ฉากเปิด…นางเอกนั่งร้องไห้เพราะหมาตัวโปรดอ้วนพีจนหอบ พระเอกสัตวแพทย์หล่อเท่เดินเข้ามาแล้วโยนถุงอาหารสุนัขที่มีคำว่า Low Fat ลงบนโต๊ะ พร้อมพูดเสียงเข้มว่า
“ถ้าไม่เปลี่ยนตอนนี้ หมาของคุณอาจเสี่ยงชีวิต!”
นี่ไม่ใช่แค่ดราม่าซีรีส์ แต่คือเรื่องจริงที่เจ้าของหมาหลายคนไม่รู้ วันนี้ผมจะพาคุณไปเจาะลึก อาหารสุนัขไขมันต่ำ (Low-Fat Dog Food) จากการจัดอันดับของ DogFoodAdvisor – Suggested Low Fat Dog Food
งานวิจัยเผยว่าสุนัขที่ได้รับอาหารไขมันสูงกว่า 20% ของพลังงาน เสี่ยงเป็นโรค Pancreatitis (ตับอ่อนอักเสบ)
อาการ: อาเจียน ปวดท้อง เบื่ออาหาร
ข้อควรรู้: อาหารไขมันต่ำช่วยลดความเสี่ยงได้ โดยสูตร Low-Fat ส่วนใหญ่มีไขมันเพียง 7–10% เท่านั้น
หลายคนเข้าใจผิดว่า Low-Fat มีไว้เฉพาะหมาอ้วน แต่จริง ๆ แล้ว…
เหมาะกับหมาที่เคยป่วยเป็น ตับอ่อนอักเสบ
สุนัขพันธุ์ที่มีความเสี่ยง เช่น ค็อกเกอร์ สแปเนียล หรือยอร์กเชียร์ เทอร์เรีย
สถิติ: มีรายงานว่าโรคตับอ่อนอักเสบพบได้ถึง 24% ในสุนัขที่เคยกินอาหารไขมันสูงต่อเนื่อง
หลายแบรนด์อย่าง Hill’s Prescription Diet i/d Low Fat หรือ Blue Buffalo Life Protection Healthy Weight ให้โปรตีนเฉลี่ย 22–27%
แม้ลดไขมัน แต่ยังคงคุณค่าโปรตีนเพื่อเสริมกล้ามเนื้อและระบบภูมิคุ้มกัน
เคล็ดลับ: เลือกสูตรที่โปรตีนหลักมาจากเนื้อสัตว์แท้ ไม่ใช่เพียง By-product
อาหาร Low-Fat มักเสริมไฟเบอร์จาก ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ หรือผักผลไม้
ทำให้สุนัขรู้สึกอิ่มนานขึ้น ลดการขออาหารบ่อย
ค่าเฉลี่ยไฟเบอร์อยู่ที่ 8–12% สูงกว่าอาหารทั่วไปเกือบสองเท่า
ข้อควรรู้: ไฟเบอร์ช่วยคุมพลังงานและป้องกันท้องผูก
ต่างจากอาหารสูตรพิเศษอื่น ๆ อาหาร Low-Fat ราคาค่อนข้างใกล้เคียงกับอาหารเม็ดปกติ
ถุง 12 กก. ราคาเฉลี่ย 2,200–3,000 บาท
ถือว่าคุ้มเมื่อเทียบกับค่ารักษาโรคตับอ่อนอักเสบที่อาจสูงถึง 10,000–20,000 บาทต่อครั้ง
ข้อควรรู้: ลงทุนในอาหารที่เหมาะสม ดีกว่าต้องจ่ายค่ารักษาทีหลัง
มองหาค่าไขมันไม่เกิน 10%
เลือกโปรตีนจากเนื้อสัตว์แท้ (Chicken, Turkey, Fish)
ควรมีไฟเบอร์ ≥ 8%
เลือกแบรนด์ที่ผ่านการรับรอง AAFCO
ปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนเปลี่ยนสูตรอาหาร
ไขมันต่ำ ใช่ว่าจืดชืดไร้ค่าโปรตีนยังมา ไฟเบอร์สูงช่วยได้เลือกอย่างถูก หมาสุขภาพดีไม่หายอยู่คู่เจ้าของไป ได้อีกหลายปี
Q1: ทุกหมาต้องกิน Low-Fat หรือไม่?
A: ไม่จำเป็น เหมาะกับหมาที่อ้วน ป่วยตับอ่อน หรือหมาที่สัตวแพทย์แนะนำ
Q2: กิน Low-Fat แล้วหมาจะผอมลงจริงไหม?
A: ช่วยได้ถ้าควบคู่กับการออกกำลังกายและควบคุมปริมาณอาหาร
Q3: ลูกสุนัขควรกิน Low-Fat หรือไม่?
A: ไม่แนะนำ เพราะลูกสุนัขต้องการไขมันและพลังงานสูงกว่าปกติ
Q4: ควรให้อาหาร Low-Fat ไปตลอดหรือไม่?
A: ขึ้นอยู่กับสุขภาพสุนัข ควรปรึกษาสัตวแพทย์เป็นระยะ
Q5: แบรนด์ใดบ้างที่ DogFoodAdvisor แนะนำ?
A: Hill’s Prescription Diet i/d Low Fat, Blue Buffalo Healthy Weight, Wellness Core Reduced Fat
#อาหารสุนัขไขมันต่ำ #LowFatDogFood #โภชนาการสุนัข #สุขภาพหมา #Lazadog
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com