5 ข้อควรรู้! ไวรัสพาร์โวแมว (Feline Panleukopenia) ไม่ได้ติดบ่อย แต่ถ้าติดแล้ว…อันตรายถึงชีวิต
คุณเคยได้ยินคำว่า “ไวรัสพาร์โว” แล้วนึกถึงสุนัขใช่ไหมครับ?
แต่จริงๆ แล้ว แมวก็มีไวรัสพาร์โวของตัวเองเหมือนกัน!
และไม่ใช่พาร์โวธรรมดา แต่เป็นตัวที่ร้ายแรงระดับ "ฆ่าแมวในไม่กี่วัน" ถ้าไม่รู้ทัน
ไวรัสตัวนี้มีชื่อยาวว่า Feline Panleukopenia Virus (FPV) หรือที่เรียกกันในวงการว่า “ไข้หัดแมว”
เป็นโรคติดเชื้อที่รุนแรงมากในลูกแมว และแมวที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
วันนี้ผมจะพาไปรู้จัก 5 ข้อควรรู้เกี่ยวกับไวรัสพาร์โวแมวให้ลึกสุดใจ
เข้าใจอาการ การป้องกัน และสิ่งที่เจ้าของควรระวัง เพื่อให้แมวที่คุณรัก…ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของไวรัสตัวร้ายนี้
Feline Panleukopenia Virus (FPV) เป็นไวรัสชนิด Parvovirus ที่พบในแมวเท่านั้น
ไวรัสตัวนี้จะเข้าทำลาย ไขกระดูก และ ลำไส้ ของแมวอย่างรวดเร็ว
อาการหลักของ FPV:
ไข้สูง ซึม ไม่กิน
อาเจียน/ท้องเสียอย่างรุนแรง
ภูมิคุ้มกันตกเฉียบพลัน (panleukopenia = เม็ดเลือดขาวต่ำ)
ติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนง่าย
เสียชีวิตในเวลาอันสั้น (ภายใน 48–72 ชม. หากรุนแรงและไม่ได้รับการดูแลทัน)
“อัตราการเสียชีวิตของลูกแมวที่ติด FPV โดยไม่ได้รับการรักษาสูงถึง 90%”
– Feline Infectious Disease Journal, 2022
FPV ติดต่อกันผ่าน “การสัมผัสกับเชื้อไวรัสโดยตรงหรือโดยอ้อม”
ซึ่งน่ากลัวตรงที่ ไวรัสนี้สามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานถึง 1 ปี!
แหล่งแพร่เชื้อ FPV ที่พบบ่อย:
อึแมวที่ติดเชื้อ
ชามน้ำ อาหาร กรง กระบะทราย
มือ / รองเท้า / เสื้อผ้าคนที่สัมผัสแมวติดเชื้อ
พื้นที่รับแมวจรมาใหม่โดยไม่แยกกักตัว
“ไวรัส FPV ทนต่อสารทำความสะอาดทั่วไป ต้องใช้สารกลุ่ม bleach 1:32 หรือสารฆ่าเชื้อเฉพาะทางเท่านั้นจึงจะฆ่าเชื้อได้”
– Veterinary Virology Bulletin, 2020
แม้แมวโตจะมีภูมิที่แข็งแรงกว่า แต่ถ้าไม่เคยฉีดวัคซีน FPV ก็มีความเสี่ยงเหมือนกัน
แมวที่เสี่ยงติดเชื้อ FPV มากที่สุด:
ลูกแมวอายุ 3 สัปดาห์ – 6 เดือน
แมวที่ไม่เคยได้รับวัคซีน
แมวที่เคยป่วยหนักหรือมีภูมิคุ้มกันต่ำ
แมวจร / แมวในศูนย์พักพิง หรือโรงแรมสัตว์
ข้อควรรู้:
ลูกแมวควรเริ่มฉีดวัคซีน FPV ตั้งแต่อายุ 8 สัปดาห์ และกระตุ้นซ้ำตามแผน
แมวโตควรฉีดกระตุ้นปีละครั้ง หรือทุก 3 ปี ขึ้นกับวัคซีนที่ใช้
FPV ไม่มีทางรักษาเฉพาะเจาะจงครับ การรักษาจะเป็นแบบ supportive care คือดูแลประคับประคองให้ร่างกายแมวสู้กับไวรัสเอง
แนวทางการรักษา FPV:
ให้น้ำเกลือเพื่อป้องกันการขาดน้ำ
ยาฆ่าเชื้อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน
ยาลดอาเจียน ลดไข้
แยกแมวออกจากตัวอื่นเพื่อควบคุมการแพร่เชื้อ
ดูแลสุขอนามัยอย่างเข้มงวด
“แมวที่ได้รับการรักษาเร็วภายใน 24 ชม. หลังแสดงอาการ มีโอกาสรอดเพิ่มขึ้น 40–60%”
– Critical Feline Care Data, 2023
ข่าวดีคือ พาร์โวแมวเป็นโรคที่ป้องกันได้ 100% ด้วยวัคซีน
แนวทางการป้องกันที่ได้ผล:
ฉีดวัคซีน FPV ตามกำหนด (เริ่มที่อายุ 8 สัปดาห์ และบูสต์ตามแผน)
กักแยกแมวใหม่อย่างน้อย 14 วันก่อนให้เจอกับแมวเดิม
ล้างมือ–เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจับแมวหลังจากออกนอกบ้านหรือพบแมวจร
ทำความสะอาดบ้านด้วยสารฆ่าเชื้อที่ฆ่า Parvovirus ได้
หมั่นตรวจสุขภาพแมวเป็นประจำทุกปี
คำแนะนำเพิ่มเติม:
ถ้ามีแมวติดเชื้อในบ้าน ต้องทำความสะอาดอุปกรณ์และห้องพักอย่างละเอียดก่อนรับแมวใหม่
ห้ามใช้ชามหรือกระบะทรายร่วมกันโดยเด็ดขาด
ไวรัสพาร์โวแมวอันตรายมากจริง แต่ข่าวดีคือ “ป้องกันได้ง่าย” และ “ราคาไม่แพง”
ขอแค่เจ้าของรู้ทัน ฉีดวัคซีนตามกำหนด และรักษาความสะอาดอย่างเข้มงวด ก็สามารถช่วยชีวิตแมวได้อย่างแท้จริง
❝ไข้หัดแมวติดง่าย ตายเร็ว…แต่ป้องกันได้ง่ายแค่ฉีดวัคซีน❞
#พาร์โวแมว #FPV #ไข้หัดแมว #วัคซีนแมว #ป้องกันไวรัสแมว #Lazadogรู้ใจแมว
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com