5 เรื่องที่คุณควรรู้ ก่อนจะกลัว “ไมโครชิปในหมา” ว่าเสี่ยงมะเร็งจริงไหม? (อัปเดท 2025)

Apr 06, 2025
การรับเลี้ยงและการดูแล
5 เรื่องที่คุณควรรู้ ก่อนจะกลัว “ไมโครชิปในหมา” ว่าเสี่ยงมะเร็งจริงไหม? (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

5 เรื่องที่คุณควรรู้ ก่อนจะกลัว “ไมโครชิปในหมา” ว่าเสี่ยงมะเร็งจริงไหม?

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาใกล้ตัวสัตว์เลี้ยงเรามากขึ้น คำว่า “ฝังไมโครชิป” ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่กฎหมายเริ่มบังคับให้หมาและแมวบางประเภทต้องฝังชิปเพื่อระบุตัวตน

แต่คำถามที่หลายคนแอบกังวล (และส่งต่อกันในโซเชียลบ่อยมาก) ก็คือ…
"ฝังไมโครชิปให้น้องหมาแล้ว จะเสี่ยงเป็นมะเร็งจริงไหม?"

วันนี้ผมจะพาคุณไปดู 5 เรื่องที่คุณควรรู้เกี่ยวกับไมโครชิปและความปลอดภัย เพื่อให้คุณตัดสินใจได้แบบมั่นใจและไม่ต้องกังวลเกินจริงครับ


1. ไมโครชิปคืออะไร? ฝังตรงไหน? ทำไมต้องมี?

ไมโครชิปคืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กมาก (ประมาณเมล็ดข้าวสาร) ใช้ระบุตัวตนของสัตว์เลี้ยง ฝังไว้ใต้ผิวหนังบริเวณต้นคอด้านซ้ายของหมา โดยไม่มีแหล่งพลังงานในตัว (ไม่ใช่ GPS ติดตามตำแหน่งนะครับ)

ข้อมูลจากกรมปศุสัตว์ระบุว่า
ไมโครชิปมีอายุการใช้งานนานกว่า 25 ปี และไม่มีการปล่อยคลื่นใดๆ ที่เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อ


2. ความเชื่อเรื่อง “ไมโครชิปทำให้เป็นมะเร็ง” มาจากไหน?

ความเชื่อนี้มีที่มาในช่วงปี 2000 เมื่อมีการศึกษาจำนวนหนึ่งเกี่ยวกับหนูทดลองที่พบว่ามี เนื้องอกบริเวณที่ฝังไมโครชิป ซึ่งทำให้คนบางกลุ่มกังวลว่าสิ่งเดียวกันจะเกิดกับสัตว์เลี้ยงของเรา

แต่... ต้องเข้าใจว่า:

  • การศึกษานั้นอยู่ในสัตว์ทดลอง ไม่ใช่ในหมาหรือแมว

  • หนูมีความไวต่อเนื้องอกมากกว่าสัตว์อื่นหลายเท่า

  • ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชัดเจนว่า “ไมโครชิปในหมา” เป็นสาเหตุของมะเร็งโดยตรง


3. งานวิจัยหลายฉบับยืนยันว่า “โอกาสเกิดมะเร็งจากไมโครชิปนั้นต่ำมาก”

งานวิจัยจาก Veterinary Pathology (2013) พบว่า
อัตราการเกิดเนื้องอกบริเวณฝังไมโครชิปในสุนัขต่ำกว่า 0.01%
และส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุอื่นร่วมด้วย เช่น การอักเสบเรื้อรัง หรือพันธุกรรม

แม้จะมีรายงานเคสเดี่ยวบ้างที่พบเนื้องอกใกล้ตำแหน่งฝังชิป แต่ ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะระบุว่าไมโครชิปเป็นสาเหตุโดยตรง


4. ประโยชน์ของไมโครชิป “มากกว่าความเสี่ยงหลายเท่า”

ไมโครชิปช่วยให้:

  • ตามหาน้องหมาที่หลงหรือถูกขโมยได้ง่ายขึ้น

  • ยืนยันตัวตนในกรณีที่มีการโต้แย้งสิทธิ์เจ้าของ

  • ใช้ในการขึ้นทะเบียนสุนัขตามกฎหมายไทย

  • สร้างความมั่นใจเวลาพาไปฝากเลี้ยงหรือเดินทาง

ในต่างประเทศมีรายงานว่า
สุนัขที่มีไมโครชิปมีโอกาสได้กลับคืนเจ้าของสูงถึง 52%
เทียบกับเพียง 22% ในสุนัขที่ไม่มีชิป


5. ถ้าคุณยังกังวล ลองปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนตัดสินใจ

สัตวแพทย์จะประเมินว่าน้องหมาของคุณเหมาะกับการฝังชิปไหม และใช้เข็มที่เหมาะสมกับขนาดตัว เพื่อลดการอักเสบหรือระคายเคือง

คำแนะนำเบื้องต้น:

  • ฝังชิปตอนน้องหมาอายุ 2 เดือนขึ้นไป

  • หลีกเลี่ยงการฝังในช่วงที่มีแผล หรือมีปัญหาสุขภาพ

  • ดูแลหลังฝังโดยทำความสะอาดเบาๆ ไม่เกา ไม่กดทับบริเวณนั้น

ไมโครชิปไม่ได้เป็นภัยอย่างที่หลายคนกังวลครับ หากใช้อย่างถูกวิธีและฝังโดยผู้เชี่ยวชาญ ความเสี่ยงจะต่ำมากจนแทบไม่มีนัยยะเทียบกับประโยชน์มหาศาลที่ช่วยให้น้องหมาปลอดภัยและกลับมาหาเราได้เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน #ไมโครชิปหมาอันตรายไหม #หมาเสี่ยงมะเร็งจากชิปหรือเปล่า #ฝังไมโครชิปดีไหม #ความรู้เจ้าของหมายุคใหม่ #LazadogCareTips


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมาให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts