5 ข้อควรรู้! ปัญหา “หูแมว” อาจไม่ใช่เรื่องเล็ก ถ้าคุณยังคิดว่าแค่ขี้หูเยอะ

เวลาแมวสะบัดหัว เกาหูบ่อยๆ หรือมีขี้หูสีดำๆ หลายคนอาจจะคิดว่า “ก็แค่สกปรกธรรมดา เดี๋ยวก็หาย”
แต่จริงๆ แล้ว...อาการแบบนี้อาจเป็นสัญญาณของปัญหาใหญ่ในระบบหูของแมว
ที่ถ้าปล่อยไว้ไม่รีบแก้ อาจลุกลามถึงขั้น “หูอักเสบเรื้อรัง” หรือ “ติดเชื้อในหูชั้นกลาง” ได้เลยนะครับ

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 5 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ “โรคหูในแมว” แบบเข้าใจง่าย พร้อมวิธีดูแลแมวให้หูสะอาด สุขภาพดี ไม่มีกลิ่นตุๆ ให้รำคาญใจ

1. แมวก็เป็น “หูอักเสบ” ได้เหมือนหมา (และมักแสดงออกน้อยกว่าด้วย)

แมวไม่ได้โชว์อาการชัดเจนเหมือนสุนัขเวลาเจ็บหูครับ
แต่โรคหูในแมวเกิดขึ้นบ่อยมาก โดยเฉพาะแมวที่อยู่ในที่อับชื้น แมวขนยาว หรือแมวที่ชอบเล่นในสวน

อาการเบื้องต้นที่ควรสังเกต:

• สะบัดหัวบ่อย

• เอียงหัวข้างเดียว

• ขี้หูสีดำ น้ำตาล หรือมีกลิ่นเหม็น

• เกาหูบ่อย จนเกิดแผล

• หูบวมแดง / ตกสะเก็ด

“โรคหูอักเสบในแมวพบบ่อยเป็นอันดับ 5 ของโรคผิวหนังในคลินิกสัตว์เลี้ยงทั่วโลก”
– Veterinary Dermatology Journal, 2021

2. ต้นตอของปัญหา: ไรหู แบคทีเรีย เชื้อรา หรือแพ้?

ปัญหาหูแมวมีสาเหตุมากมาย ไม่ใช่แค่เรื่องความสะอาด
บางครั้งต้นตอจริงๆ อาจเป็น “ไรหู” ตัวเล็กจิ๋วที่มองไม่เห็น
หรือเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราซ้ำซ้อนก็ได้

สาเหตุที่พบบ่อย:

• ไรหู (Otodectes cynotis): พบได้บ่อยในลูกแมว/แมวจร

• แบคทีเรีย/เชื้อรา: ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นหู และขี้หูผิดปกติ

• ภูมิแพ้: เช่น แพ้อาหาร ทำให้แมวมีหูแดง คันหู

• เนื้องอกในช่องหู: พบได้ในแมวสูงวัย

“ไรหูสามารถติดต่อจากแมวตัวหนึ่งไปอีกตัวได้โดยตรง และอาจอยู่ในบ้านได้เป็นสัปดาห์หากไม่ทำความสะอาดดีพอ”
– Feline Parasitology Report, 2020

3. การวินิจฉัยโรคหูในแมว ต้องทำอย่างไร?

อย่าคิดว่าแค่หยดน้ำยาล้างหูแล้วจะจบครับ!
การรักษาหูแมวควรอาศัยการวินิจฉัยอย่างละเอียด เพื่อให้หายจริง ไม่กลับมาเป็นซ้ำ

กระบวนการวินิจฉัยจากสัตวแพทย์:

• ตรวจหูด้วย otoscope (กล้องส่องหู)

• ตรวจขี้หูด้วยกล้องจุลทรรศน์ (cytology)

• เช็คว่ามีไรหู เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อรา

• ตรวจหาสาเหตุเบื้องหลัง เช่น แพ้อาหาร หรือภูมิแพ้แฝง

ข้อควรรู้:

• ห้ามใช้น้ำยาล้างหูที่ไม่ได้สำหรับแมว เพราะอาจทำให้ระคายเคือง

• ยาที่ใช้ต้องเหมาะกับเชื้อที่เป็น ไม่ควรซื้อมาใช้เอง

4. ดูแลหูแมวยังไงให้ปลอดโรค?

หูแมวที่ดูเหมือนทำความสะอาดยาก จริงๆ แล้วดูแลง่ายกว่าที่คิด
เพียงแค่รู้วิธีและไม่ “เผลอทำร้ายหูแมว” ด้วยความหวังดีแบบผิดๆ

เคล็ดลับดูแลหูแมว:

• ใช้สำลีพันก้านนุ่มพิเศษ + น้ำยาทำความสะอาดหูที่ปลอดภัยสำหรับแมว

• หลีกเลี่ยงการล้วงเข้าไปลึกเกินไป

• ทำความสะอาดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง (หรือมากกว่า หากสัตวแพทย์แนะนำ)

• เช็ดบริเวณใบหูด้วยสำลีแห้งหลังอาบน้ำ

• หากมีการอักเสบ หยุดล้างทันที แล้วรีบพาไปหาหมอ

ข้อควรรู้:

• แมวบางตัวไม่ควรล้างหูบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองมากกว่าเดิม

5. ปล่อยไว้ไม่รักษา อาจลุกลามถึงสมอง!

ใช่ครับ อ่านไม่ผิด…การติดเชื้อในหูชั้นในหรือลึกลงไป อาจลามถึงสมองและทำให้แมวเสียชีวิตได้ในบางกรณี
โดยเฉพาะถ้าแมวเริ่มมีอาการประสาท เช่น เดินเซ เอียงหัว หรือล้มหงายบ่อยๆ

ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่อาจเกิดได้:

• Otitis media/interna (การอักเสบในหูชั้นกลางและใน)

• หูดับถาวร

• เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

• เสียการทรงตัว

“แมวที่มีการติดเชื้อในหูชั้นในและไม่ได้รับการรักษาทันเวลา มีอัตราเสียชีวิตสูงถึง 30% ในบางกรณี”
– Feline Neurology Reference, 2022

หูแมวอาจดูเป็นแค่ส่วนเล็กๆ แต่ถ้าปล่อยให้มีปัญหาโดยไม่สนใจ
ผลกระทบที่ตามมาอาจใหญ่กว่าที่คุณคิด!

สังเกตแมวให้ดี สะบัดหัวบ่อย เกาหูผิดปกติ อย่ารอให้มีน้ำหนองหรือกลิ่นเหม็นถึงจะพาไปหาหมอนะครับ

❝สะบัดหัวบ่อยๆ ไม่ได้โยกหัวตามจังหวะเพลง…แต่กำลังบอกว่าหูฉันมีปัญหา!❞

#ปัญหาหูแมว #ไรหูแมว #หูอักเสบแมว #แมวคันหู #ดูแลแมว #Lazadogรู้ใจแมว

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com