5 ข้อควรรู้! บ้านที่มีทั้ง “แมว” และ “ลูกน้อย” อยู่ด้วยกันได้...ถ้าเข้าใจกันพอ (อัปเดท 2025)

Apr 20, 2025
การรับเลี้ยงและการดูแล
5 ข้อควรรู้! บ้านที่มีทั้ง “แมว” และ “ลูกน้อย” อยู่ด้วยกันได้...ถ้าเข้าใจกันพอ (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

5 ข้อควรรู้! บ้านที่มีทั้ง “แมว” และ “ลูกน้อย” อยู่ด้วยกันได้...ถ้าเข้าใจกันพอ

คุณเป็นคนรักแมว และตอนนี้กำลังจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ป้ายแดง?
หรือมีลูกอยู่แล้ว และอยากรับแมวมาเลี้ยงเพิ่ม?
แต่กังวลว่า “แมวจะตบลูกไหม?” หรือ “ลูกจะแพ้แมวหรือเปล่า?”

ข่าวดีครับ...แมวกับเด็กทารกสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข (และน่ารักมาก)
แต่อย่างไรก็ตาม ต้องมีการเตรียมตัวและปรับพฤติกรรมของทั้งสองฝ่ายเล็กน้อย

บทความนี้จะพาคุณไปพบกับ 5 ข้อควรรู้ ก่อนรวมสมาชิกใหม่เข้ากับสมาชิกขนฟูในบ้านให้ราบรื่นที่สุด!


1. เด็กแรกเกิดไม่ได้แพ้แมวทุกคน แต่อย่าประมาท!

“ในประเทศไทย เด็กประมาณ 10–15% มีแนวโน้มแพ้ขนสัตว์ โดยเฉพาะแมว”
ข้อมูลจากสมาคมโรคภูมิแพ้แห่งประเทศไทย (2022)

การที่มีแมวอยู่ในบ้านไม่ได้แปลว่าเด็กจะต้องแพ้
แต่ถ้ามีประวัติครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้ หรือเด็กมีอาการน้ำมูกเรื้อรัง หายใจมีเสียงหวีด ควรปรึกษากุมารแพทย์ก่อน

วิธีลดสารก่อภูมิแพ้ในบ้าน:

  • หมั่นดูดฝุ่นบ่อย โดยเฉพาะบริเวณที่แมอวนอน

  • ใช้เครื่องฟอกอากาศที่กรองสารก่อภูมิแพ้

  • แยกที่นอนของแมวออกจากห้องนอนเด็ก

  • อาบน้ำแมวเป็นประจำ (แมวอาจไม่ชอบ แต่เราต้องรักกันเข้าใจนะครับ)


2. แนะนำแมวให้รู้จักลูก...ต้องทำอย่างเป็นขั้นตอน

แมวเป็นสัตว์รักความคุ้นเคย
ถ้าอยู่ๆ อุ้มทารกมาวางใกล้ตัวแมวแล้วบอกว่า “นี่น้องใหม่ของบ้านนะ” — รับรองว่าทาสได้เล็บแน่ครับ

วิธีแนะนำที่แนะนำโดยนักพฤติกรรมแมว:

  • ให้แมวดมของใช้ของลูก เช่น ผ้า ผ้าห่อตัว

  • เปิดเสียงเด็กร้องจากโทรศัพท์ให้แมวได้คุ้นเคย

  • พาแม้ดูทารกในอ้อมแขนจากระยะห่างก่อน แล้วค่อยๆ ลดระยะ

  • ให้แมวมีที่หลบสงบ เช่น คอนโดแมว ห้องส่วนตัว

“แมวที่ได้รับเวลาปรับตัวอย่างน้อย 1 สัปดาห์ จะมีพฤติกรรมที่สงบและเปิดรับเด็กได้มากขึ้น”
Feline Behavioral Study, 2021


3. สังเกตพฤติกรรมแมวใกล้ชิด อย่าคิดว่า “นิ่ง = ชอบ”

บางครั้งแมวนั่งจ้องเด็กเงียบๆ ไม่ได้แปลว่ารักนะครับ
อาจจะกำลังประเมินว่า “นี่อะไร?” “ต้องระวังไหม?” หรือ “เสียงร้องแบบนี้คือขู่ฉันหรือเปล่า?”

สัญญาณเตือนที่ควรรู้:

  • หางกระดิกแรงๆ = เริ่มหงุดหงิด

  • หูหันไปด้านข้าง = ระวังนะ ไม่แน่ใจ

  • เดินหนีจากห้องเด็ก = ขอเวลาอยู่คนเดียว

คำแนะนำ:

  • อย่าอุ้มแมวไปใกล้ลูกแบบบังคับ

  • หลีกเลี่ยงให้แมวอยู่กับลูกโดยไม่มีผู้ใหญ่

  • ให้รางวัลแมวเมื่อมีพฤติกรรมดี เช่น นั่งใกล้ลูกแล้วสงบ


4. ลูกโตพร้อมเรียนรู้ “ทักษะการอยู่กับแมว” ได้เร็วมาก!

เด็กโตหน่อย (1–3 ปี) สามารถเริ่มเรียนรู้ได้ว่าแมวคือสิ่งมีชีวิต ไม่ใช่ตุ๊กตา
และการอยู่ร่วมกับแมวช่วยฝึกเด็กให้รู้จักคำว่า “เคารพพื้นที่” ได้เร็วมาก

“เด็กที่เติบโตมากับสัตว์เลี้ยงจะมี EQ สูงขึ้น มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้นกว่ากลุ่มทั่วไป”
Child & Pet Development Journal, 2020

เคล็ดลับการสอนลูกอยู่กับแมว:

  • สอนให้ใช้เสียงเบา ไม่วิ่งไล่แมว

  • ฝึกให้ลูบแมวเบาๆ ไม่จับหางหรือหู

  • สร้างกิจกรรมร่วม เช่น ป้อนขนมแมว เล่นของเล่นด้วยกัน


5. แมวไม่ใช่ภัยกับลูก...ถ้าเราไม่ละเลยความสะอาดและการดูแล

แมวบ้านที่เลี้ยงอย่างสะอาด ฉีดวัคซีนครบ ถ่ายพยาธิประจำ
ไม่ใช่ตัวนำโรคร้ายใดๆ มาสู่เด็กอย่างที่หลายคนเข้าใจผิด

สิ่งที่ควรทำเพื่อความปลอดภัย:

  • ฉีดวัคซีนครบตามโปรแกรม

  • ถ่ายพยาธิแมวทุก 3–6 เดือน

  • ล้างมือเด็กทุกครั้งหลังเล่นกับแมว

  • อย่าปล่อยให้ลูกไปเล่นกระบะทรายแมวเด็ดขาด


แมวกับลูกน้อยอยู่ด้วยกันได้ ถ้าเราช่วยปรับตัวให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจกัน
ความน่ารักระหว่างแมวที่คอยนอนเฝ้าเปล กับเด็กที่หัวเราะเวลาแมวเดินผ่าน...คือโมเมนต์อบอุ่นที่คุณจะไม่มีวันลืม

สิ่งสำคัญคือ ไม่ตื่นตระหนก ไม่ปล่อยปละ และให้เวลาแมวกับลูกเรียนรู้กันอย่างค่อยเป็นค่อยไป


❝แมวกับลูกไม่ใช่คู่แข่ง…แต่เป็นครอบครัว ถ้าคุณจัดบ้านให้พอดี❞


#แมวกับเด็ก #เลี้ยงแมวพร้อมลูกน้อย #ลูกแรกเกิดกับแมว #บ้านที่มีทั้งแมวและเด็ก #แมวไม่ใช่ภัย #Lazadogรู้ใจทุกสมาชิกในบ้าน


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts