5 เรื่องที่คุณควรรู้ เมื่อน้องหมาเริ่มปวดข้อ – เข้าใจโรคข้อเสื่อม พร้อมแนวทางดูแลให้เขากลับมายิ้มได้

น้องหมาที่เคยวิ่งเล่นซนไม่หยุด วันหนึ่งกลับเดินช้าลง
บางทีก็ไม่ยอมขึ้นบันได หรือหลบไปนอนมุมเงียบๆ โดยที่ไม่เหมือนเดิม

หลายคนอาจเข้าใจว่า “ก็แค่หมาแก่” แต่ความจริงแล้วอาจเป็นอาการของ “โรคข้อเสื่อม” หรือ Arthritis ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่เกิดได้ทั้งจากอายุ พันธุกรรม และน้ำหนักตัว

ข่าวดีคือ...แม้โรคนี้จะรักษาไม่หายขาด แต่เราสามารถช่วยให้น้องหมาใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพอีกครั้ง ด้วยแนวทางการดูแลและรักษาที่เหมาะสม

วันนี้ผมจะพาคุณไปรู้จัก 5 เรื่องสำคัญที่เจ้าของควรรู้เกี่ยวกับโรคข้อเสื่อมในน้องหมา พร้อมวิธีช่วยให้เขากลับมามีความสุขในทุกย่างก้าวครับ

1. โรคข้อเสื่อมในหมาไม่ได้เกิดแค่เพราะ “แก่”

แม้สุนัขสูงวัยจะเป็นกลุ่มเสี่ยงหลักของโรคข้อเสื่อม
แต่น้องหมาอายุน้อยก็มีโอกาสเป็นได้เช่นกัน โดยเฉพาะพันธุ์ที่มีปัญหาเรื่องโครงสร้างข้อ หรือมีน้ำหนักตัวมากเกินไป

ปัจจัยเสี่ยงที่ควรสังเกต:

• พันธุ์ใหญ่ เช่น ลาบราดอร์ โกลเด้น เยอรมันเชพเพิร์ด

• ประวัติบาดเจ็บที่ข้อ หรือผ่าตัดมาก่อน

• น้องหมาที่อ้วน หรือเคลื่อนไหวน้อยเกินไป

• พันธุ์ที่มีความเสี่ยงทางพันธุกรรม เช่น ปั๊ก ชิสุห์

Fact: จากรายงานของสมาคมสัตวแพทย์อเมริกัน (AVMA) พบว่าสุนัขกว่า 20% มีแนวโน้มเป็นโรคข้อเสื่อมเมื่ออายุเกิน 7 ปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปีตามอายุ

2. อาการของข้อเสื่อมในหมาไม่ได้ชัดเจนเสมอไป

อาการแรกๆ อาจดูเหมือนแค่ “ขี้เกียจ” หรือ “เหนื่อยง่าย”
แต่นั่นอาจเป็นสัญญาณที่น้องหมาพยายามบอกว่าเขาเจ็บอยู่ โดยไม่แสดงออกโต่งๆ แบบมนุษย์

อาการที่พบบ่อย:

• ลุกช้าหลังตื่นนอน

• ไม่อยากขึ้นบันไดหรือกระโดด

• เดินกะเผลกเล็กน้อยหลังเล่น

• เห่า/งอแงเวลาสัมผัสบริเวณข้อ

• เปลี่ยนท่านอนบ่อยเพื่อหาตำแหน่งที่ไม่เจ็บ

Tip: หากสังเกตเห็นพฤติกรรมเหล่านี้ซ้ำๆ ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด

3. วิธีรักษามีหลายทางเลือก ไม่ใช่แค่กินยาแก้ปวด

การดูแลน้องหมาที่เป็นโรคข้อเสื่อมไม่ใช่แค่การให้ยา
แต่ควรเป็น “แผนดูแลแบบองค์รวม” ที่ผสมผสานหลายแนวทางเข้าด้วยกัน เพื่อฟื้นฟูการเคลื่อนไหวและลดอาการอักเสบ

แนวทางการรักษาที่สัตวแพทย์แนะนำ:

• ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs)

• อาหารเสริมกลุ่มกลูโคซามีน + คอนดรอยติน

• การทำกายภาพ เช่น เลเซอร์ อัลตราซาวด์

• การควบคุมน้ำหนัก

• อาหารสูตรพิเศษบำรุงข้อต่อ

• การฝังเข็ม หรือ CBD (ในบางกรณี)

Fact: งานวิจัยจาก Journal of Veterinary Science แสดงว่า สุนัขที่ใช้กลูโคซามีนร่วมกับการควบคุมน้ำหนัก มีอาการดีขึ้นถึง 64% ภายใน 3 เดือน

4. การควบคุมน้ำหนักสำคัญที่สุด แต่เจ้าของมักมองข้าม

น้ำหนักตัวที่เกินแม้เพียงเล็กน้อย ก็สามารถเพิ่มแรงกดที่ข้อต่อได้หลายเท่า
การลดน้ำหนักเพียง 10% ของน้ำหนักตัว สามารถลดความเจ็บปวดที่ข้อต่อได้อย่างมีนัยสำคัญ

วิธีเริ่มง่ายๆ:

• ปรับปริมาณอาหารให้พอดี

• งดของกินเล่นที่มีไขมันสูง

• พาน้องเดินเบาๆ วันละ 10–15 นาที

• ใช้อาหารสูตรลดน้ำหนักที่มีไฟเบอร์สูง

Tip: ใช้ถ้วยตวงอาหารแทนการกะด้วยสายตา จะช่วยให้การควบคุมแคลอรี่แม่นยำขึ้น

5. คุณสามารถช่วยให้น้องหมา “มีความสุขกับการเคลื่อนไหว” อีกครั้ง

แม้โรคข้อเสื่อมจะเป็นภาวะเรื้อรัง แต่ถ้าได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง
คุณจะได้เห็นแววตาสดใส เสียงเห่าร่าเริง และท่าทางมีชีวิตชีวาของเขากลับมาอีกครั้ง

วิธีช่วยให้ชีวิตน้องหมาดีขึ้น:

• ปูพรมหรือเสื่อกันลื่นในบ้าน

• ใช้เบาะนอนนุ่มแต่ไม่ยวบ

• จัดมุมนอนให้อุ่นและเข้าถึงง่าย

• หลีกเลี่ยงการเล่นหนักหรือกระโดดสูง

• ให้กำลังใจ ลูบเบาๆ บ่อยๆ เพื่อคลายเครียด

Fact: เจ้าของที่ดูแลโรคข้อเสื่อมแบบสม่ำเสมอ จะเห็นพฤติกรรมดีขึ้นในสุนัขถึง 85% ภายใน 2–3 เดือนแรกของการดูแลแบบองค์รวม

โรคข้อเสื่อมอาจทำให้น้องหมาเจ็บเงียบๆ โดยที่เจ้าของไม่ทันรู้ตัว
แต่ด้วยความเข้าใจ การสังเกต และการดูแลแบบใส่ใจ คุณสามารถช่วยให้เขากลับมาเคลื่อนไหวอย่างมีความสุขอีกครั้งได้

โรคนี้ไม่ใช่จุดจบของความสนุกของน้องหมา แต่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ “ความรักที่ลึกขึ้น” ระหว่างคุณกับเขาก็เป็นได้ครับ #โรคข้อเสื่อมน้องหมา #ปวดข้อหมา #บำรุงข้อหมา #ดูแลหมาสูงวัย #LazadogCareTips

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมาให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com