5 ข้อควรรู้! โรคคุชชิงในหมา ไม่ใช่ชื่อขนม แต่อาจทำให้ชีวิตน้องพังได้

คุณอาจเคยได้ยินชื่อ “โรคคุชชิง” (Cushing’s Disease) แล้วสงสัยว่านี่มันชื่อขนมหรือเปล่า?
ขอบอกว่าไม่ใช่ครับ! นี่คือโรคต่อมหมวกไตทำงานเกินในสุนัข ซึ่งอาจทำให้น้องหมาอ้วน ผิวบาง ขนร่วง กระหายน้ำสุดๆ และบางครั้งก็เงียบจนเจ้าของไม่รู้ตัว

แม้จะฟังดูไม่อันตราย แต่ถ้าปล่อยไว้นาน โรคนี้อาจทำให้ระบบต่างๆ ของร่างกายพังได้แบบเงียบๆ

บทความนี้จะพาไปรู้จักโรคคุชชิงแบบเข้าใจง่าย พร้อมตัวเลขจริง ข้อมูลลึก และเทคนิคตรวจดูอาการให้น้องหมาปลอดภัย!

1. โรคคุชชิงคืออะไร? ต่อมหมวกไตทำงานหนักเกิน!

โรค Cushing’s disease หรือชื่อทางการคือ Hyperadrenocorticism คือภาวะที่ต่อมหมวกไตของหมาผลิตฮอร์โมนคอร์ติโซลมากเกินไป ซึ่งเจ้าคอร์ติโซลตัวนี้เป็น “ฮอร์โมนความเครียด” ที่จำเป็นต่อร่างกายก็จริง
แต่ถ้ามีมากเกินไปเป็นเวลานาน…ก็เหมือนเรากินเกลือทั้งช้อนครับ มันพังได้หมด

สาเหตุหลักของโรคคุชชิงในสุนัขมี 3 แบบหลักๆ คือ:

• เนื้องอกที่ต่อมใต้สมอง (Pituitary-dependent) — 80-90%

• เนื้องอกที่ต่อมหมวกไต (Adrenal-dependent) — 10-15%

• เกิดจากการใช้ยาสเตียรอยด์ระยะยาว (Iatrogenic)

“โรคนี้พบได้ประมาณ 1-2% ของสุนัขอายุเกิน 7 ปี และมีแนวโน้มมากขึ้นในพันธุ์พุดเดิ้ล ดัชชุนด์ และบีเกิ้ล”
– Journal of Small Animal Practice, 2020

2. อาการโรคคุชชิง…ไม่รุนแรง แต่เรื้อรัง และหลายคนมองข้าม!

เพราะมันไม่ใช่โรคแบบ “ฉับพลัน” แต่ค่อยๆ คืบคลานแบบเงียบๆ ทำให้เจ้าของหลายคนเข้าใจผิดคิดว่า "น้องแก่แล้วเลยขี้เกียจ" หรือ "กินน้ำเยอะก็เพราะร้อน"

สัญญาณเตือนที่ควรสังเกต:

• ดื่มน้ำเยอะผิดปกติ

• ปัสสาวะบ่อย

• หิวตลอดเวลา

• ขนร่วงเฉพาะจุด หรือขนบาง

• ผิวหนังบาง มีจ้ำเลือดง่าย

• ท้องป่อง หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง

“มากกว่า 85% ของหมาที่เป็นคุชชิงจะแสดงอาการดื่มน้ำมากผิดปกติภายใน 3 เดือนแรก”
– Canine Endocrine Disorders Research, 2022

3. วินิจฉัยโรคนี้ไม่ง่าย ต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน

ถ้าแค่ตรวจเลือดทั่วไปอาจไม่เจอครับ เพราะค่าน้องหมาอาจยังอยู่ในช่วงที่ "ดูดี" ทั้งที่ข้างในฮอร์โมนกำลังคึกสุดๆ

การวินิจฉัยมักใช้ร่วมกันหลายวิธี เช่น:

• ตรวจเลือดเจาะลึก (เช่น Low Dose Dexamethasone Suppression Test – LDDST)

• ตรวจระดับคอร์ติโซลในปัสสาวะ

• อัลตราซาวด์ช่องท้องหาต่อมหมวกไต

• ตรวจ ACTH stimulation test

คำแนะนำ:

• ถ้าแมว/หมาอายุ >7 ปี และเริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง ควรแจ้งสัตวแพทย์ทันที

• หมั่นจดพฤติกรรม เช่น กินน้ำเยอะ-ปัสสาวะถี่ ไว้เป็นหลักฐานช่วยวินิจฉัย

4. รักษาได้! แต่ต้องตามต่อเนื่องและปรับตามตัวน้อง

ข่าวดีคือโรคนี้ สามารถควบคุมได้ด้วยยา เช่น Trilostane ซึ่งเป็นยาหลักที่ใช้ควบคุมฮอร์โมนคอร์ติโซล
สัตวแพทย์จะเป็นผู้กำหนดขนาดยาและตรวจเลือดอย่างต่อเนื่องเพื่อติดตามผล

แนวทางการรักษาโดยทั่วไป:

• ให้ยาแบบควบคุมฮอร์โมน

• ตรวจเลือดทุก 1-2 เดือนในช่วงแรก

• ปรับอาหารให้เหมาะ (ลดโซเดียม ไขมันต่ำ)

• หากเกิดจากเนื้องอก อาจพิจารณาผ่าตัด

“หมาที่ได้รับการรักษาด้วย Trilostane อย่างต่อเนื่องมีอายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2-4 ปี และมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างชัดเจน”
– Veterinary Internal Medicine Journal, 2021

5. ตรวจพบเร็ว = น้องปลอดภัยกว่าเยอะ

อย่ารอให้น้องมีอาการชัดเจนแล้วค่อยรักษา เพราะบางครั้งโรคคุชชิงจะพาโรคอื่นมาด้วย เช่น เบาหวาน ความดัน หรือโรคหัวใจ

ข้อแนะนำสำหรับเจ้าของ:

• ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะสุนัขอายุ >7 ปี

• อย่าเมินเวลาน้องดื่มน้ำเยอะ/ขนร่วงเฉพาะจุด

• หากสงสัย ควรพูดคุยกับสัตวแพทย์เรื่องการทำ LDDST

• ถ้าใช้ยาสเตียรอยด์ ควรใช้ตามคำแนะนำเท่านั้น

  
  

โรคคุชชิงอาจไม่ใช่โรคที่เจ้าของสุนัขทุกคนรู้จัก
แต่เมื่อรู้แล้ว เราสามารถช่วยน้องให้อยู่กับเราได้นานขึ้น สุขภาพดีขึ้น และหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดได้

ยิ่งรู้เร็ว ยิ่งป้องกันได้ไว = น้องอยู่กับเราได้แบบแข็งแรงและยาวๆ

❝คุชชิงไม่ใช่ชื่อขนม แต่มันขโมยสุขภาพน้องหมาแบบเงียบๆ❞

#โรคคุชชิงหมา #ต่อมหมวกไตสุนัข #ขนร่วงเฉพาะจุด #น้องหมาดื่มน้ำเยอะ #สุขภาพหมาสูงวัย #Lazadogรู้ใจหมา

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com