5 เรื่องที่คุณควรรู้ ถ้าน้องหมาเจ็บขาเพราะเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาด (Cruciate Ligament Injury) (อัปเดท 2025)

Apr 08, 2025
การรับเลี้ยงและการดูแล
5 เรื่องที่คุณควรรู้ ถ้าน้องหมาเจ็บขาเพราะเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาด (Cruciate Ligament Injury) (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

5 เรื่องที่คุณควรรู้ ถ้าน้องหมาเจ็บขาเพราะเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาด (Cruciate Ligament Injury)

ถ้าอยู่ดีๆ น้องหมาที่เคยวิ่งซน กลับเริ่มเดินกะเผลก ลากขา หรือไม่ยอมลงน้ำหนักที่ขาหลัง
อาการแบบนี้ไม่ควรปล่อยไว้ เพราะอาจเป็นสัญญาณของ “เอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาด” หรือที่เรียกกันในหมอสัตวแพทย์ว่า Cranial Cruciate Ligament Injury (CCL Injury)

โรคนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเดินผิดปกติในสุนัข และถ้าไม่รีบรักษาอาจลุกลามเป็นข้อเสื่อมเรื้อรังได้

วันนี้ผมอยากชวนเจ้าของหมาทุกคนมารู้จัก 5 เรื่องสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับโรคนี้ พร้อมแนวทางดูแลฟื้นฟูให้น้องหมากลับมาเดินสบายอีกครั้งครับ


1. โรคนี้ “พบบ่อยมาก” โดยเฉพาะในสุนัขพันธุ์ใหญ่และน้ำหนักเกิน

เอ็นไขว้หน้าคือเส้นเอ็นสำคัญที่ช่วยยึดข้อเข่าหลังให้มั่นคง
เมื่อเอ็นนี้ขาดหรือฉีก จะทำให้ขาเสียสมดุลทันที

พันธุ์ที่พบมาก:

  • ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์

  • โกลเด้น รีทรีฟเวอร์

  • พิทบูล

  • บ็อกเซอร์

  • ร็อตไวเลอร์

Fact: จากรายงานของ American College of Veterinary Surgeons (ACVS)
พบว่า มากกว่า 85% ของสุนัขที่เอ็นไขว้ขาดจะมีอาการเรื้อรังที่ข้อเข่าภายใน 1 ปี หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม


2. อาการที่เห็นอาจ “ไม่ชัดเจนทันที” แต่เจ้าของต้องสังเกตให้ไว

สุนัขไม่สามารถพูดว่าเจ็บตรงไหนได้
แต่จะส่งสัญญาณผ่านการเดิน วิ่ง หรือนิสัยที่เปลี่ยนไป

อาการที่ควรระวัง:

  • เดินกะเผลก ขาลากหรือไม่ยอมลงน้ำหนัก

  • ลุกยืนหรือขึ้นลงบันไดยาก

  • นั่งเอียงขาออกด้านข้าง

  • หงุดหงิด ไม่อยากเล่นหรือเดิน

  • ขาหลังฝั่งที่เจ็บเริ่มกล้ามเนื้อฝ่อลง

Tip: บางตัวอาจดีขึ้นเองใน 1–2 วันแรก แต่จะกลับมาเจ็บอีก เพราะเอ็นขาดจริงยังไม่ได้ซ่อม


3. การวินิจฉัยต้องใช้ “การตรวจเฉพาะทาง” และบางครั้งอาจต้อง X-ray หรือ CT

การรู้ว่าเอ็นขาดหรือไม่ ต้องใช้การตรวจโดยสัตวแพทย์ เช่น
การตรวจ “drawer sign” ซึ่งเป็นเทคนิคหมอใช้จับขาเพื่อตรวจความมั่นคงของข้อเข่า

อุปกรณ์ที่อาจใช้ร่วมในการวินิจฉัย:

  • X-ray (เพื่อดูแนวข้อและตรวจข้อเสื่อม)

  • อัลตราซาวด์ (ตรวจน้ำในข้อ)

  • CT scan (ในรายที่ซับซ้อนหรือมีหลายโรคร่วม)

Fact: จากสถิติของ Veterinary Orthopedic Society
การตรวจและวินิจฉัยอย่างถูกต้องตั้งแต่แรกสามารถลดความจำเป็นในการผ่าตัดซ้ำได้ถึง 40%


4. แนวทางการรักษามีทั้ง “ไม่ผ่าตัด” และ “ผ่าตัด” ขึ้นอยู่กับอาการและสภาพร่างกาย

แนวทางไม่ผ่าตัด (สำหรับกรณีเบาหรือเจ้าของมีข้อจำกัด):

  • ควบคุมน้ำหนัก

  • พักการวิ่ง-กระโดด

  • กายภาพบำบัด (เลเซอร์, ว่ายน้ำ, อัลตราซาวด์)

  • ใช้อาหารเสริมบำรุงข้อ เช่น กลูโคซามีน, Omega-3

แนวทางผ่าตัด (แนะนำสำหรับรายที่เดินไม่ได้หรือข้อหลวมมาก):

  • TPLO (ผ่าตัดปรับแนวกระดูก)

  • TTA (ผ่าตัดเสริมแนวรับแรง)

  • Extracapsular Repair (ใช้เอ็นเทียมเสริมภายนอก)

Tip: หมาใหญ่หรือหมาที่เคยเจ็บซ้ำควรพิจารณา “TPLO” ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและผลลัพธ์ดีในระยะยาว


5. การฟื้นฟูหลังรักษาเป็น "หัวใจสำคัญ" ที่ช่วยให้น้องหมากลับมาแข็งแรงได้จริง

หลังการรักษา ไม่ว่าจะผ่าตัดหรือไม่ สิ่งที่ต้องทำต่อเนื่องคือ การฟื้นฟู
เพราะถ้าไม่ดูแลให้ดี โอกาสที่หมาจะเจ็บขาอีกฝั่งจะสูงมาก

แนวทางการฟื้นฟู:

  • พักขาอย่างน้อย 2–4 สัปดาห์

  • เพิ่มการเดินบนพื้นเรียบอย่างค่อยเป็นค่อยไป

  • กายภาพบำบัดหรือว่ายน้ำในระยะกลาง

  • ตรวจติดตามข้อเข่าตามนัด

  • ควบคุมน้ำหนักต่อเนื่อง

Fact: งานวิจัยจาก Journal of Veterinary Science
ระบุว่า หมา 50% ที่มีเอ็นขาดข้างหนึ่ง หากไม่ฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องจะมีโอกาสขาดซ้ำที่อีกข้างภายใน 1 ปี


การบาดเจ็บของเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าในหมาเป็นปัญหาที่เจอบ่อย โดยเฉพาะในหมาพันธุ์ใหญ่หรือหมาน้ำหนักเกิน
การสังเกตอาการตั้งแต่เนิ่นๆ และดูแลฟื้นฟูอย่างเหมาะสม จะช่วยให้น้องหมากลับมาเดินได้ปกติ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้อีกครั้ง


#หมาเจ็บขา #เอ็นไขว้หน้าหมา #รักษาหมาเดินกะเผลก #ดูแลหมาหลังผ่าตัด #LazadogCareTips


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมาให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts