เปิด 5 สถิติน่ารู้ “ผลึกในปัสสาวะหมา” ปัญหาที่มองไม่เห็น แต่อาจพาน้องหมาไปหาหมอด่วน (อัปเดท 2025)

Apr 16, 2025
healthy สุขภาพ
เปิด 5 สถิติน่ารู้ “ผลึกในปัสสาวะหมา” ปัญหาที่มองไม่เห็น แต่อาจพาน้องหมาไปหาหมอด่วน (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

เปิด 5 สถิติน่ารู้ “ผลึกในปัสสาวะหมา” ปัญหาที่มองไม่เห็น แต่อาจพาน้องหมาไปหาหมอด่วน

บางครั้งน้องหมาอาจดูปกติดีทุกอย่าง กิน เล่น เดินได้
แต่รู้ไหมครับว่า “ภายใน” ของร่างกายอาจกำลังเผชิญกับภัยเงียบอย่าง ผลึกในปัสสาวะ (Urinary Crystals) ที่เจ้าของไม่ทันสังเกต
และถ้าไม่รีบรักษา อาจพัฒนากลายเป็น “นิ่วในทางเดินปัสสาวะ” ซึ่งทั้งเจ็บ ทั้งแพง ทั้งน่าสงสารสุดๆ

เพื่อไม่ให้คุณพลาดสัญญาณเตือน ผมขอพาไปดู 5 สถิติน่ารู้เกี่ยวกับผลึกในปัสสาวะสุนัข พร้อมแนวทางรับมือที่ใช้ได้จริงจากสัตวแพทย์ครับ


1. 32% ของน้องหมาเคยมีผลึกปัสสาวะโดยที่เจ้าของ “ไม่รู้ตัวเลย”

จากงานวิจัยของ Banfield Pet Hospital (สหรัฐอเมริกา) พบว่า
กว่า 32% ของสุนัขที่เข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี มีผลึกในปัสสาวะ แต่ไม่มีอาการชัดเจน
หรือพูดง่ายๆ คือ เจ้าของไม่สังเกต ไม่เจอ ไม่รู้ว่าน้องหมาป่วย

สัญญาณที่ควรระวัง:

  • ปัสสาวะบ่อยขึ้น หรือเล็กลง

  • มีเลือดปนในปัสสาวะ

  • ลังเลหรือเบ่งเวลาปัสสาวะ

  • เลียอวัยวะเพศบ่อย

ข้อควรรู้: การตรวจปัสสาวะแบบง่ายปีละครั้งสามารถช่วยให้พบผลึกได้ก่อนเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น นิ่วอุดตัน


2. สายพันธุ์เล็ก “เสี่ยงมากกว่า” สายพันธุ์ใหญ่ถึง 2.4 เท่า

ข้อมูลจาก American College of Veterinary Internal Medicine (ACVIM)
ระบุว่า สุนัขพันธุ์เล็ก เช่น ชิสุ ปอม ปั๊ก
มีโอกาสเกิดผลึกในปัสสาวะสูงกว่าสุนัขพันธุ์ใหญ่ถึง 2.4 เท่า
เนื่องจากระบบขับถ่ายมีขนาดเล็ก อัตราการสะสมของแร่ธาตุในกระเพาะปัสสาวะสูงกว่า

กลุ่มพันธุ์ที่ควรระวัง:

  • ปอมเมอเรเนียน

  • ชิสุ

  • ยอร์คเชียร์ เทอร์เรียร์

  • มอลทีส

  • พุดเดิ้ลทอย

เคล็ดลับ: พาน้องไปตรวจปัสสาวะทุก 6 เดือน โดยเฉพาะถ้าเป็นพันธุ์เล็ก หรือมีประวัติปัสสาวะผิดปกติ


3. อาหารมีผลโดยตรงกับการเกิดผลึกถึง 80%

ข้อมูลจาก WALTHAM Petcare Science ระบุว่า
อาหารที่มีแร่ธาตุบางชนิดสูงเกินไป เช่น แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส หรือแคลเซียม
มีผลโดยตรงต่อการตกผลึกในปัสสาวะ โดยเฉพาะหากน้องดื่มน้ำน้อยร่วมด้วย

สถิติเพิ่มเติม:

  • ลูกหมาที่กินอาหารสูตรไม่เหมาะสม เสี่ยงนิ่วเพิ่มขึ้น 3 เท่า

  • อาหารเฉพาะทางสามารถละลายผลึกได้ถึง 90% ภายใน 3–4 สัปดาห์

กลเม็ด: เลือกอาหารสูตรป้องกันนิ่วหรือสูตร “Urinary Care” และกระตุ้นให้น้องดื่มน้ำมากขึ้น เช่น ผสมอาหารเปียกในมื้อปกติ


4. สุนัขเพศผู้ “เสี่ยงนิ่วอุดตัน” มากกว่าเพศเมีย

จากการศึกษาของ Cornell University พบว่า
สุนัขเพศผู้มีท่อปัสสาวะเล็กและยาวกว่าเพศเมีย ทำให้เมื่อมีผลึกเกิดขึ้นแล้ว
โอกาสที่ผลึกจะอุดตันจนปัสสาวะไม่ออก มีสูงกว่าเพศเมียเกือบ 5 เท่า

อาการฉุกเฉินที่ควรพาไปหาหมาทันที:

  • น้องเบ่งปัสสาวะแต่ไม่มีปัสสาวะออก

  • น้องซึม ไม่กินอาหาร

  • ปัสสาวะออกเป็นหยดๆ หรือมีเลือดปน

ข้อควรรู้: ภาวะนิ่วอุดตันอาจทำให้น้องเสียชีวิตได้ภายใน 24–48 ชั่วโมง ถ้าไม่ได้รับการรักษา


5. การตรวจปัสสาวะและอัลตราซาวด์ประจำปี “ลดความเสี่ยงภาวะรุนแรงได้ 76%”

งานวิจัยจาก Journal of Small Animal Practice พบว่า
สุนัขที่ได้รับการตรวจสุขภาพระบบทางเดินปัสสาวะประจำปี มีโอกาสตรวจเจอผลึกหรือก้อนนิ่วเล็กๆ ก่อนเกิดอาการรุนแรงถึง 76%

แนวทางการดูแลเชิงป้องกัน:

  • ตรวจปัสสาวะปีละ 1–2 ครั้ง

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ 50–70 มล./กก.น้ำหนักตัว/วัน

  • เลือกอาหารสูตรเหมาะสมกับสภาวะสุขภาพ

  • ออกกำลังกายช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนและขับถ่าย

เทคนิคเสริม: ใช้แอป Lazadog Health Tracker บันทึกพฤติกรรมการขับถ่ายและน้ำหนัก เพื่อช่วยสังเกตความผิดปกติได้เร็วขึ้น


“ผลึกในปัสสาวะสุนัข” เป็นเรื่องเล็กที่ถ้าเจ้าของมองข้าม อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่และเจ็บปวดสำหรับน้องหมาได้ในอนาคต
การเลือกอาหารที่เหมาะสม กระตุ้นให้ดื่มน้ำมากขึ้น และตรวจสุขภาพสม่ำเสมอคือทางออกที่ง่ายและคุ้มค่าที่สุด

อย่ารอให้เกิดอาการก่อนค่อยพาไปหาหมอครับ เพราะบางครั้งอาจสายไป... และน้องก็พูดไม่ได้ว่า “หนูปวดฉี่แต่ฉี่ไม่ออก”


#ผลึกในปัสสาวะหมา #ปัญหาปัสสาวะที่เจ้าของต้องรู้ #ป้องกันนิ่วในสุนัข #อาหารหมาสำหรับนิ่ว #Lazadogดูแลสุขภาพครบวงจร


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts