5 ข้อควรรู้! “ดวงตาแมว” บอบบางกว่าที่คิด ถ้าไม่ดูแลให้ดี อาจพลาดจนรักษาไม่ทัน
หลายคนอาจมองว่า ดวงตาแมวดูเหมือนไม่มีอะไรต้องห่วง “ก็เห็นมันตาใสแวววาวตลอดนี่นา”
แต่จริงๆ แล้ว ดวงตาแมวคือหนึ่งในอวัยวะที่ไวและเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากที่สุด
ตั้งแต่อาการตาแดง น้ำตาไหล จนถึงโรคตาเรื้อรังที่อาจทำให้ตาบอดถาวร
โดยเฉพาะแมวที่เลี้ยงในบ้านและไม่ได้รับการตรวจสุขภาพตาสม่ำเสมอ
บทความนี้จะพาคุณไปรู้ลึกเรื่องการดูแลตาแมวแบบไม่มโน พร้อมสถิติ ข้อมูลวิชาการ และเคล็ดลับจากสัตวแพทย์ที่คุณควรรู้ก่อนจะ “สายเกินไป”
แมวมีความไวต่อสิ่งระคายเคืองทางตาเป็นพิเศษ เพราะมีระบบน้ำตาและเยื่อบุตาที่บางมาก
โดยเฉลี่ย ดวงตาแมวจะกระพริบเพียง 1-2 ครั้งต่อนาที (แม้น้อยกว่าคนมากถึง 10 เท่า)
ส่งผลให้ฝุ่นละออง สารระเหย หรือแม้แต่น้ำยาทำความสะอาดบางชนิดสามารถทำให้ตาแมวอักเสบได้ง่ายมาก
สิ่งที่ควรเลี่ยง:
การใช้สเปรย์ปรับอากาศ หรือเทียนหอมใกล้แมว
น้ำยาทำความสะอาดที่มีแอมโมเนียหรือแอลกอฮอล์
ไม่เปลี่ยนทรายแมวสม่ำเสมอ (เสี่ยงฝุ่นเข้าตา)
“กว่า 60% ของเคสตาอักเสบในแมว มาจากสิ่งระคายเคืองในสิ่งแวดล้อม”
– รายงานสุขภาพสัตว์เลี้ยงไทย, 2022
หลายคนเห็นแมวมีขี้ตาเยอะ ก็แค่เช็ดออกแล้วจบ แต่จริงๆ แล้ว นี่อาจเป็นสัญญาณของโรคตาเรื้อรัง
โดยเฉพาะ Feline Herpesvirus (FHV-1) ซึ่งเป็นไวรัสที่ติดได้ง่าย และทำให้แมวมีอาการตาอักเสบ น้ำตาไหลเรื้อรัง และขนตางอกผิดที่
สัญญาณอันตรายที่ควรพบสัตวแพทย์ทันที:
ตาแดง บวม หรือหลับตาข้างเดียว
น้ำตาไหลไม่หยุด ขี้ตามีสีเขียวหรือเหลือง
กระพริบตาบ่อย หรือเอาขาหน้าขยี้ตาบ่อยๆ
กระจกตาขุ่น มองไม่เห็นตาดำ
“FHV-1 เป็นสาเหตุอันดับ 1 ของโรคตาเรื้อรังในแมว โดยมีอัตราพบสูงถึง 80% ในแมวจรจัด”
– Feline Ocular Study, Cornell University, 2021
แม้แมวจะดูแลตัวเองเก่ง แต่การเช็ดตาให้แมวอย่างถูกวิธี ก็ช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อและสิ่งสกปรกสะสมได้มาก
โดยเฉพาะแมวพันธุ์หน้าสั้น เช่น เปอร์เซีย หรือเอ็กโซติก ช็อตแฮร์ ซึ่งมีโครงหน้าทำให้มีขี้ตาไหลประจำ
วิธีเช็ดตาแมวอย่างถูกต้อง:
ใช้สำลีแผ่นสะอาดชุบน้ำต้มสุกอุ่นๆ
เช็ดจากหัวตาไปหางตาเบาๆ (หนึ่งสำลีต่อหนึ่งตา)
ไม่ควรใช้น้ำเกลือคนหรือแอลกอฮอล์โดยตรง
อย่าใช้กระดาษทิชชู่เช็ดตา เพราะอาจทำให้เยื่อบุตาถลอก
เคล็ดลับ: ฝึกแมวให้คุ้นเคยตั้งแต่ยังเล็ก ด้วยการเช็ดวันละ 1 ครั้งหลังตื่นนอน
ถ้าแมวของคุณสูญเสียการมองเห็น ไม่ต้องตกใจ เพราะแมวมีประสาทสัมผัสอื่นที่ชดเชยได้ดีมาก เช่น การดมกลิ่นและการฟัง
แมวบอดบางตัวยังวิ่งเล่นได้ปกติถ้าคุณช่วยปรับบ้านให้เหมาะ
เทคนิคดูแลแมวตาบอด:
อย่าย้ายของในบ้านบ่อย
ใช้พรมทางเดินเพื่อให้แมวจดจำตำแหน่ง
ใช้เสียงเรียกเพื่อให้แมวรับรู้ตำแหน่งของคุณ
ค่อยๆ แนะนำจุดใหม่ในบ้าน เช่น ห้องน้ำหรือชามอาหาร
“แมวที่ตาบอดสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีเทียบเท่าแมวปกติ หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและคุ้นเคย”
– Veterinary Ophthalmology Research, 2020
การตรวจสุขภาพตาแมวไม่ใช่เรื่องของแมวสูงวัยเท่านั้น แต่ควรทำตั้งแต่แมวอายุ 6 เดือนขึ้นไป
แนะนำให้ตรวจตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะแมวพันธุ์ที่มีแนวโน้มเป็นโรคตา เช่น สก๊อตติช โฟลด์ หรือบริติช ช็อตแฮร์
สิ่งที่คุณควรเช็กเป็นประจำ:
ความใสของตาดำ
ปริมาณและลักษณะของน้ำตา
ขี้ตา สี กลิ่น และความถี่
อาการเกาตาหรือหลับตาผิดปกติ
“แมวที่ได้รับการตรวจตาเป็นประจำ มีโอกาสป้องกันโรคตาได้มากกว่า 70%”
– Pet Health Awareness Survey, 2023
ดวงตาแมวไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะแม้จะดูไม่บอบบาง แต่ถ้าพลาดแค่ครั้งเดียว อาจเสี่ยงต่อการสูญเสียการมองเห็น
การสังเกตแมวให้ดี เช็ดตาให้ถูกวิธี เลี่ยงสิ่งระคายเคือง และพาไปตรวจสม่ำเสมอ จะช่วยให้แมวของคุณตาใส…ใจสดใสไปด้วย
อย่ารอให้แมวร้องก่อน แล้วค่อยดูแลตา...เพราะบางทีอาจสายไปแล้ว!
❝ตาแมว...ไม่ใช่แค่หน้าตา แต่คือคุณภาพชีวิต❞
#ดูแลตาแมว #สุขภาพดวงตาแมว #เช็ดตาแมว #โรคตาแมว #แมวตาแฉะ #สัตวแพทย์แนะนำแมว #Lazadogรู้ใจแมว
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com