5 ข้อควรรู้! ปัสสาวะแมวมีปัญหา? ระวังโรคระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง (FLUTD) ที่อาจทำให้น้องปวดฉี่จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
เคยเห็นแมวนั่งในกระบะทรายนานผิดปกติ แต่ก็ไม่เห็นฉี่ออกบ้างไหมครับ?
หรือเดินวนไปวนมา แล้วร้องเบาๆ เหมือนกำลังเจ็บอะไรสักอย่าง?
ถ้าใช่...คุณอาจกำลังเจอกับอาการของโรคที่ชื่อยาวเหยียดว่า
Feline Lower Urinary Tract Disease (FLUTD) หรือ “โรคระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่างในแมว”
โรคนี้ไม่ได้มาแบบเล่นๆ เพราะถ้าปล่อยไว้นาน แมวอาจ “ปัสสาวะไม่ออกเลย” และเกิดภาวะอันตรายถึงชีวิตได้ในไม่กี่วัน!
วันนี้เราจะมาเจาะลึก 5 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ FLUTD ให้คุณดูแลน้องแมวแบบมือโปร
เข้าใจทั้งอาการ สาเหตุ วิธีดูแล และสิ่งที่ต้องระวังเพื่อให้น้องกลับมาฉี่ได้แบบสบายใจทั้งสองฝ่าย
FLUTD ไม่ได้เป็นชื่อของโรคใดโรคหนึ่ง
แต่มันคือกลุ่มอาการที่เกี่ยวข้องกับ “กระเพาะปัสสาวะ” และ “ท่อปัสสาวะ” ของแมว
สาเหตุหลักๆ ของ FLUTD ได้แก่:
FIC (Feline Idiopathic Cystitis): โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบที่ไม่รู้สาเหตุ (~60%)
นิ่ว (Urolithiasis): นิ่วในกระเพาะหรือท่อปัสสาวะ (~20%)
อุดตันของท่อปัสสาวะ: โดยเฉพาะในแมวตัวผู้ (~15%)
ติดเชื้อแบคทีเรีย: มักพบในแมวสูงวัย (~5%)
“ประมาณ 1 ใน 10 ของแมวบ้านเคยมีปัญหา FLUTD อย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต”
– Feline Urinary Health Study, 2022
โรคนี้แมวไม่สามารถบอกได้ว่า “ฉี่ไม่ออกแล้วแม่!”
แต่พฤติกรรมจะฟ้องครับ
อาการที่ควรรีบพาแมวไปหาหมอทันที:
เข้ากระบะทรายบ่อย แต่ฉี่ได้นิดเดียว
ร้องเวลาเบ่งฉี่ หรือมีเลือดในปัสสาวะ
เลียอวัยวะเพศบ่อย
ฉี่ผิดที่ (ทั้งที่เคยฝึกแล้ว)
ซึม ไม่กินข้าว อาเจียน (ในรายที่ท่อปัสสาวะอุดตัน)
ข้อควรรู้:
แมวตัวผู้มีโอกาส “อุดตัน” ได้ง่ายกว่าแมวตัวเมีย
ถ้าแมวไม่ฉี่ภายใน 24 ชั่วโมง = ภาวะฉุกเฉิน!
นอกจากพันธุกรรมแล้ว ไลฟ์สไตล์ก็มีผลมาก
ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยง FLUTD:
แมวอ้วน (ดัชนีมวลกายสูง = ปัสสาวะน้อย)
กินอาหารเม็ดล้วนโดยไม่มีน้ำเสริม
เครียด (เปลี่ยนบ้าน, มีแมวตัวใหม่, เสียงดัง)
ดื่มน้ำน้อย
ใช้กระบะทรายไม่สะอาด หรือวางในจุดที่แมวไม่ชอบ
“แมวที่กินอาหารเม็ดล้วนและไม่ดื่มน้ำเพียงพอ มีความเสี่ยงต่อโรค FLUTD มากขึ้นถึง 3 เท่า”
– Journal of Feline Nutrition, 2021
แนวทางการรักษา FLUTD ขึ้นอยู่กับสาเหตุครับ:
ถ้าเป็นนิ่ว: อาจต้องใช้ยาละลายนิ่ว หรือผ่าตัด
ถ้าเป็น FIC: ลดเครียด + เปลี่ยนอาหาร + เพิ่มการดื่มน้ำ
ถ้าอุดตัน: ต้องสวนท่อด่วน / Admit โรงพยาบาลทันที
แนวทางดูแลระยะยาว:
เลือกอาหารสูตรเฉพาะสำหรับ FLUTD เช่น สูตร pH ต่ำ, มี magnesium ต่ำ
เปลี่ยนน้ำใหม่บ่อยๆ และวางชามน้ำหลายจุด
เพิ่มกิจกรรม ลดความอ้วน
ใช้กระบะทรายสะอาด แยกกระบะตามจำนวนแมว (สูตร: แมว N ตัว = กระบะ N+1 ใบ)
แนะนำ:
ถ้าเคยมี FLUTD แล้ว ต้องติดตามตรวจปัสสาวะทุก 3–6 เดือน
อย่าให้หยุดยาหรืออาหารเองโดยพลการ
ข่าวดีคือ FLUTD ป้องกันได้ครับ
แค่เราสร้าง “สภาพแวดล้อม + โภชนาการ + พฤติกรรม” ที่เหมาะสม
เคล็ดลับป้องกัน FLUTD:
ส่งเสริมให้แมวดื่มน้ำเยอะ (น้ำพุแมว, ซุปเจือจาง)
เสริมอาหารเปียกในมื้ออาหาร
อย่าให้แมวอ้วน! ควบคุมน้ำหนักเสมอ
หลีกเลี่ยงความเครียด เช่น การย้ายบ้าน หรือแมวใหม่มาแบบไม่มีการแนะนำ
ตรวจสุขภาพประจำปี และตรวจปัสสาวะอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
“การตรวจปัสสาวะแมวเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงโรคทางเดินปัสสาวะซ้ำซ้อนได้ถึง 70%”
– Vet Preventive Care Guidelines, 2023
แมวที่ปัสสาวะผิดปกติไม่ใช่เรื่องขำๆ
เพราะ FLUTD อาจพาไปถึงขั้น “ชีวิตเสี่ยง” ถ้าไม่รีบสังเกตและดูแลให้ทันเวลา
ขอให้เจ้าของทุกคนจับตาพฤติกรรมการฉี่ของแมวไว้เสมอ
เพื่อให้พวกเค้าฉี่ได้สบายใจ ไม่ต้องทรมาน และอยู่กับเราไปอีกยาวๆ
❝แมวฉี่ไม่ออก = ฉุกเฉิน! รู้ไว้ก่อนสายจะได้ไม่ต้องเสียน้ำตาเพราะเรื่อง(ฉี่)เล็กๆ❞
#แมวฉี่ผิดปกติ #โรคกระเพาะปัสสาวะแมว #FLUTDแมว #แมวปัสสาวะลำบาก #สุขภาพแมว #Lazadogรู้ใจแมว
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com