5 เรื่องน่าตกใจเกี่ยวกับ “อาหารเปียกสุนัข” ที่เจ้าของหมาไม่เคยรู้ (อัปเดท 2025)

Sep 25, 2025
คู่มือสัตว์เลี้ยง
5 เรื่องน่าตกใจเกี่ยวกับ “อาหารเปียกสุนัข” ที่เจ้าของหมาไม่เคยรู้ (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

5 เรื่องน่าตกใจเกี่ยวกับ “อาหารเปียกสุนัข” ที่เจ้าของหมาไม่เคยรู้


ลองนึกภาพฉากเปิดหนังเกาหลี พระเอกยื่นชามอาหารเปียกให้เจ้าหมาอย่างอบอุ่น…กล้องแพนช้า ๆ แสงนุ่มนวล แต่ทันใดนั้น! เสียงดนตรีระทึกดังขึ้น พร้อมคำสารภาพว่า “อาหารเปียกนี้…ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด!”
ใช่ครับ อาหารเปียกสุนัขที่เราคิดว่าดีกว่าอาจแอบมีความลับที่ทำให้คุณต้องอ้าปากค้าง

วันนี้ผมจะพาคุณไปเจาะลึก 5 เรื่องสุดช็อกจากการรีวิวและจัดอันดับของ DogFoodAdvisor ที่คุณควรรู้ก่อนจะเปิดฝากระป๋องอาหารให้เจ้าตูบอีกครั้ง


1. โปรตีนสูงจริง…แต่ไม่เท่ากัน

หลายคนคิดว่าอาหารเปียก = โปรตีนสูงกว่าอาหารเม็ด ซึ่งเป็นเรื่องจริง แต่…ไม่ใช่ทุกยี่ห้อ!

  • บางแบรนด์เช่น Merrick Grain-Free Wet Dog Food ให้โปรตีนสูงถึง 41%

  • แต่บางสูตรกลับมีเพียง 28% ซึ่งแทบไม่ต่างจากอาหารเม็ดคุณภาพปานกลาง
    ข้อควรรู้: อย่าดูแค่คำว่า “High Protein” ต้องดูเปอร์เซ็นต์โปรตีนจากเนื้อสัตว์จริงด้วย


2. โซเดียมสูงเกินจำเป็น

อาหารสุนัขเปียกจำนวนมากมีโซเดียมสูงเพื่อเพิ่มรสชาติและช่วยถนอมอาหาร

  • ค่าเฉลี่ยโซเดียมในบางสูตรมากกว่า 0.3% ขึ้นไป

  • สุนัขที่มีโรคหัวใจหรือโรคไตอาจเสี่ยงมากขึ้นหากกินโซเดียมสูงเกินไป
    เคล็ดลับ: อ่านฉลากและหลีกเลี่ยงสูตรที่ไม่ได้ระบุระดับโซเดียมอย่างชัดเจน


3. แคลอรีซ่อนอยู่ในซอส

ความฉ่ำของอาหารเปียกมักมาพร้อม “แคลอรีแฝง” จากน้ำเกรวี่หรือเจลาติน

  • บางสูตรกระป๋องเดียวอาจมีพลังงานมากกว่า 350 kcal

  • เมื่อให้บ่อย ๆ อาจทำให้สุนัขน้ำหนักขึ้นเร็วโดยที่คุณไม่รู้ตัว
    ข้อควรรู้: สุนัขพันธุ์เล็กควรได้รับพลังงานเฉลี่ย 200-400 kcal/วัน เท่านั้น


4. ปัญหาฟันและหินปูน

อาหารเปียกทำให้ฟันสุนัขไม่ถูกเสียดสีเหมือนอาหารเม็ด ส่งผลให้หินปูนสะสมเร็วขึ้น

  • สถิติจากคลินิกสัตวแพทย์ในสหรัฐฯ พบว่า 60% ของสุนัขที่กินอาหารเปียกล้วน ๆ มีปัญหาหินปูนเร็วกว่า
    เคล็ดลับ: ถ้าจะให้อาหารเปียก ควรผสมอาหารเม็ด หรือเสริมด้วยขนมเคี้ยวทำความสะอาดฟัน


5. ไม่ใช่ทุกแบรนด์ที่ “Premium” จริง

หลายแบรนด์ชอบใช้คำว่า “Human-Grade” หรือ “Gourmet” แต่เมื่อดูส่วนผสมกลับพบว่า…

  • มี By-products (ผลพลอยได้จากสัตว์)

  • ใช้ ข้าวโพดหรือข้าวสาลี เป็นส่วนประกอบหลัก

  • หรือใส่สารกันเสียที่ไม่พึงประสงค์
    เคล็ดลับ: เลือกแบรนด์ที่มีการรับรอง AAFCO และรีวิวจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น DogFoodAdvisor


ข้อควรรู้ & เคล็ดลับการเลือกอาหารสุนัขเปียก

  1. อ่านฉลาก: ต้องมีโปรตีนจากเนื้อสัตว์เป็นส่วนผสมอันดับแรก

  2. ดูโซเดียม: ถ้าไม่ระบุ = น่าสงสัย

  3. เช็กแคลอรี: เลือกให้เหมาะกับน้ำหนักและกิจกรรมสุนัข

  4. อย่าลืมสุขภาพฟัน: ผสมอาหารเม็ดหรือดูแลฟันเสริม

  5. ทดลองทีละน้อย: เปลี่ยนอาหารใหม่ใช้เวลาอย่างน้อย 7 วัน


เปิดฝากระป๋องกลิ่นหอมลอยมา
แต่ความจริงแอบซ่อนพาให้ช็อก
เลือกให้ถูก อ่านฉลากไม่หยุดบอก
หมาสุขภาพดี…คือที่สุดของความรัก


FAQ

Q1: สุนัขควรกินอาหารเปียกทุกวันไหม?
A: กินได้ แต่ควรผสมอาหารเม็ดเพื่อสมดุลและช่วยสุขภาพฟัน

Q2: อาหารเปียกเหมาะกับสุนัขแก่ไหม?
A: เหมาะ เพราะย่อยง่าย เคี้ยวง่าย แต่ควรเลือกสูตรโซเดียมต่ำ

Q3: เปิดกระป๋องแล้วเก็บได้นานแค่ไหน?
A: ควรเก็บในตู้เย็นและใช้ให้หมดภายใน 2-3 วัน

Q4: อาหารเปียกทำให้อ้วนจริงไหม?
A: ถ้าให้มากเกินไปใช่ เพราะหลายสูตรมีแคลอรีสูงแฝง

Q5: มีแบรนด์ใดได้รีวิวดีบ้าง?
A: ตาม DogFoodAdvisor แบรนด์ Merrick, Wellness, Blue Buffalo และ Instinct ได้คะแนนสูงด้านคุณภาพ


#อาหารสุนัขเปียก #โภชนาการสุนัข #สุขภาพหมา #เคล็ดลับเจ้าของหมา #Lazadog

ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ


by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts