5 เรื่องที่คุณควรรู้ เมื่อน้องหมาเริ่ม "หลงลืม" หรือเป็นภาวะสมองเสื่อมในสุนัข (อัปเดท 2025)

Apr 08, 2025
healthy สุขภาพ
5 เรื่องที่คุณควรรู้ เมื่อน้องหมาเริ่ม "หลงลืม" หรือเป็นภาวะสมองเสื่อมในสุนัข (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

5 เรื่องที่คุณควรรู้ เมื่อน้องหมาเริ่ม "หลงลืม" หรือเป็นภาวะสมองเสื่อมในสุนัข

ถ้าน้องหมาของคุณเริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ เช่น เดินวนไม่รู้ทิศ ตื่นกลางคืนบ่อย หรือจำคำสั่งง่ายๆ ไม่ได้
อาจถึงเวลาที่ต้องทำความรู้จักกับ “ภาวะสมองเสื่อมในสุนัข” หรือที่เรียกกันว่า Canine Cognitive Dysfunction (CCD)

ไม่ใช่แค่คนเท่านั้นที่มีภาวะสมองเสื่อมได้ แต่หมาก็เป็นได้เช่นกัน โดยเฉพาะหมาที่อายุมากกว่า 7 ปีขึ้นไป
วันนี้ผมอยากพาคุณมาทำความเข้าใจ 5 เรื่องสำคัญ ที่จะช่วยให้คุณดูแลน้องหมาสูงวัยได้อย่างเข้าใจและอบอุ่นครับ


1. ภาวะสมองเสื่อมในหมา "ไม่ใช่เรื่องแปลก" โดยเฉพาะในหมาสูงวัย

จากงานวิจัยของ Frontiers in Veterinary Science ปี 2020
พบว่าหมามากกว่า 28% ที่มีอายุมากกว่า 11 ปี มีพฤติกรรมเข้าข่ายภาวะสมองเสื่อม
และอัตรานี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 68% เมื่ออายุมากกว่า 15 ปี

สัญญาณที่ควรสังเกต:

  • เดินวน หลงทิศ ไม่ตอบสนองเมื่อเรียกชื่อ

  • เปลี่ยนพฤติกรรมกะทันหัน เช่น หงุดหงิด ตื่นตระหนก

  • ขับถ่ายผิดที่ ทั้งที่เคยฝึกได้ดี

  • ตื่นตอนกลางคืน เดินไปมา ร้อง หรือเห่า

  • ลืมกิจวัตร เช่น เวลากิน เวลานอน


2. โรคนี้ไม่สามารถ “รักษาหาย” แต่สามารถ “ชะลออาการ” ได้

แม้ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด 100%
แต่การดูแลอย่างเหมาะสม การปรับสิ่งแวดล้อม และการใช้ยาหรืออาหารเสริมบางชนิด
สามารถช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง และเพิ่มคุณภาพชีวิตของหมาได้อย่างมาก

การดูแลร่วมที่แนะนำ:

  • ออกกำลังกายเบาๆ สม่ำเสมอ

  • ปรับบ้านให้ปลอดภัย (กันลื่น กันชนมุมโต๊ะ)

  • ใช้ของเล่นฝึกสมอง เช่น เกมซ่อนขนม

  • ให้กินอาหารสูตรบำรุงสมอง เช่น ที่มี Omega-3, L-carnitine, วิตามิน B, สารต้านอนุมูลอิสระ

Fact: การปรับอาหารเพียงอย่างเดียว สามารถช่วยให้พฤติกรรมดีขึ้นได้ถึง 61% ภายใน 2 เดือน (อ้างอิงจาก Purina Institute)


3. อย่าคิดว่า “แก่แล้วก็ต้องเป็นแบบนี้” เพราะยิ่งรู้เร็ว ยิ่งช่วยได้ไว

ภาวะสมองเสื่อมไม่ได้เกิดทันทีแบบหักดิบ แต่จะค่อยๆ แสดงอาการ
เจ้าของหลายคนอาจมองข้าม เพราะคิดว่าเป็น “เรื่องปกติของหมาแก่”
แต่จริงๆ แล้ว การวินิจฉัยเร็วและเริ่มดูแลไว จะช่วยลดความทรมานของน้องหมาในระยะยาว

เช็กง่ายๆ ด้วย “DISHAA” checklist:

  • Disorientation: หลงทิศ

  • Interaction: เปลี่ยนพฤติกรรมต่อคนหรือหมา

  • Sleep: นอนไม่เป็นเวลา

  • House soiling: ขับถ่ายผิดที่

  • Activity: ไม่สนใจของเล่นหรือกิจกรรม

  • Anxiety: มีพฤติกรรมกังวล หวาดระแวง


4. การดูแลต้องใช้ “ใจ” และ “ความอดทน” มากขึ้น

เจ้าของบางคนอาจรู้สึกเหนื่อยหรือท้อเมื่อเห็นหมาที่เคยร่าเริงกลายเป็นหมาเงียบ ซึม หรือขี้กลัว
แต่คุณต้องเข้าใจว่า น้องหมาไม่ได้ตั้งใจ — เขาแค่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณมากขึ้น

วิธีดูแลเชิงจิตใจ:

  • พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเสมอ

  • สร้างกิจวัตรประจำวันที่คงที่ เช่น เวลาอาหาร เวลาเดินเล่น

  • หลีกเลี่ยงการตำหนิหรือดุอย่างรุนแรง

  • ให้เขาได้อยู่ใกล้คนที่รัก รู้สึกปลอดภัย

Tip: การกอด ลูบหัว หรือการพูดช้าๆ ช่วยให้น้องหมารู้สึกผ่อนคลายและลดความสับสนได้ดี


5. อย่าลืมดูแลสุขภาพร่างกายควบคู่กับสุขภาพสมอง

หมาที่มีภาวะสมองเสื่อม มักมีโรคอื่นร่วมด้วย เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน หรือข้อเสื่อม
ดังนั้นการดูแลควรครอบคลุมทั้ง “ร่างกาย” และ “สมอง” ไปพร้อมกัน

สิ่งที่ควรทำเป็นประจำ:

  • ตรวจสุขภาพประจำปีหรือตามคำแนะนำของสัตวแพทย์

  • ควบคุมอาหารและน้ำหนัก

  • ตรวจสายตา หู ฟัน และข้อต่อ

  • ปรับพื้นที่ในบ้านให้ปลอดภัยสำหรับหมาสูงวัย

Fact: การรักษาสุขภาพองค์รวมของหมาสูงวัย จะช่วยให้มีชีวิตยืนยาวเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1–2 ปี


ภาวะสมองเสื่อมในสุนัขอาจฟังดูน่ากังวล แต่ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของความสุข
ในทางตรงกันข้าม — ถ้าเจ้าของเข้าใจ ใส่ใจ และดูแลด้วยหัวใจ
น้องหมาก็ยังสามารถมีชีวิตที่มีคุณภาพ อยู่กับคุณได้อย่างอบอุ่นและเป็นที่รักเสมอ


#หมาสูงวัยไม่เดียวดาย #ภาวะสมองเสื่อมในหมา #ดูแลหมาแก่ด้วยใจ #หมาหลงลืมดูแลได้ #LazadogCareTips


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมาให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com



Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts