5 เรื่องที่คุณควรรู้ ถ้าอยากพาน้องหมาไปแคมป์ปิ้งแบบ Pet-Friendly (อัปเดท 2025)

Apr 07, 2025
การรับเลี้ยงและการดูแล
5 เรื่องที่คุณควรรู้ ถ้าอยากพาน้องหมาไปแคมป์ปิ้งแบบ Pet-Friendly (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

5 เรื่องที่คุณควรรู้ ถ้าอยากพาน้องหมาไปแคมป์ปิ้งแบบ Pet-Friendly

ในวันที่ชีวิตวุ่นวาย บางครั้งสิ่งที่เราต้องการที่สุดอาจไม่ใช่ห้างสรรพสินค้า แต่เป็นธรรมชาติ…
แล้วจะดียิ่งกว่าถ้าเราได้พาน้องหมาเพื่อนรักไปร่วมทริปผจญภัยด้วยกัน

การแคมป์ปิ้งแบบ Pet-Friendly กำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรงในหมู่คนรักหมา
เพราะไม่ใช่แค่คนที่ได้พักผ่อน แต่น้องหมาเองก็ได้เปิดโลก ได้วิ่ง ได้ดม และได้ใช้เวลาใกล้ชิดเจ้าของแบบเต็มที่

วันนี้ผมจะมาแชร์ 5 เรื่องที่คุณควรรู้ ถ้าอยากพาน้องหมาไปแคมป์ปิ้งอย่างสนุกและปลอดภัย พร้อมข้อควรระวังและไอเดียการเตรียมตัวแบบไม่พลาดครับ


1. แคมป์ปิ้ง Pet-Friendly มีหลายประเภท เลือกให้เหมาะกับสไตล์หมาของคุณ

ใช่ว่าทุกแคมป์จะเหมาะกับหมาทุกตัว บางแห่งเหมาะกับหมาพันธุ์เล็ก บางแห่งเหมาะกับหมาสายลุย
เลือกแคมป์ให้ตรงกับนิสัยและพลังงานของน้องหมาจะทำให้ทริปทั้งสนุกและไม่เครียด

ประเภทที่พบได้บ่อยในไทย:

  • แคมป์ธรรมชาติ (ลานกลางเต็นท์): เปิดโล่ง วิ่งได้อิสระ แต่ต้องคุมหมาดี

  • แคมป์ริมแม่น้ำ/ทะเลสาบ: น้องหมาชอบน้ำจะฟินสุด แต่ต้องดูเรื่องความปลอดภัย

  • แคมป์มีบ้านพัก/โดม: เหมาะกับเจ้าของที่อยากได้ความสะดวกสบาย พร้อมหมานอนในห้องได้

  • แคมป์แนว Glamping: สวยงาม มีสิ่งอำนวยความสะดวก และ Pet-Friendly หลายแห่ง

Tip: ตรวจสอบล่วงหน้าว่าสถานที่นั้นอนุญาตให้นำน้องหมาเข้าพักหรือไม่ และมีข้อกำหนดอะไรบ้าง


2. พาน้องหมาออกไปแคมป์ = เปิดโลกใหม่ให้ทั้งเขาและคุณ

การได้พาน้องหมาไปอยู่ในธรรมชาติ ไม่ว่าจะได้เดินป่า วิ่งเล่น หรือแค่นอนเงียบๆ หน้าลำธาร
จะช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสของเขา ลดความเครียด และช่วยสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

จากผลวิจัยของ Cornell University:
เจ้าของหมาที่ใช้เวลาอยู่กับสัตว์เลี้ยงนอกบ้านอย่างน้อย 1 ครั้ง/เดือน
มีระดับความเครียดน้อยกว่ากลุ่มที่อยู่แต่ในบ้านถึง 28%


3. เตรียมของให้น้องหมาพร้อมก่อนออกเดินทาง

น้องหมาต้องการการเตรียมพร้อมไม่ต่างจากเจ้าของครับ
ยิ่งไปค้างแรม ยิ่งต้องเตรียมของให้ครบ ทั้งของใช้ส่วนตัว อาหาร และสิ่งที่จะช่วยให้เขาสงบในพื้นที่แปลกใหม่

เช็กลิสต์ที่ควรมี:

  • สายจูง + ปลอกคอ/สายรัดที่แข็งแรง

  • ถ้วยน้ำ-อาหารแบบพกพา

  • ที่นอนหรือผ้าห่มประจำตัว

  • อาหารเม็ดหรือเปียกพอสำหรับทุกมื้อ

  • ถุงเก็บอึ/กระดาษทิชชู่เปียก

  • ป้ายชื่อ + เบอร์โทรเผื่อหลุด

  • ยากันยุง/ยากันเห็บเฉพาะสัตว์เลี้ยง

Tip: ควรฝึกให้น้องหมานอนเต็นท์ในบ้านล่วงหน้า 1–2 ครั้งก่อนออกเดินทางจริง


4. วางแผนกิจกรรมให้หมาได้ระบายพลังอย่างเหมาะสม

น้องหมาแต่ละตัวมีระดับพลังงานต่างกัน การเลือกกิจกรรมให้เหมาะกับเขาจะช่วยให้หมาไม่เครียดและไม่เบื่อ

กิจกรรมยอดฮิต:

  • เดินเล่นบนทางธรรมชาติ (Trail Walk)

  • เล่นบอลในลานสนาม

  • พาเล่นน้ำหากมีจุดปลอดภัย

  • กิจกรรมฝึกคำสั่งง่ายๆ เช่น “คอย” “มานี่” ท่ามกลางสิ่งเร้าใหม่ๆ

Fact: หมาที่ได้ออกกำลังกายระหว่างแคมป์ปิ้ง มีแนวโน้มหลับสนิทตอนกลางคืนมากขึ้นถึง 40%


5. คำนึงถึงความปลอดภัยทั้งของหมาและสิ่งแวดล้อม

แม้จะเป็นพื้นที่ธรรมชาติ แต่เจ้าของต้องรับผิดชอบทั้งหมาและสิ่งแวดล้อมรอบตัวด้วย
อย่าปล่อยหมาไว้ลำพังในเต็นท์ อย่าปล่อยให้ไล่สัตว์ป่า และอย่าลืมเก็บอึทุกครั้ง

ข้อควรระวัง:

  • ดูแลเรื่องอุณหภูมิกลางคืน (บางที่อาจหนาวมาก)

  • ระวังแมลง กิ่งไม้แหลม และเห็บ

  • ห้ามให้น้องหมากินพืชหรือดินโดยไม่รู้จัก

  • ควบคุมไม่ให้รบกวนแคมป์อื่น

Tip: พกไฟฉายหรือปลอกคอสะท้อนแสงให้หมาในตอนกลางคืน เพื่อความปลอดภัยและมองเห็นง่าย


แคมป์ปิ้งกับน้องหมาไม่ใช่แค่การพักผ่อน แต่คือช่วงเวลาที่สร้างความทรงจำร่วมกัน
แค่คุณเตรียมตัวดี เลือกสถานที่เหมาะ และให้ความรักเต็มที่
รับรองว่าน้องหมาจะมีความสุข และคุณก็จะรู้สึกว่า “นี่แหละคือทริปที่ดีที่สุดในรอบปี”


#พาหมาไปแคมป์ #แคมป์หมาได้ #หมาสายลุย #เที่ยวธรรมชาติกับหมา #LazadogCareTips


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมาให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts