รวม 5 ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยง “พูมิ” หมาขนหยิกหูตั้งสุดคึก จากฮังการีผู้ไม่ยอมอยู่นิ่ง

ถ้าคุณเคยเห็นหมาขนาดกลาง หูตั้งเด่ ขนหยิกฟู หน้าตาขี้สงสัย เหมือนกำลังถามว่า “มีอะไรให้ลุยมั้ยครับ?”
คุณน่าจะเพิ่งพบกับหมาสายพันธุ์ที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักในไทย แต่กำลังเป็นที่พูดถึงในต่างประเทศ — หมาชื่อเท่ๆ ว่า Pumi (พูมิ)

พูมิเป็นหมาจากฮังการีที่เกิดมาเพื่อการต้อนฝูงสัตว์ ทำงานไว ขี้เล่น ฉลาด และ “ไม่ยอมอยู่เฉย”
แต่ด้วยความที่เขาทั้งพลังสูง เสียงดัง และขี้เบื่อแบบมืออาชีพ การเลี้ยงพูมิให้แฮปปี้จึงต้องมีทริคครับ

1. พูมิ: หมาต้อนขนหยิกจากฮังการีที่ “ขยันตั้งแต่เกิด”

พูมิเป็นสายพันธุ์เก่าแก่ที่ถูกพัฒนาขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17–18 จากการผสมข้ามระหว่าง Puli (หมาขนเดรดล็อกสายลุย) กับหมาต้อนจากเยอรมนีและฝรั่งเศส
ผลลัพธ์คือหมาต้อนขนหยิกที่มีพลัง ความฉลาด และหูตั้งเป็นเอกลักษณ์

ลักษณะเด่น:

• น้ำหนัก: 8–15 กก.

• ความสูง: 38–47 ซม.

• อายุเฉลี่ย: 12–14 ปี

• ขน: หยิกแน่น (Curly coat), ไม่ผลัดขนหนัก

• สี: เทา, ดำ, ขาว, น้ำตาลแดง

ข้อมูลจาก Hungarian Kennel Club: พูมิได้รับการรับรองเป็นสายพันธุ์อย่างเป็นทางการโดย Fédération Cynologique Internationale (FCI) ตั้งแต่ปี 1966 และถือเป็นหนึ่งใน “หมาแห่งชาติฮังการี”

2. พลังไม่หมดง่ายๆ — ถ้าคิดว่าเขาจะนั่งนิ่งอยู่บนตัก คุณคิดผิด

พูมิไม่ใช่หมานั่งนิ่งข้างโซฟา เขาคือหมาสายลุยที่เกิดมาเพื่อ “มีภารกิจ” ทุกวัน
ถ้าไม่มีงานให้ทำ เขาจะสร้างงานเอง เช่น เดินสำรวจรอบบ้าน วิ่งไล่แมว หรือเห่าบอกทุกสิ่งที่เขาเห็น

นิสัยเด่น:

• ต้องการออกกำลังกาย 60–90 นาที/วัน

• ฉลาด ชอบเรียนรู้และคิดเกมใหม่เอง

• เห่าเก่ง โดยเฉพาะเมื่อได้ยินเสียงหรือเห็นคนแปลกหน้า

• ขี้เบื่อ ต้องการกิจกรรมใหม่ๆ เป็นประจำ

เคล็ดลับ: สร้างกิจกรรมฝึก เช่น ฝึกคำสั่งขั้นสูง, Agility Training, ซ่อนของให้หา หรือฝึกงานเล็กๆ เช่น เก็บของเล่น จะช่วยให้เขามี “เป้าหมายในชีวิต”

3. ขนหยิกสวย ไม่ร่วงเยอะ แต่ต้องดูแลสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้พันกัน

ขนของพูมิเป็นขนหยิกลอนแน่นที่ไม่ร่วงแบบหมาขนสองชั้นทั่วไป แต่นั่นไม่ได้แปลว่าไม่ต้องดูแลครับ
เพราะถ้าไม่หวีหรือสางขนเลย ขนอาจจับตัวเป็นก้อนและกลายเป็นปัญหาผิวหนังได้

การดูแลขน:

• แปรงขนทุก 1–2 สัปดาห์

• อาบน้ำทุก 4–6 สัปดาห์

• หลังอาบน้ำควรใช้มือขยำขนเบาๆ เพื่อคืนรูปหยิก

• ตัดแต่งขนรอบหน้า หู และเท้าเพื่อความสะอาด

ข้อมูลจาก American Pumi Club: การดูแลขนพูมิไม่ยุ่งยากเท่าหมาขนยาว แต่ต้อง “สม่ำเสมอ” เพื่อป้องกันขนพันกันและรักษาความชุ่มชื้นของผิว

4. เสียงดีระดับหมาประสานเสียง — ต้องฝึกเรื่อง “เห่าแบบมีเหตุผล”

หนึ่งในลักษณะเด่นของพูมิ คือ “การสื่อสารเก่งเกินไป”
น้องเห่าเวลาเห็นอะไรเคลื่อนไหว เสียงแปลก หรือแม้กระทั่งเวลาเหงา ซึ่งเป็นธรรมชาติของหมาต้อนที่ต้องเตือนเจ้าของให้รู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น

พฤติกรรมเสียง:

• เห่าขณะเล่น หรือเจอสิ่งแปลกใหม่

• บางตัวชอบเห่าถี่ๆ เวลาอยู่คนเดียว

• ถ้าไม่ได้รับการฝึกตั้งแต่เล็ก จะเห่าตามใจ

กลเม็ด: ฝึกคำสั่ง “เงียบ” ตั้งแต่ช่วง 8–16 สัปดาห์ และให้รางวัลเมื่อเขาหยุดเห่า
หลีกเลี่ยงการตะโกนกลับ เพราะเขาอาจเข้าใจผิดว่า “คุณกำลังร่วมวงเห่าอยู่”

5. สุขภาพโดยรวมดี แต่ควรตรวจข้อสะโพกและหูอย่างสม่ำเสมอ

พูมิถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีสุขภาพดี ไม่มีโรคประจำพันธุ์รุนแรงเหมือนบางสายพันธุ์
แต่เนื่องจากเขาเป็นหมาที่ใช้งานเยอะ และมีหูตั้งที่เปิดรับความชื้นได้ง่าย จึงควรใส่ใจเรื่อง ข้อสะโพก และ สุขภาพหู เป็นพิเศษ

ปัญหาสุขภาพที่ควรเฝ้าระวัง:

• สะโพกเสื่อม (พบได้ 10–20% ตามสถิติในสหรัฐฯ)

• โรคตา เช่น ต้อกระจกเมื่อเข้าสู่วัยชรา

• หูอักเสบ จากความชื้นและฝุ่น

• ภาวะวิตกกังวลหากไม่ได้รับการกระตุ้นเพียงพอ

แนะนำ:

• ตรวจสุขภาพปีละ 1–2 ครั้ง

• ใช้อาหารเสริมบำรุงข้อต่อ (เช่น กลูโคซามีน)

• เช็ดหูสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง

• พาเข้าสังคมและฝึกจิตใจร่วมด้วยเสมอ

  
  

Pumi (พูมิ) คือหมาสายลุย ฉลาดเกินเบอร์ ขี้เล่น ขี้เห่า และมีเอกลักษณ์เรื่องขนหยิกกับหูตั้งสุดน่ารัก
เขาเหมาะกับเจ้าของที่มีเวลาให้ทั้งกิจกรรม การฝึก และการดูแลอย่างต่อเนื่อง เพราะพูมิไม่ใช่หมาสำหรับคน “อยู่บ้านเฉยๆ” แน่นอน

ถ้าคุณมองหาหมาที่ฉลาด เล่นได้ไม่มีเบื่อ พร้อมจะเป็นคู่หูทั้งในบ้านและกลางสนาม — พูมิคือสายพันธุ์ที่แปลกใหม่แต่น่าหลงรักสุดๆ

#พูมิหมาขนหยิกสุดไฮเปอร์ #Pumiฉลาดเกินหมา #หมาต้อนสายลุยจากฮังการี #หมาหูตั้งขี้เห่าแต่น่ารัก #Lazadogหมาหายากที่ใครก็รัก

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com