5 ข้อควรรู้! เสียงดังจนแมวชัก? ระวัง FARS กลุ่มอาการลึกลับที่คุณอาจไม่เคยได้ยิน (แต่แมวได้ยินแน่!) (อัปเดท 2025)

Apr 20, 2025
การรับเลี้ยงและการดูแล
5 ข้อควรรู้! เสียงดังจนแมวชัก? ระวัง FARS กลุ่มอาการลึกลับที่คุณอาจไม่เคยได้ยิน (แต่แมวได้ยินแน่!) (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

5 ข้อควรรู้! เสียงดังจนแมวชัก? ระวัง FARS กลุ่มอาการลึกลับที่คุณอาจไม่เคยได้ยิน (แต่แมวได้ยินแน่!)

คุณเคยเปิดเสียง "ช้อนกระทบจาน" แล้วแมวกระโดดตกใจสุดตัวมั้ย?
หรือเคยเปิดเสียงวิดีโอแล้วแมวสะดุ้ง จ้องเขม็ง หรือเดินงงเหมือนโดนมนตร์?

ถ้าใช่…อย่าเพิ่งคิดว่าแมวแค่ “ขี้ตกใจ”
เพราะบางทีเขาอาจมีภาวะที่ชื่อว่า Feline Audiogenic Reflex Seizures (FARS)
หรือ “ภาวะชักจากเสียงกระตุ้นในแมว” ซึ่งเป็นโรคที่แม้จะพบไม่บ่อย แต่…ไม่ควรมองข้าม!

วันนี้ผมจะพาคุณมารู้จักกับโรคแปลกแต่อยู่จริง ที่เกิดจากเสียงในชีวิตประจำวัน
พร้อม 5 ข้อควรรู้ ที่จะทำให้คุณเข้าใจแมวตัวน้อยได้ดีขึ้น และช่วยให้เขาอยู่กับคุณแบบปลอดภัยมากขึ้นด้วยครับ


1. FARS คืออะไร? แมวชักเพราะเสียงดังจริงหรือ?

FARS ย่อมาจาก Feline Audiogenic Reflex Seizures
คือภาวะที่แมว “เกิดอาการชักโดยไม่ทราบสาเหตุ” แต่มีสิ่งกระตุ้นคือ “เสียงที่แมวได้ยิน”

เสียงที่ทำให้เกิดอาการไม่ต้องถึงขั้นระเบิดหรือลำโพงแตกครับ
เสียงเล็กๆ ที่เราคิดว่าเบาและไม่เป็นไร เช่น:

  • เสียงเปิดซิป

  • เสียงจานช้อนกระทบกัน

  • เสียงคลิกเมาส์

  • เสียงพลาสติกกรอบแกรบ

  • เสียงถุงขนม!

“มีรายงานว่าแมวบางตัวชักทุกครั้งที่เจ้าของแกะซองขนม เพราะเสียงนั้นตรงกับจุดกระตุ้นในสมอง”
Veterinary Neurology Review, 2020


2. อาการของแมวที่เป็น FARS เป็นอย่างไร?

อาการของ FARS มักเกิดทันทีหลังจากได้ยินเสียงกระตุ้น และมีความหลากหลายมาก
ตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงชักทั้งตัว

อาการที่พบบ่อย:

  • กระตุกตัวเล็กๆ หรือสะดุ้ง

  • จ้องนิ่ง ตาเบิกโพลง

  • เดินวน พฤติกรรมแปลก

  • สั่น หรือหางกระตุก

  • ชักเกร็งทั้งตัว (ในบางราย)

“แมวสูงวัยมีแนวโน้มเกิด FARS มากกว่า โดยเฉพาะสายพันธุ์เบอร์แมน (Burmese) ที่มีรายงานมากที่สุด”
Feline Genetics Study, 2021


3. สาเหตุของโรคนี้มาจากอะไร?

ยังไม่มีข้อสรุป 100% ว่าอะไรเป็นสาเหตุของ FARS
แต่มีข้อสันนิษฐานว่ามาจาก “ความผิดปกติของเส้นประสาทรับเสียง” ที่เชื่อมกับระบบประสาทส่วนกลางในแมว

จุดที่น่าสนใจคือ:

  • FARS มักพบในแมวอายุมากกว่า 10 ปี

  • ไม่เกี่ยวกับพันธุกรรมโดยตรงในทุกกรณี แต่พันธุ์ Burmese อาจมีความเสี่ยงมากกว่า

  • การกระตุ้นเกิดเฉพาะจากเสียงที่เฉพาะเจาะจง (frequency บางช่วง)


4. ต้องรักษายังไง? หรือแค่เลี่ยงเสียงก็พอ?

FARS สามารถควบคุมได้ด้วยยาในบางราย โดยเฉพาะถ้าอาการรุนแรงหรือเกิดบ่อย
แต่ในหลายกรณี การปรับสภาพแวดล้อม ลดเสียงกระตุ้น ก็เพียงพอ

แนวทางดูแลแมวที่เป็น FARS:

  • หลีกเลี่ยงเสียงที่เคยกระตุ้นอาการ เช่น เปลี่ยนจานจากเซรามิกเป็นซิลิโคน

  • ลดเสียงพลาสติก ซองขนม หรือเสียงเปิดซิป

  • เปิดเพลงเบาๆ เพื่อกลบเสียงกะทันหัน

  • ใช้เครื่องฟอกอากาศหรือเสียง white noise กลบเสียงกะทันหัน

  • หากอาการชักถี่มาก → พบสัตวแพทย์เพื่อประเมินใช้ยากันชัก เช่น Levetiracetam

ข้อควรรู้:

  • อย่าลืมบันทึกวิดีโอเวลาน้องมีอาการ เพื่อให้สัตวแพทย์วินิจฉัยได้แม่นยำยิ่งขึ้น


5. แมวที่เป็น FARS ยังใช้ชีวิตได้ปกติไหม?

ข่าวดีคือ “แมวส่วนใหญ่ที่เป็น FARS ยังสามารถมีชีวิตที่ดีได้”
เพียงแต่ต้องมีการจัดการเสียงรบกวน และสังเกตพฤติกรรมมากกว่าปกติ

เคล็ดลับช่วยให้แมวอยู่กับ FARS อย่างมีความสุข:

  • ให้เขาอยู่ในพื้นที่ที่เงียบ ปลอดภัย

  • อย่าปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวเวลาคุณรู้ว่าจะมีเสียงกระตุ้น เช่น ทำความสะอาดบ้าน

  • หลีกเลี่ยงการพาไปที่ที่เสียงดัง เช่น งานแฟร์ สถานที่คนเยอะ

  • ให้ของเล่นเงียบๆ ที่ไม่เกิดเสียงพลาสติก หรือเสียงกรอบแกรบ


แมวที่กระตุกหรือชักเล็กๆ จากเสียงที่คนเราแทบไม่รู้สึก อาจไม่ได้ “ขี้ตกใจ”
แต่กำลังประสบกับภาวะที่ชื่อว่า FARS ซึ่งต้องการการดูแลอย่างเข้าใจ

ยิ่งคุณเข้าใจธรรมชาติของแมวมากขึ้น แมวก็จะอยู่กับคุณอย่างปลอดภัยและสบายใจมากขึ้นครับ


❝เสียงเล็กๆ ที่คุณไม่สนใจ อาจเป็นเหตุให้แมวชักได้ทันที❞


#FARSแมว #แมวชักจากเสียง #แมวไวต่อเสียง #ภาวะประสาทแมว #ดูแลแมวสูงวัย #Lazadogรู้ใจแมว


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts