5 ข้อควรรู้! ความดันโลหิตสูงในแมว ไม่ได้มีแค่ในคน และอันตรายกว่าที่คุณคิด (อัปเดท 2025)

Apr 20, 2025
healthy สุขภาพ
5 ข้อควรรู้! ความดันโลหิตสูงในแมว ไม่ได้มีแค่ในคน และอันตรายกว่าที่คุณคิด (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

5 ข้อควรรู้! ความดันโลหิตสูงในแมว ไม่ได้มีแค่ในคน และอันตรายกว่าที่คุณคิด

เวลาเราพูดถึง “ความดันโลหิตสูง” คนส่วนใหญ่จะนึกถึงป๊า ม้า ป้า ลุง
แต่รู้ไหมครับว่า แมวก็สามารถเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้เช่นกัน โดยเฉพาะแมวที่อายุมากกว่า 7 ปีขึ้นไป!

แถมปัญหาคือ…มันมักไม่แสดงอาการจนกว่าแมวจะเริ่มมีอาการรุนแรง เช่น ตาบอด หัวใจล้ม หรือไตพัง

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก “ภาวะความดันสูงในแมว” แบบเข้าใจง่าย พร้อมเคล็ดลับในการตรวจ วินิจฉัย และดูแลแมวให้อยู่กับเราไปนานๆ แบบไม่เสี่ยงโรคนี้


1. แมวก็เป็นโรคความดันโลหิตสูงได้ โดยเฉพาะแมวสูงวัย

ภาวะ Hypertension ในแมวหมายถึง ความดันโลหิตสูงกว่าระดับปกติ (มักวัดเป็น mmHg เหมือนคน)
โดยความดันที่ถือว่าสูงในแมว คือ ≥160 mmHg ขึ้นไป และถ้าเกิน 180 mmHg ถือว่า "อันตรายระดับสูง"

“พบว่าแมวอายุ 7 ปีขึ้นไป มีโอกาสเป็นความดันสูงถึง 20% โดยไม่แสดงอาการใดๆ”
Feline Geriatric Health Study, 2021

สาเหตุหลักของความดันสูงในแมว ได้แก่:

  • โรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease - CKD)

  • ไทรอยด์เป็นพิษ (Hyperthyroidism)

  • โรคหัวใจบางชนิด

  • ความดันสูงโดยไม่ทราบสาเหตุ (Idiopathic Hypertension)


2. โรคนี้อันตราย เพราะแมวมักไม่แสดงอาการ…จนสายไป!

แมวที่มีความดันสูงมักไม่ร้อง ไม่หอบ ไม่จับหัวให้เราวัดเหมือนมนุษย์
แต่เมื่อโรครุนแรงขึ้นจะเริ่มมีอาการร้ายแรง เช่น

  • ตาบอดเฉียบพลัน (เพราะเส้นเลือดในจอตาแตก)

  • หัวใจโต หรือหัวใจล้มเหลว

  • ไตวาย

  • เดินวน ซึม หงุดหงิดแบบผิดปกติ

“มากกว่า 50% ของแมวที่ความดันเกิน 180 mmHg มีความเสี่ยงตาบอดภายใน 3 เดือนหากไม่รักษา”
Veterinary Ophthalmology Journal, 2020


3. ตรวจความดันแมวได้ง่าย ไม่เจ็บตัว ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที

การวัดความดันในแมวใช้เครื่องวัดคล้ายเครื่องของคน แต่เป็นแบบอัตโนมัติขนาดเล็ก (ใช้ที่ขา หรือหาง)
แมวบางตัวต้องใช้เวลาปรับตัวก่อนวัด เพราะถ้าเครียดเกิน จะทำให้ค่าคลาดเคลื่อนได้

เคล็ดลับการวัดความดันให้แมว:

  • ให้น้องนั่งนิ่งในห้องเงียบๆ อย่างน้อย 10 นาที

  • เลือกวัดที่ขาหน้าหรือหางขึ้นกับลักษณะแมว

  • ควรตรวจซ้ำ 3–5 ครั้งแล้วใช้ค่าเฉลี่ย

“การตรวจความดันโลหิตเป็นประจำทุก 6 เดือนในแมวสูงวัย สามารถลดอัตราตาบอดเฉียบพลันได้ถึง 60%”
Cat-Friendly Practice Protocol, 2023


4. ถ้าความดันสูง…มีวิธีควบคุมได้ ไม่ต้องตกใจ

ข่าวดีคือ ภาวะนี้ สามารถควบคุมได้ด้วยยา โดยเฉพาะยากลุ่ม Amlodipine (ชื่อคุ้นๆ ใช่ไหมครับ เพราะคนก็ใช้)
โดยสัตวแพทย์จะให้ยาและติดตามผลทุก 2–4 สัปดาห์จนกว่าค่าความดันจะนิ่ง

แนวทางควบคุม:

  • ให้ยา Amlodipine ตามคำแนะนำ (ห้ามหยุดเอง)

  • ควบคุมอาหาร โดยเฉพาะถ้ามีโรคไตร่วม

  • ลดปัจจัยกระตุ้น เช่น ความเครียด เสียงดัง อาหารเค็ม

ข้อควรรู้:

  • แมวบางตัวอาจต้องกินยาตลอดชีวิต

  • หากควบคุมดี แมวสามารถมีคุณภาพชีวิตใกล้เคียงปกติ


5. ตรวจเจอเร็ว = ป้องกันโรคร้ายแรงที่อาจตามมา

ภาวะความดันสูงเป็น “โรคซ่อนเงียบ” ในแมว
แต่ถ้าคุณตรวจสุขภาพประจำปีและเพิ่ม “การวัดความดัน” เข้าไป แมวจะปลอดภัยมากขึ้น และเราสามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้

“แมวที่ตรวจสุขภาพ+ความดันปีละ 2 ครั้ง มีอายุขัยเฉลี่ยนานกว่ากลุ่มทั่วไปถึง 2 ปี”
Feline Longevity Data, 2021

คำแนะนำสำหรับทาสมือโปร:

  • ถ้าแมวอายุ >7 ปี ควรตรวจความดันทุก 6 เดือน

  • ถ้าแมวเป็นโรคไต/ไทรอยด์ ควรตรวจบ่อยกว่านั้น

  • พูดคุยกับหมอเพื่อปรับแนวทางสุขภาพแมวเฉพาะตัว


ภาวะความดันโลหิตสูงในแมวไม่ใช่เรื่องไกลตัว และไม่ใช่เรื่องที่ต้องกลัว
แต่เป็นสิ่งที่ต้องรู้ และ รับมือให้ไว ก่อนที่แมวของคุณจะ “เงียบ” จนสายเกินไป

ตรวจเร็ว รักษาไว ดูแลแบบเข้าใจ = แมวสุขภาพดีแบบยาวๆ


❝แมวตาบอดไม่ใช่เพราะแก่…แต่เพราะความดันขึ้นก็เป็นได้❞

#ความดันแมว #แมวสูงวัยต้องวัดความดัน #แมวตาบอดเฉียบพลัน #ตรวจสุขภาพแมว #Lazadogรู้ใจแมว


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts