5 ข้อควรรู้! แมวขี้ตาเขียวไม่ใช่แค่หวัด แต่อาจติด “ชลามัยเดีย” โรคตาที่คุณต้องจับตา (จริงๆ)
เคยเห็นแมวที่ขี้ตาเขียวๆ แดงๆ บวมๆ แล้วนึกว่า “แมวคงแพ้ฝุ่น” หรือ “เป็นหวัดแมวธรรมดา” ไหมครับ?
แต่รู้หรือไม่...อาการแบบนั้นอาจมาจาก “โรคติดเชื้อชลามัยเดีย (Chlamydia felis)” ซึ่งฟังชื่อแล้วเหมือนโรคของคนนิดๆ แต่บอกเลยว่าในแมวก็ไม่ใช่เล่น!
โรคนี้พบได้บ่อย โดยเฉพาะในแมวเด็ก แมวที่อยู่รวมกันเยอะ หรือแมวจากฟาร์ม/ศูนย์พักพิง และถ้าไม่รักษาไว ก็ลามจากตาไปทั้งระบบได้เลย
วันนี้ผมจะพาไปเจาะ 5 ข้อควรรู้เกี่ยวกับโรคชลามัยเดียในแมว ที่เจ้าของต้องรู้ไว้ก่อนจะสายเกินไปครับ!
ชลามัยเดีย (Chlamydia felis) เป็นแบคทีเรียกึ่งไวรัสกึ่งจอมลอบกัด
มันชอบเล่นงานเยื่อตาและทางเดินหายใจส่วนต้นของแมว ทำให้ตาแดง บวม มีขี้ตาเยอะ และบางตัวอาจเริ่มไอ/จาม
“แมวที่ติดเชื้อชลามัยเดียมากถึง 30–60% จะมีอาการเยื่อตาอักเสบเรื้อรัง”
– Journal of Feline Medicine and Surgery, 2021
ติดต่อได้อย่างไร?
ผ่านการสัมผัสโดยตรง (เช่น เลียกัน เล่นกัน)
ผ่านการใช้ของร่วม เช่น ชาม อุปกรณ์ แปรงขน
ลูกแมวสามารถติดจากแม่ได้ตั้งแต่แรกเกิด
แมวที่ติดเชื้อจะเริ่มจากตาข้างหนึ่งก่อน แล้วลามไปอีกข้าง
ถ้าไม่รักษาจะเริ่มอักเสบเรื้อรัง และอาจมีอาการระบบอื่นตามมา
อาการทั่วไป:
ตาแดง ขอบตาบวม
ขี้ตาเหนียว สีเขียวหรือเหลือง
ตาปรือ ลืมตาไม่ได้
จามบ่อย น้ำมูกไหล
เบื่ออาหาร (จากอาการไม่สบายตัว)
“แมวที่ไม่ได้รับการรักษาในช่วง 7 วันแรกของการติดเชื้อ มีโอกาสกลายเป็นพาหะเรื้อรังได้มากถึง 70%”
– Feline Infectious Disease Review, 2020
การวินิจฉัยต้องแยกออกจากโรคหวัดแมวทั่วไป เช่น herpesvirus หรือ calicivirus
สัตวแพทย์จะเก็บสารคัดหลั่งจากตา ส่งตรวจ PCR หรือส่องจุลินทรีย์
การรักษาหลัก:
ยาปฏิชีวนะ เช่น Doxycycline หรือ Azithromycin
ยาหยอดตาต้านเชื้อ
ดูแลระบบภูมิคุ้มกัน: อาหารดี น้ำสะอาด ไม่เครียด
รักษาต่อเนื่องอย่างน้อย 2–4 สัปดาห์
ข้อควรรู้:
แมวที่อยู่ในบ้านเดียวกันควรได้รับการตรวจด้วย
ควรกักตัวแมวป่วยไม่ให้แพร่เชื้อ
ในประเทศไทย วัคซีน FVRCP (หวัดแมวรวม) จะครอบคลุมบางสายพันธุ์ของชลามัยเดีย
แม้จะไม่ 100% แต่ก็ลดโอกาสติดเชื้อ และทำให้อาการเบาลงอย่างมาก
แนะนำ:
เริ่มฉีดวัคซีนตอนอายุ 8–9 สัปดาห์
ฉีดกระตุ้นตามตารางทุกปี
แมวในบ้านหลายตัวควรได้รับวัคซีนครบทุกตัว
โรคนี้มี “ฟอร์มลับ” คือแมวบางตัวหายอาการแล้ว แต่ยังเป็นพาหะเงียบได้
สามารถแพร่เชื้อผ่านขี้ตาหรือน้ำมูกโดยที่ดูเหมือนไม่ป่วย
คำแนะนำสำหรับเจ้าของ:
ล้างมือหลังจับแมวป่วย
แยกของใช้แมวอย่างชามน้ำ แปรง และผ้า
ค่อยๆ แนะนำตัวใหม่หลังหายป่วย
ทำความสะอาดพื้นที่และกรงด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออ่อนๆ
โรคชลามัยเดียในแมวอาจดูเหมือนไม่ร้ายแรง แต่ถ้าปล่อยไว้…
ก็กลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่ทั้งแมวและคนเลี้ยงต้องเหนื่อยใจ
รู้ไว รักษาไว ป้องกันด้วยวัคซีน = ทางรอดที่แมวจะไม่ต้องปวดตา และเจ้าของไม่ต้องปวดหัว!
❝ตาแดง ไม่ใช่แค่แมวร้องไห้…แต่อาจติดเชื้อชลามัยเดีย❞
#แมวตาแดง #ชลามัยเดียในแมว #ขี้ตาแมว #หวัดแมวต้องระวัง #แมวแพร่เชื้อได้ #Lazadogรู้ใจแมว
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com