5 ข้อควรรู้! แมวหายใจครืดคราด น้ำมูกไม่หยุด อาจเป็น “โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง” ที่รักษายากกว่าที่คิด (อัปเดท 2025)

Apr 20, 2025
healthy สุขภาพ
5 ข้อควรรู้! แมวหายใจครืดคราด น้ำมูกไม่หยุด อาจเป็น “โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง” ที่รักษายากกว่าที่คิด (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

5 ข้อควรรู้! แมวหายใจครืดคราด น้ำมูกไม่หยุด อาจเป็น “โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง” ที่รักษายากกว่าที่คิด

“แมวบ้านเราจามอีกแล้ว...”
หลายคนมองว่าแค่แมวมีน้ำมูก จาม เสียงหายใจครืดๆ คงเป็นหวัดธรรมดา
แต่ถ้าเป็นบ่อย รักษาไม่หาย หรือกลับมาเป็นซ้ำ นั่นอาจเป็น “โรคระบบทางเดินหายใจส่วนบนเรื้อรังในแมว” หรือที่เรียกกันว่า Chronic Upper Respiratory Tract Disease (URTD) ครับ

โรคนี้เจอบ่อยมาก โดยเฉพาะในแมวที่เคยติดหวัดแมวมาก่อน แล้วอาการไม่หายขาด
บางตัวต้องอยู่กับน้ำมูกไปตลอดชีวิต!

วันนี้ผมจะพาคุณมารู้จัก 5 ข้อควรรู้ของโรคนี้ พร้อมวิธีดูแลน้องแมวให้หายใจโล่ง สดใส ไม่ต้องพ่นยาไปตลอดชาติครับ


1. แมวที่เคยเป็นหวัดแมว “หายใจครืด” อาจไม่ได้หายสนิท

แมวที่เคยติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจ (เช่น Feline Herpesvirus หรือ Calicivirus) แม้จะหายไข้ หายจามแล้ว
แต่บางราย เชื้อยังคงแฝงในร่างกาย และกลับมาแสดงอาการเมื่อร่างกายอ่อนแอหรือเครียด

“มากกว่า 80% ของแมวที่เคยติด FHV-1 จะกลายเป็นพาหะเงียบที่มีโอกาสกลับมาแสดงอาการซ้ำ”
Feline Infectious Disease Journal, 2022

อาการเรื้อรังที่พบบ่อย:

  • หายใจเสียงดัง

  • น้ำมูกข้น หนืด สีเหลืองหรือเขียว

  • ตาอักเสบ มีขี้ตาตลอด

  • หายใจทางปาก (ในกรณีจมูกตัน)

  • จามบ่อย หรือติดๆ หยุดๆ เป็นเดือนๆ


2. โรคนี้ไม่ใช่แค่หวัด...แต่เป็น “โรคเรื้อรัง” ที่อาจอยู่กับแมวไปตลอดชีวิต

หลายคนเข้าใจผิดว่า “ให้ยาปฏิชีวนะก็หาย”
แต่จริงๆ แล้ว URTD เรื้อรังมักมีพยาธิสภาพต่อเนื่อง เช่น โพรงจมูกอักเสบ, ไซนัสตีบ, เยื่อบุทางเดินหายใจหนา, หรือมี เชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน

“แมวที่มี URTD เรื้อรังมักต้องรักษาแบบประคับประคอง ไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสต้นเหตุได้ทั้งหมด”
Journal of Small Animal Practice, 2020


3. การวินิจฉัยต้องทำอย่างละเอียด และไม่ควรเดาเอาเอง

แมวที่จามบ่อยหรือมีน้ำมูกเรื้อรังควรได้รับการวินิจฉัยอย่างละเอียด เพราะอาจมีสาเหตุซ้อน เช่น:

  • เนื้องอกโพรงจมูก

  • เชื้อรา (Cryptococcus)

  • สิ่งแปลกปลอมในจมูก

  • โรคภูมิแพ้เรื้อรัง

การวินิจฉัยที่แนะนำ:

  • ตรวจเลือดพื้นฐาน

  • X-ray หรือ CT Scan ช่องจมูก

  • ตรวจเชื้อไวรัสจากน้ำมูกหรือขี้ตา

  • ตรวจดูโพรงจมูกด้วย endoscope (กรณีเรื้อรังจัด)


4. แนวทางการดูแลแมวที่มี URTD เรื้อรัง ต้อง “ปรับบ้าน+ใจ”

แมวที่ป่วยเรื้อรัง ต้องการการดูแลที่มากกว่าการให้ยา
เจ้าของต้องเข้าใจว่าโรคนี้อาจดีขึ้น-แย่ลงเป็นระยะ และต้องใช้เวลา

เทคนิคดูแลแมวหายใจไม่โล่ง:

  • เปิดเครื่องเพิ่มความชื้นในบ้าน (humidifier)

  • ใช้ห้องอุ่นๆ ไม่ให้เย็นเกินไป

  • เช็ดน้ำมูกและขี้ตาเป็นประจำ

  • พาไปพ่นยาตามนัด หรือพ่นไอน้ำเบาๆ (steam therapy)

  • เลือกอาหารกลิ่นแรง เพื่อกระตุ้นให้แมวกิน

  • พูดคุยหรือเปิดเพลงคลอเบาๆ เพื่อลดเครียด


5. การป้องกันคือ “วัคซีน + จัดบ้านไม่ให้เครียด”

โรคนี้แม้จะไม่สามารถป้องกันได้ 100% แต่เราสามารถลดความเสี่ยงได้มาก
โดยเฉพาะในแมวเด็ก แมวที่มีภูมิต่ำ หรือแมวในบ้านหลายตัว

แนวทางป้องกัน:

  • ฉีดวัคซีนหวัดแมว (FVRCP) ตามกำหนด

  • ลดความเครียดแมว เช่น ไม่ให้เสียงดังเกิน, ไม่ย้ายของบ่อย

  • แยกแมวป่วยออกจากแมวสุขภาพดี

  • หมั่นทำความสะอาดชาม อุปกรณ์ ของเล่น

  • ไม่รับแมวใหม่เข้าบ้านโดยไม่กักตัว

“การฉีดวัคซีนและลดปัจจัยเครียด สามารถลดอาการกำเริบของ URTD ได้มากกว่า 60%”
Feline Preventive Care Survey, 2021


โรคระบบทางเดินหายใจส่วนบนเรื้อรังในแมว ไม่ใช่แค่หวัดธรรมดา
แต่มันคือปัญหาที่ซับซ้อน และต้องการความเข้าใจ การดูแลอย่างต่อเนื่องจากเจ้าของ

จำไว้นะครับ...แมวที่หายใจครืดคราด น้ำมูกเหนียว อาจไม่ใช่ “หายช้า” แต่ “หายยาก” และต้องดูแลแบบแมวพิเศษ!


❝แมวหายใจไม่โล่ง ไม่ใช่หวัดธรรมดา แต่อาจเป็นโรคที่อยู่ด้วยกันไปตลอด❞


#แมวหายใจครืดคราด #หวัดแมวเรื้อรัง #ดูแลระบบหายใจแมว #น้ำมูกแมวไม่หาย #แมวพ่นยา #Lazadogรู้ใจแมว


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts