5 เรื่องที่คุณควรรู้ ก่อนพาน้องหมาเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะหรือยานพาหนะต่างๆ (อัปเดท 2025)

Apr 07, 2025
การรับเลี้ยงและการดูแล
5 เรื่องที่คุณควรรู้ ก่อนพาน้องหมาเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะหรือยานพาหนะต่างๆ (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

5 เรื่องที่คุณควรรู้ ก่อนพาน้องหมาเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะหรือยานพาหนะต่างๆ

อยากพาน้องหมาออกไปเที่ยวด้วยกันใช่ไหมครับ?
แต่ติดตรงที่ไม่มีรถส่วนตัว หรือไม่แน่ใจว่ายานพาหนะแบบไหนที่เหมาะกับสัตว์เลี้ยง
ยุคนี้การเดินทางกับน้องหมาในเมืองไทยเริ่มเปิดกว้างมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า รถแท็กซี่ หรือบริการส่งพิเศษ

แต่ก่อนจะคว้าสายจูงกับขนมติดกระเป๋า ลองมาอ่าน 5 เรื่องที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ “การเดินทางแบบ Pet-Friendly”
เพื่อให้น้องหมาปลอดภัย คุณสบายใจ และทุกอย่างเป็นมิตรกับสังคมครับ


1. รถไฟฟ้า BTS และ MRT อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงขึ้นได้ “ตามเงื่อนไข”

ข่าวดีสำหรับคนเมือง!
ตอนนี้ BTS และ MRT บางสายอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงขึ้นได้ โดยเฉพาะ “หมาพันธุ์เล็ก” ที่อยู่ในกระเป๋าหรือกรงพกพาปิดสนิท

ข้อกำหนดหลัก:

  • ต้องใส่กระเป๋าปิดมิดชิด

  • ไม่ส่งกลิ่นหรือเสียงรบกวน

  • อยู่ภายใต้ความดูแลของเจ้าของตลอดเวลา

  • บางสถานีอาจมีข้อจำกัดเฉพาะ (แนะนำเช็กกับเจ้าหน้าที่ก่อนเดินทาง)

Fact: ปัจจุบันมีสถานีรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ มากกว่า 30 แห่ง ที่รองรับสัตว์เลี้ยงในช่วงเวลาที่ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วน


2. บริการแท็กซี่และแอปเรียกรถ มีตัวเลือก “รับสัตว์เลี้ยง” โดยเฉพาะ

GrabPet, Lalamove Pet, Bolt Pet—เหล่านี้คือบริการที่ออกแบบมาให้คนพาน้องหมาเดินทางได้อย่างสบายใจ
ไม่ต้องกังวลว่าแท็กซี่จะปฏิเสธ หรือคนขับจะไม่สะดวก

สิ่งที่ควรเตรียม:

  • แจ้งขนาดน้ำหนักของหมาล่วงหน้า

  • ใช้สายจูงหรือกรงพกพา

  • พกแผ่นรองหรือผ้าคลุมเบาะ (เพื่อความสะอาด)

  • มีของเล่นหรือขนมไว้ให้หมาสงบระหว่างทาง

Tip: ค่าโดยสารอาจสูงกว่าปกติเพียง 10–30% แต่แลกกับความสะดวกใจ ถือว่าคุ้มค่าครับ


3. รถไฟทางไกลสามารถพาหมาเดินทางได้ (แบบต้องจองล่วงหน้า)

ใครที่อยากพาหมาไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยรถไฟ ต้องรู้ไว้ว่า การนำสัตว์เลี้ยงขึ้นรถไฟไทยสามารถทำได้
แต่จะต้องจองตั๋วพิเศษสำหรับสัตว์เลี้ยง และมีเงื่อนไขเฉพาะตามสายการเดินทาง

เงื่อนไขของการเดินทาง:

  • ต้องเป็นตู้นั่งชั้น 3 เท่านั้น

  • หมาไม่เกิน 7 กิโลกรัม (ใส่กรงตลอดเวลา)

  • เจ้าของต้องนั่งดูแลตลอดการเดินทาง

  • ต้องแจ้งและชำระค่าธรรมเนียมล่วงหน้า

Fact: การรถไฟแห่งประเทศไทยอนุญาตให้นำหมาขึ้นรถไฟมานานกว่า 10 ปีแล้ว เพียงแต่ยังไม่ค่อยมีการประชาสัมพันธ์กว้างขวาง


4. รถส่วนตัวคือทางเลือกที่ยืดหยุ่นที่สุด (แต่ก็ต้องมีการเตรียมพร้อม)

หากคุณมีรถส่วนตัว ถือว่าได้เปรียบเรื่องความยืดหยุ่น
แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะสามารถขนหมาไปแบบไม่วางแผนเลยนะครับ
เพราะความปลอดภัยและความสะอาดของรถต้องมาก่อน

สิ่งที่ควรมีในรถ:

  • ที่นั่งหรือเบาะสำหรับสัตว์เลี้ยง

  • ที่ล็อกสายจูงกับเบาะ (Pet Seatbelt)

  • ผ้ารองเบาะหรือผ้ายางกันขน

  • น้ำดื่ม ขนม และถุงเก็บอึ

Tip: อย่าลืมเปิดกระจกระบายอากาศหรือแวะพักทุก 2–3 ชั่วโมง โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อน


5. การเดินทางกับหมาต้อง “เตรียมเอกสาร” และ “พฤติกรรม” ให้พร้อม

การพาหมาออกนอกบ้านบ่อยๆ ช่วยให้เขาคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่ได้ดี
แต่คุณต้องแน่ใจว่าเขาไม่เห่าเสียงดัง ไม่ก้าวร้าว และควบคุมได้ตลอดการเดินทาง

เอกสารและอุปกรณ์ที่ควรพก:

  • สมุดวัคซีน (โดยเฉพาะถ้าเดินทางไกลหรือเข้าที่พัก)

  • ป้ายชื่อ+เบอร์ติดต่อ

  • สายจูงหรือสายรัดอกที่แน่นหนา

  • ขนมไว้ให้สงบเมื่อเกิดความเครียด

Fact: เจ้าของที่ฝึกให้น้องหมาขึ้นรถหรือเข้าสถานที่ใหม่ๆ สม่ำเสมอ มีแนวโน้มพาหมาออกไปใช้ชีวิตร่วมกันนอกบ้านมากขึ้นถึง 55%


การเดินทางกับน้องหมาไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แค่รู้จักตัวเลือกที่มี เตรียมตัวให้พร้อม และเคารพกติกาของแต่ละระบบขนส่ง
คุณก็สามารถพาน้องหมาไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ได้อย่างสนุกและปลอดภัย
เพราะสำหรับหมาแล้ว… ที่ไหนไม่สำคัญเท่าการได้อยู่กับคุณครับ


#เดินทางกับหมา #พาหมาไปเที่ยว #ขนส่งที่รับหมา #หมาก็ไปด้วยได้ #LazadogCareTips


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมาให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts