5 เรื่องที่คุณควรรู้ เมื่อ “น้องหมาติดเชื้อยีสต์” พร้อมแนวทางดูแลเบื้องต้นที่บ้านอย่างปลอดภัย
ถ้าน้องหมาของคุณเริ่มมีกลิ่นตัวแรงผิดปกติ ขนมันเยิ้ม มีผิวหนังแดง ลอก หรือคันจนต้องเกาไม่หยุด
มีความเป็นไปได้ว่าเขาอาจกำลังเผชิญกับ “การติดเชื้อยีสต์” ซึ่งเป็นปัญหาผิวหนังที่พบบ่อยกว่าที่คิด
ข่าวดีคือ การติดเชื้อยีสต์ในสุนัขสามารถดูแลและป้องกันได้ตั้งแต่เบื้องต้น
และหลายครั้งเจ้าของเองก็สามารถเริ่มจัดการที่บ้านได้เลยครับ
วันนี้ผมจะพาคุณไปรู้จัก 5 ข้อควรรู้เกี่ยวกับอาการนี้ พร้อมแนวทางดูแลแบบเข้าใจง่าย ปลอดภัย และใส่ใจสุขภาพน้องหมาอย่างแท้จริง
เชื้อยีสต์ในหมาส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ Malassezia pachydermatis
ซึ่งปกติจะอาศัยอยู่บนผิวหนังและหูของหมาโดยไม่ก่อปัญหา
แต่ถ้าสภาพผิวเปลี่ยน เช่น ความชื้นสูง ภูมิคุ้มกันลด หรือมีการอักเสบ ก็จะทำให้เชื้อเพิ่มจำนวนและเกิดอาการติดเชื้อ
ผิวหนังแดง ลอก มีกลิ่นเหม็นเฉพาะตัว
หูอักเสบ คันจนสั่นหัวบ่อย
ผิวเหนียว ขนร่วงเฉพาะจุด
เลีย-กัดตัวเองบ่อยโดยเฉพาะซอกนิ้ว ขาหนีบ รักแร้
Fact: จากรายงานของ VCA Animal Hospitals พบว่า สุนัขกว่า 70% ที่ติดเชื้อยีสต์จะมีอาการกลับมาเป็นซ้ำ หากไม่ได้จัดการที่ต้นเหตุ
แม้เชื้อยีสต์จะดูไม่อันตรายเท่าเห็บหรือพยาธิ
แต่ถ้าไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง อาจลุกลามและกลายเป็นแผลอักเสบลึก
รวมถึงเพิ่มโอกาสติดเชื้อแบคทีเรียซ้อน ที่ต้องใช้ยาฆ่าเชื้อเฉพาะในการรักษา
อย่าปล่อยให้หมาเกาเองจนเป็นแผล
ห้ามใช้ยาทาคนกับผิวหนังหมาโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากสัตวแพทย์
อย่ารอให้ "หายเอง" เพราะเชื้อจะลุกลามเร็วในช่วงอากาศชื้น
ใช้แชมพูยาต้านยีสต์ เช่นที่มีส่วนผสมของ Chlorhexidine หรือ Miconazole (ใช้สัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง)
เช็ดผิวหนังให้แห้ง ทุกครั้งหลังอาบน้ำหรือพาเดินกลางฝน
ใช้ผ้าเปียกสูตรฆ่าเชื้อ สำหรับเช็ดซอกอุ้งเท้า ขาหนีบ ใต้รักแร้
เปลี่ยนที่นอนบ่อยขึ้น และหลีกเลี่ยงผ้าหนา/ผ้าขนหนูที่อับชื้น
Tip: หากมีจุดที่คันเฉพาะที่ อาจใช้ น้ำส้มสายชูแอปเปิลเจือจาง (1:1 กับน้ำ) เช็ดเฉพาะจุด เพื่อปรับสมดุล pH ของผิวหนัง
(แต่ควรทดสอบกับบริเวณเล็กๆ ก่อน)
อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ร่างกายหมามีสมดุลของจุลินทรีย์
อาหารที่มีน้ำตาลสูงหรือคาร์โบไฮเดรตย่อยง่ายอาจกระตุ้นให้ยีสต์เติบโตมากขึ้น
โปรตีนคุณภาพดี เช่น เนื้อไก่ ปลา
หลีกเลี่ยงอาหารเม็ดที่มีข้าวโพด/แป้งสูง
เสริมโปรไบโอติก (ถ้าหมาไม่มีปัญหาเรื่องระบบย่อย)
งดขนมหรืออาหารที่มีน้ำตาลซ่อน เช่น ขนมสุนัขเคลือบ
Fact: เจ้าของที่ปรับอาหารควบคู่กับการใช้แชมพูยา
มีแนวโน้มให้อาการดีขึ้นเร็วขึ้นภายใน 1–2 สัปดาห์ (อ้างอิงจาก PetMD)
แม้จะมีแนวทางดูแลเบื้องต้นที่บ้าน แต่ถ้าน้องหมาอาการไม่ดีขึ้นภายใน 7 วัน
หรือมีอาการเรื้อรังมานานหลายสัปดาห์ ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
เพราะอาจต้องใช้ยาต้านเชื้อยีสต์เฉพาะตัว หรือยาปฏิชีวนะร่วมด้วย
ผิวหนังแดงทั่วตัว
มีตุ่มหนอง หรือแผลพุพอง
กลิ่นแรงขึ้นแม้อาบน้ำแล้ว
หูอักเสบซ้ำๆ จนมีน้ำเหลือง
ขนร่วงแบบเป็นหย่อมหลายจุด
การติดเชื้อยีสต์ในน้องหมาไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้ารู้จักสังเกตและดูแลตั้งแต่ต้น
อย่ามองข้ามกลิ่นตัวที่เปลี่ยน หรืออาการคันที่ผิดปกติ
เพราะการเริ่มต้นรักษาเร็วจะช่วยให้น้องหมาหายไวขึ้น และป้องกันปัญหาเรื้อรังได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ
#เชื้อยีสต์ในหมา #ผิวหนังหมาอักเสบ #วิธีดูแลหมาคัน #โรคผิวหนังสุนัข #LazadogCareTips
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมาให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com