รวม 5 ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยง “หมาปักกิ่ง” เจ้าหมาขนฟูจากวังจีนที่รักสงบ แต่ไม่ยอมใคร
ถ้าคุณกำลังมองหาหมาที่ไม่ต้องวิ่งมารับคุณทุกครั้งที่เปิดประตู
แต่จะนั่งนิ่งๆ แล้วส่งสายตาประมาณว่า "เอ้า...ดีใจที่กลับมานะ" — นี่แหละครับ คุณกำลังมองหา Pekingese (ปักกิ่ง)
หมาพันธุ์นี้ไม่ได้แค่เป็นหมาตัวเล็กขนฟูธรรมดา แต่คือสุนัขประจำวังจักรพรรดิในราชวงศ์ถัง ที่ถูกเลี้ยงให้มีบุคลิกเหมือน “ขุนนางขนาดจิ๋ว”
ก่อนจะรับเจ้าหมาระดับจักรพรรดิกลับบ้าน มาดูกันว่า 5 ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยงหมาปักกิ่ง มีอะไรบ้างครับ
ปักกิ่งเป็นหนึ่งในสายพันธุ์สุนัขที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีต้นกำเนิดจากประเทศจีนกว่า 2,000 ปีมาแล้ว
พวกเขาเคยเป็นสุนัขประจำพระราชวัง และเชื่อกันว่าเป็น “ผู้พิทักษ์วิญญาณจักรพรรดิ” ซึ่งประชาชนธรรมดาไม่มีสิทธิ์เลี้ยง
น้ำหนัก: 3.2 – 6.4 กก.
ความสูง: ประมาณ 15 – 23 ซม.
อายุเฉลี่ย: 12 – 15 ปี
ขน: หนา ยาว เป็นชั้นคู่ สีหลากหลาย เช่น ขาว ครีม น้ำตาล แดง
หน้าแบน ตาโต จมูกสั้น หางม้วนขึ้น
ข้อมูลจาก American Kennel Club (AKC): Pekingese ได้รับการรับรองเป็นสายพันธุ์อย่างเป็นทางการในปี 1906 และยังคงติดอันดับสุนัขเลี้ยงในบ้านยอดนิยมทั่วโลก
ปักกิ่งเป็นหมาที่ “รู้คุณค่าในตัวเอง” สูงมาก
เขาจะรักคุณแบบลึกซึ้งเงียบๆ แต่ไม่ได้ทำตามคำสั่งทุกอย่างเพียงเพราะคุณพูดเสียงหวาน
เขามีบุคลิกแบบ “รู้ว่าเขาเป็นใคร” และจะทำในสิ่งที่เขา “โอเค” เท่านั้น
สุขุม ขี้อ้อน แต่ไม่วางใจคนแปลกหน้า
กล้าหาญแบบหมาตัวใหญ่ (ในร่างเล็ก)
ดื้อเงียบ ไม่ตอบสนองทันทีแบบโกลเด้น
ชอบนอนกลางวัน แต่ถ้าเล่นจะเต็มที่กับคุณ
เคล็ดลับ: ฝึกเขาด้วยความนิ่ง ไม่บังคับ และใช้คำชม/ของกินเป็นแรงจูงใจดีที่สุด
ขนของปักกิ่งคือเอกลักษณ์ประจำพันธุ์ และก็เป็นงานหนักที่สุดของคนเลี้ยง
ขนของเขายาว หนา และมีทั้งขนชั้นนอก (หยาบ) และชั้นใน (ฟูและร่วงง่าย) หากไม่แปรงบ่อยจะพันกันเป็นก้อนจนต้องโกน
แปรงขนอย่างน้อย 3–4 ครั้งต่อสัปดาห์ (ทุกวันจะดีที่สุด)
ใช้แปรง pin brush และ comb หวีให้ถึงขนชั้นล่าง
อาบน้ำเดือนละครั้ง หรือเมื่อลุยฝุ่น
ตัดแต่งรอบดวงตา อุ้งเท้า และก้นเป็นระยะ
ข้อมูลจาก The Kennel Club UK: ปักกิ่งเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีแนวโน้มเกิดปัญหา “ขนพันกันเรื้อรัง” สูงสุด หากไม่ได้รับการหวีอย่างสม่ำเสมอ
ด้วยโครงหน้าสั้นแบบ brachycephalic (หน้าสั้น) ทำให้ปักกิ่งมีข้อจำกัดเรื่องระบบหายใจ
อากาศร้อนหรือการออกแรงมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย หายใจติดขัด หรือฮีตสโตรกได้ง่ายกว่าหมาทั่วไป
อย่าพาออกกำลังกลางแดดจัด
ควรอยู่ในห้องปรับอากาศ หรือมีพัดลมระบายอากาศ
หมั่นเช็ดหน้า ตา และรอยย่นให้แห้ง
ระวังเสียงหายใจดัง แสดงว่าเริ่มเหนื่อยหรือมีสิ่งอุดตัน
เคล็ดลับ: ใช้สายรัดอกแทนปลอกคอ เพื่อไม่กดหลอดลมช่วงเดินเล่น
แม้ปักกิ่งจะเป็นหมาที่อายุยืนและไม่ค่อยป่วย แต่ก็มีจุดอ่อนเฉพาะทางจากรูปร่าง เช่น
ตาโต เสี่ยงต่อการบาดเจ็บและตาแห้ง
หลังยาวเตี้ย เสี่ยงต่อโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อน (IVDD)
ตรวจตาและหยอดน้ำตาเทียมเมื่อมีอาการแสบ
อย่าให้กระโดดจากที่สูง เช่น โซฟา เตียง
เสริมสารอาหารจำพวกลูทีน (Lutein), กลูโคซามีน และ Omega-3
ควบคุมน้ำหนัก เพราะน้ำหนักส่วนเกินส่งผลต่อกระดูก
ข้อมูลจาก OFA (Orthopedic Foundation for Animals): พบว่า 25% ของหมาปักกิ่งที่ไม่ได้ควบคุมน้ำหนักตั้งแต่ต้น มีปัญหาเกี่ยวกับหลังหรือหมอนรองกระดูกในช่วงอายุ 7 ปีขึ้นไป
Pekingese (หมาปักกิ่ง) คือหมาตัวเล็กที่มีบุคลิก “ใหญ่มาก”
เขาอาจจะไม่ได้ทำตัวอ้อนแบบหมาทั่วไป แต่เป็นเพื่อนคู่ใจที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว รักเงียบแต่มั่นคง เหมาะกับเจ้าของที่ชอบความเรียบง่าย สงบ และมีเวลาแปรงขน!
ถ้าคุณอยากเลี้ยงหมาที่ “เหมือนมีขุนนางตัวน้อยๆ เดินอยู่ในบ้าน” — หมาปักกิ่งคือหมาที่จะอยู่เคียงข้างคุณด้วยศักดิ์ศรี ความรัก และเสียงหายใจเบาๆ จากหมาหน้าย่น
#หมาปักกิ่งขุนนางตัวน้อย #Pekingeseสายสงบแต่จิตใจนักสู้ #หมาขนฟูหน้าแบนผู้ภักดี #หมาน่ารักดูแลไม่เบา #Lazadogสายพันธุ์หมาเอเชีย
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com