5 ข้อควรรู้! โรคไตเรื้อรังในแมว ไม่ใช่แค่เรื่องของ “ฉี่บ่อย” แต่อาจเป็นภัยเงียบที่พรากแมวไปแบบไม่รู้ตัว (อัปเดท 2025)

Apr 20, 2025
healthy สุขภาพ
5 ข้อควรรู้! โรคไตเรื้อรังในแมว ไม่ใช่แค่เรื่องของ “ฉี่บ่อย” แต่อาจเป็นภัยเงียบที่พรากแมวไปแบบไม่รู้ตัว (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

5 ข้อควรรู้! โรคไตเรื้อรังในแมว ไม่ใช่แค่เรื่องของ “ฉี่บ่อย” แต่อาจเป็นภัยเงียบที่พรากแมวไปแบบไม่รู้ตัว

แมวฉี่บ่อย ดื่มน้ำเยอะ น้ำหนักลด กินน้อยลง...
หลายคนอาจนึกถึง “แค่อากาศร้อน” หรือ “แมวแก่แล้วมันก็เป็นแบบนี้แหละ”
แต่รู้ไหมครับว่าอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของโรคไตเรื้อรังในแมว หรือที่รู้จักในชื่อ Chronic Kidney Disease (CKD)

โรคนี้คือหนึ่งใน “โรคเรื้อรังอันดับ 1” ที่คร่าชีวิตแมวสูงวัยจำนวนมาก และมักถูกวินิจฉัยช้าเพราะแอบเนียนมาแบบเงียบๆ

วันนี้เราจะมาไขทุกข้อสงสัยผ่าน 5 ข้อควรรู้เกี่ยวกับโรคไตแมว ที่อ่านแล้วคุณจะอยากพาแมวไปเจาะเลือดภายในสัปดาห์นี้เลยครับ!


1. แมวสูงวัยมากกว่า 30% มีแนวโน้มเป็นโรคไตเรื้อรัง (แต่เจ้าของไม่รู้)

“จากงานวิจัยพบว่า 1 ใน 3 ของแมวอายุเกิน 10 ปี มีภาวะไตเสื่อมระดับใดระดับหนึ่ง”
International Renal Interest Society (IRIS), 2021

ไตเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่กรองของเสียออกจากเลือด
เมื่อแมวแก่ขึ้น ไตจะเสื่อมตามอายุ และถ้าไม่ตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ เราจะไม่รู้เลยว่าไตเริ่มพัง!

สัญญาณที่ต้องระวัง:

  • ดื่มน้ำมากขึ้นผิดปกติ

  • ปัสสาวะบ่อย (แต่บางครั้งน้อยลงในระยะท้าย)

  • น้ำหนักลด

  • ขนหยาบ

  • เบื่ออาหาร อาเจียนบ่อย

  • กลิ่นปากคล้ายแอมโมเนีย


2. โรคไตไม่มีทางรักษาให้หายขาด แต่ “ชะลอได้” ถ้ารู้เร็ว

ใช่ครับ...โรคไตเรื้อรังในแมวไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด
แต่ถ้าเราตรวจพบเร็ว เราสามารถยืดอายุแมวออกไปได้หลายปีเลยทีเดียว

“แมวที่ตรวจเจอ CKD ระยะเริ่มต้น และได้รับการดูแลต่อเนื่อง มีอายุยืนขึ้นเฉลี่ย 2–3 ปี”
Feline Nephrology Journal, 2020

การแบ่งระยะของ CKD (ตาม IRIS):

  • ระยะที่ 1: ไม่มีอาการ ตรวจเลือดเจอค่า SDMA สูง

  • ระยะที่ 2: เริ่มดื่มน้ำเยอะ อึนิดๆ

  • ระยะที่ 3: น้ำหนักลด เบื่ออาหาร

  • ระยะที่ 4: ไตเสื่อมหนัก อาเจียน หายใจหอบ อ่อนแรง


3. การวินิจฉัยต้องใช้ทั้ง “ค่าเลือด + ปัสสาวะ” และอย่ารอให้อาการชัด

อย่ารอให้แมวซูบ หรือลุกไม่ขึ้นแล้วค่อยพาไปหาหมอ
เพราะโรคไตเป็น “ภัยเงียบ” ที่แสดงอาการช้าจนบางทีสายเกินไป

การตรวจที่จำเป็น:

  • ตรวจเลือดดูค่า Creatinine, BUN, SDMA

  • ตรวจปัสสาวะหา ค่าโปรตีน (UPC), ความเข้มข้นของปัสสาวะ (USG)

  • X-ray หรือ Ultrasound ไต (กรณีสงสัยก้อน/นิ่ว)

แนะนำ:

  • ตรวจสุขภาพปีละครั้งสำหรับแมวอายุ 7 ปีขึ้นไป

  • ทุก 6 เดือน สำหรับแมวที่เคยมีปัญหาสุขภาพมาก่อน


4. วิธีดูแลแมวโรคไต = “เน้นคุมอาหาร + เติมน้ำ + ลดภาระไต”

แมวที่เป็นโรคไตต้องการการดูแลเฉพาะ และต้องมีวินัยมากกว่าปกติ
เพราะการควบคุมอาหารและน้ำ คือปัจจัยสำคัญในการยืดอายุ

แนวทางการดูแลแมว CKD:

  • เปลี่ยนอาหารเป็นสูตร ไต (Renal Diet)

  • ให้ น้ำสะอาดตลอดเวลา หรือใช้น้ำพุแมว

  • เสริมอาหารเปียก / เติมน้ำในอาหาร

  • ควบคุมฟอสฟอรัส โปรตีน และโซเดียม

  • ปรึกษาหมอเรื่องอาหารเสริม เช่น น้ำมันปลา, วิตามินบี, ยาควบคุมความดัน

“อาหารสูตรไตสามารถช่วยลดอัตราเสื่อมของไต และเพิ่มอายุขัยแมวไตเรื้อรังได้ถึง 2 เท่า”
Veterinary Therapeutics Report, 2019


5. อย่าลืม “ความสุข” เพราะแมวที่มีกำลังใจดี มักอยู่ได้นานกว่า

นอกจากการรักษาด้วยยาและอาหารแล้ว “กำลังใจ” ก็สำคัญไม่แพ้กันครับ
แมวที่ได้รับการเอาใจใส่ เล่นด้วย อบอุ่นใจ — จะยิ่งต่อสู้กับโรคไตได้ดีขึ้น

เคล็ดลับเล็กๆ สำหรับชีวิตที่ดีขึ้นของแมวไตเรื้อรัง:

  • ทำที่นอนให้นุ่ม อุ่น และเงียบ

  • เล่นเบาๆ กระตุ้นให้เคลื่อนไหว

  • ให้ของกินที่แมวชอบ (ที่ไม่ขัดกับโรค)

  • เช็ดหน้า ขน และปากให้สะอาดเป็นประจำ

  • หยอดน้ำ หรือฉีดน้ำใต้ผิวหนัง (ตามคำแนะนำสัตวแพทย์)


โรคไตเรื้อรังในแมวไม่ใช่จุดจบของชีวิต
แต่คือ “จุดเริ่มต้นของการดูแลอย่างจริงใจและเข้าใจ” ที่เจ้าของต้องตั้งใจให้มากขึ้น

เพราะแมวแก่ = แมวที่รักเราได้นานขึ้น และเราต้องตอบแทนความรักนั้นด้วยการดูแลเขาให้ดีที่สุด


❝แมวไตเสื่อมไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่คือโอกาสให้เราดูแลเขาให้ดีที่สุดในทุกวัน❞


#โรคไตแมว #แมวสูงวัยต้องตรวจไต #แมวฉี่บ่อย #ดูแลแมวไตเรื้อรัง #อาหารแมวโรคไต #Lazadogรู้ใจแมว


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts