5 เรื่องที่คุณควรรู้ ก่อนทำความสะอาด “หูน้องหมา” ให้ถูกวิธีและปลอดภัย

หูของน้องหมาอาจเป็นอวัยวะที่หลายคนมองข้าม
แต่ความจริงแล้ว "สุขภาพหู" มีผลต่อคุณภาพชีวิตของหมามากกว่าที่คิดครับ
หมาที่มีปัญหาในหูจะรู้สึกหงุดหงิด คัน เจ็บ และบางครั้งอาจนำไปสู่การติดเชื้อเรื้อรัง

การทำความสะอาดหูหมาไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่รู้วิธีและเข้าใจว่าควรทำเมื่อไร อย่างไร
วันนี้ผมจะพาคุณไปรู้จัก 5 ข้อสำคัญก่อนจับหูน้องหมามาเช็ด รับรองว่าทั้งสะอาดและสบายตัวแน่นอนครับ

1. หูหมาต้อง “ทำความสะอาดอย่างพอดี” ไม่บ่อยไป ไม่ปล่อยไว้

หลายคนเข้าใจผิดว่าควรทำความสะอาดหูหมาทุกครั้งที่อาบน้ำ
แต่ในความเป็นจริง ถ้าเช็ดบ่อยเกินไป อาจทำให้ระคายเคืองหรือแห้งเกิน จนกลายเป็นสาเหตุของการอักเสบได้

ความถี่ที่แนะนำ:

• หูปกติ ไม่ค่อยมีกลิ่น/ขี้หู: ทุก 2–4 สัปดาห์

• หูหมาห้อย หรือมีแนวโน้มเป็นเชื้อรา: ทุก 1–2 สัปดาห์

• หลังว่ายน้ำหรืออาบน้ำ: เช็ดเบาๆ เฉพาะภายนอก

Fact: จากรายงานของ American Veterinary Medical Association (AVMA)
หมากว่า 20% ที่มีหูอักเสบเรื้อรัง เกิดจากการเช็ดหูผิดวิธีหรือเช็ดบ่อยเกินไป

2. สุนัขพันธุ์หูยาว หูห้อย เสี่ยง “หูอักเสบ” มากกว่าสายพันธุ์อื่น

หูที่ปิดแนบแน่นทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เกิดความชื้นสะสม และกลายเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียหรือเชื้อราได้ง่ายขึ้น

พันธุ์ที่ควรดูแลเรื่องหูเป็นพิเศษ:

• ค็อกเกอร์ สแปเนียล

• บาสเซ็ท ฮาวด์

• โกลเด้น รีทรีฟเวอร์

• ลาบราดอร์ (โดยเฉพาะหลังว่ายน้ำ)

Tip: ถ้าเลี้ยงหมาพันธุ์เหล่านี้ ควรเลือกน้ำยาทำความสะอาดหูสูตรลดความชื้น และตรวจดูทุกสัปดาห์

3. ห้ามใช้ “คัตตอนบัด” แหย่เข้าไปในรูหูเด็ดขาด

ข้อนี้สำคัญมาก! การใช้คัตตอนบัดแหย่หูหมา ไม่เพียงเสี่ยงต่อการดันขี้หูเข้าไปลึกกว่าเดิม
แต่ยังอาจทำให้แก้วหูทะลุ หรือเกิดบาดแผลได้ถ้าน้องหมาขยับตัวกระทันหัน

วิธีที่ถูกต้อง:

• ใช้สำลีแผ่นหรือผ้านุ่มเช็ดเฉพาะด้านในใบหู (บริเวณที่มองเห็น)

• ใช้น้ำยาล้างหูที่สัตวแพทย์แนะนำ

• หยอดน้ำยาเล็กน้อยลงไปในรูหู แล้วนวดโคนหูเบาๆ เพื่อให้สิ่งสกปรกลอยขึ้น

• ปล่อยให้น้องหมาสะบัดหู จากนั้นค่อยใช้สำลีเช็ดส่วนที่หลุดออกมา

Fact: จากข้อมูลของ Cornell University College of Veterinary Medicine
การสะบัดหูหลังหยอดน้ำยา ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกออกจากรูหูได้ดีโดยไม่ต้องแหย่ลึกเข้าไป

4. กลิ่นแรง-ขี้หูเยอะ-หูแดง อาจเป็นสัญญาณว่าต้องพาไปหาหมอ

บางคนเห็นขี้หูเยอะก็รีบเช็ดเองทันที
แต่จริงๆ แล้ว ขี้หูที่มีกลิ่นแรง สีเข้ม หรือมีลักษณะเหนียวหนืด อาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อ

อาการที่ควรพาน้องหมาไปพบสัตวแพทย์:

• ขี้หูเขียว เหลือง ดำ

• หูบวมแดง หรือร้อนกว่าปกติ

• สุนัขเอียงหัว เดินเป็นวงกลม หรือร้องเวลาแตะหู

• มีน้ำไหล หรือกลิ่นเหม็นฉุน

• เกาหู หรือถูหัวกับพื้นบ่อยผิดปกติ

Fact: การติดเชื้อในหูหากปล่อยทิ้งไว้นาน อาจลุกลามถึงชั้นในของหูและทำให้สูญเสียการได้ยินอย่างถาวร

5. เลือกน้ำยาล้างหูให้เหมาะกับ “ผิวและปัญหาของหมา”

น้ำยาทำความสะอาดหูมีหลายสูตร ทั้งแบบฆ่าเชื้อ ลดกลิ่น ลดความชื้น หรือสูตรอ่อนโยนสำหรับผิวแพ้ง่าย
ควรเลือกให้เหมาะกับลักษณะหูและปัญหาของน้องหมาแต่ละตัว

สูตรที่นิยม:

• มีส่วนผสมของ chlorhexidine: ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

• มี salicylic acid: ลดการอักเสบและช่วยผลัดเซลล์

• สูตร แห้งเร็ว สำหรับหมาที่ชอบว่ายน้ำ

• ไม่มีแอลกอฮอล์ สำหรับหมาผิวบอบบาง

Tip: ห้ามใช้น้ำยาเช็ดหูของคน เพราะค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ต่างจากหูหมา อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้

การดูแลหูน้องหมาไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องทำอย่างถูกวิธี
หมั่นตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอ เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และใส่ใจทุกครั้งที่น้องหมาเริ่มแสดงพฤติกรรมแปลกๆ กับหูของตัวเอง
เพราะหูที่สะอาด ไม่อักเสบ ก็คือน้องหมาที่อารมณ์ดีและสบายตัวครับ

#เช็ดหูหมาให้ถูกวิธี #หูหมาสะอาดไร้กลิ่น #สุขภาพหูน้องหมา #หูหมาไม่ควรมองข้าม #LazadogCareTips

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมาให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com