5 เรื่องที่คุณควรรู้ ก่อนเลือก “ขนมขัดฟัน” ให้น้องหมาเคี้ยวอย่างปลอดภัยและเพลินใจ
ขนมขัดฟัน หรือที่หลายคนเรียกว่า “ขนมเคี้ยวเล่น” สำหรับหมา
ไม่ได้มีไว้แค่ให้เคี้ยวเล่นแก้เบื่อ แต่ยังมีผลต่อสุขภาพฟัน อารมณ์ และแม้กระทั่งพฤติกรรมของน้องหมาอีกด้วย
แต่ในท้องตลาดก็มีขนมขัดฟันให้เลือกเพียบ ทั้งแบบแข็ง แบบนิ่ม แบบธรรมชาติ ไปจนถึงแบบแฟนซี
เจ้าของอย่างเราจะรู้ได้ยังไงว่าอันไหนปลอดภัย เคี้ยวแล้วไม่หักฟัน หรืออุดตันลำไส้?
วันนี้ผมจะพาคุณไปรู้จัก 5 เรื่องที่ควรรู้ก่อนเลือกขนมขัดฟันให้น้องหมา
เพื่อให้เขาเคี้ยวอย่างสนุก สุขภาพดี และปลอดภัยทุกคำครับ
ขนมขัดฟันถูกออกแบบมาให้ช่วยดูแลสุขภาพช่องปากโดยเฉพาะ
ผ่านการเคี้ยวในระดับที่เหมาะสม เพื่อช่วยลดคราบหินปูน คราบอาหาร และกลิ่นปาก
ลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก
กระตุ้นการหลั่งน้ำลาย ช่วยทำความสะอาดฟัน
ช่วยให้น้องหมาได้ปลดปล่อยพลังงานในการเคี้ยว
Fact: สมาคมสัตวแพทย์ทันตกรรมสัตว์ในอเมริกา (VOHC) ระบุว่า การใช้ขนมขัดฟันร่วมกับการแปรงฟันสม่ำเสมอ ช่วยลดคราบหินปูนได้ถึง 50%
ขนมที่แข็งเกินไปสำหรับหมาพันธุ์เล็ก อาจทำให้ฟันหัก
ในขณะที่ขนมที่นิ่มเกินไปสำหรับหมาพันธุ์ใหญ่ ก็อาจกลืนลงไปทั้งชิ้นแบบไม่ทันเคี้ยว
พันธุ์เล็ก: เลือกขนาดเล็กกว่าเหงือก เคี้ยวง่าย
พันธุ์กลางถึงใหญ่: เลือกแบบแข็งระดับกลางถึงแข็งมาก
หมาที่ชอบเคี้ยวแรง: ควรเลือกที่ไม่แตกเป็นเสี่ยง
Tip: ถ้าคุณสามารถกดปลายขนมแล้วงอได้เล็กน้อย แสดงว่าอยู่ในระดับแข็งพอเหมาะ
บางยี่ห้อใส่สี กลิ่น หรือสารกันบูดมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้น้องหมาแพ้หรือท้องเสียได้
ยิ่งถ้าเป็นขนมจากหนังดิบ (Rawhide) ควรเลือกที่ผ่านกระบวนการผลิตปลอดสารเคมี
โปรตีนจากเนื้อสัตว์จริง (ไก่ แกะ ปลา ฯลฯ)
ไม่มีสีผสมอาหารหรือวัตถุกันเสียสังเคราะห์
มีสารช่วยดูแลสุขภาพช่องปาก เช่น คลอโรฟิลล์ ซีลีเซียม ฯลฯ
Fact: งานวิจัยจาก National Animal Supplement Council (NASC) แนะนำว่า ขนมที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติมากกว่า 90% มีแนวโน้มเกิดอาการแพ้น้อยกว่าแบบสังเคราะห์ถึง 78%
แม้ว่าน้องหมาจะดูเพลินกับขนมที่กินได้เร็ว แต่ถ้าชิ้นขนมมีขนาดเล็กหรือเคี้ยวง่ายเกินไป
อาจกลืนลงคอทันทีจนเสี่ยงอุดตัน หรือเป็นอันตรายต่อทางเดินอาหาร
เลือกขนาดขนมให้ใหญ่กว่าปากของน้องหมาเล็กน้อย
อยู่ดูแลขณะเขาเคี้ยวเสมอ
หลีกเลี่ยงขนมที่แตกหักเป็นชิ้นแหลม เช่น กระดูกอบแห้ง หรือหนังดิบแข็งจัด
Tip: ถ้าน้องหมาเคี้ยวหมดในเวลาไม่ถึง 2 นาที แปลว่าขนมนั้น “อ่อนเกินไป” และอาจไม่เหมาะกับเขา
นอกจากรสชาติและกลิ่นที่น้องหมาชอบแล้ว ขนมขัดฟันควรเป็นเครื่องมือช่วยเสริมสุขภาพช่องปาก ไม่ใช่แค่ให้เคี้ยวเฉยๆ
อย่าลืมสังเกตพฤติกรรมหลังให้กิน เช่น อาเจียน ถ่ายเหลว หรือมีเศษขนมติดฟัน
ให้ขนมขัดฟัน 1 ชิ้นต่อวัน (หรือวันเว้นวัน)
ใช้ร่วมกับการแปรงฟัน ไม่ใช้แทนกัน
ถ้ามีน้องหมาหลายตัว อย่าให้แย่งกันเคี้ยว
Fact: การให้ขนมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอควบคู่กับการแปรงฟัน ช่วยลดปัญหากลิ่นปากในสุนัขได้มากกว่า 40% (อ้างอิง: PetMD)
การเลือกขนมขัดฟันให้กับน้องหมา ไม่ใช่แค่เลือกจากหน้าตาน่ารัก หรือคำว่า “ขัดฟัน” บนฉลาก
แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย คุณภาพวัตถุดิบ และความเหมาะสมกับนิสัยการเคี้ยวของแต่ละตัว
แค่คุณรู้เท่าทัน 5 ข้อนี้ รับรองว่า น้องหมาจะได้เคี้ยวอย่างสนุก สุขภาพดี และคุณก็สบายใจในทุกคำครับ
Hashtag Strategy:
#ขนมขัดฟันหมา #เคี้ยวเพลินปลอดภัย #ดูแลฟันน้องหมา #เลือกขนมให้หมา #LazadogCareTips
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมาให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com