เครื่องฟอกอากาศ)
หลีกเลี่ยงใช้สเปรย์ น้ำหอม หรือผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นแรง
เลือกอาหารที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน เช่น Omega-3
จัดที่นอนให้นุ่ม สะอาด และไม่มีไรฝุ่นสะสม
โรคหอบหืดในแมวฟังดูน่ากังวล แต่จริงๆ แล้ว "ควบคุมได้และดูแลได้" ถ้ารู้ทันและไม่มองข้าม
แค่คุณเข้าใจแมวและไม่ปล่อยให้เสียงไอเป็นแค่ “เรื่องชิน” แมวก็จะมีชีวิตหายใจโล่งแบบมีความสุขได้ทุกวัน
แมวไอ...อาจไม่ได้ไอเล่น แต่เป็นสัญญาณจากร่างกายที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือครับ!
❝แมวไอไม่ใช่เรื่องเล่น หายใจไม่ทันอาจถึงชีวิต❞
#แมวหอบหืด #โรคหอบในแมว #แมวหายใจลำบาก #แมวสุขภาพดี #FelineAsthma #Lazadogรู้ใจแมว
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com