5 ข้อควรรู้! "มะเร็งในแมว" ไม่ใช่แค่โรคคน แมวก็เสี่ยงได้แบบเงียบๆ
พูดถึงคำว่า "มะเร็ง" หลายคนอาจนึกถึงแต่คนสูงวัย
แต่รู้ไหมครับว่า แมวก็เป็นมะเร็งได้เหมือนกัน — แถมหลายครั้งยัง “ไม่มีอาการชัดเจน” จนเจ้าของจับสังเกตไม่ทัน
บางคนมารู้ตัวอีกที ก็ตอนที่แมวเริ่มซึม ไม่กินอาหาร หรือมีก้อนเนื้อโตขึ้นผิดปกติแล้ว
บทความนี้จะพาคุณไปรู้ทัน “มะเร็งในแมว”
ตั้งแต่สาเหตุหลัก สัญญาณเตือน ไปจนถึงแนวทางดูแลและการป้องกันแบบเข้าใจง่าย
เพราะถ้าแมวของคุณพูดได้…มันคงอยากบอกว่า “ตรวจเจอก่อน ยังมีโอกาสรักษาได้”
มะเร็งในแมวเกิดขึ้นได้กับทุกอวัยวะ ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง ต่อมน้ำเหลือง ตับ ลำไส้ หรือเต้านม
และที่สำคัญ…ไม่ได้เป็นเฉพาะแมวสูงวัยเท่านั้น!
“แมวอายุ 10 ปีขึ้นไป มีโอกาสเป็นมะเร็งสูงถึง 1 ใน 5 ตัว”
– Feline Oncology Review, 2021
มะเร็งที่พบบ่อยในแมว ได้แก่:
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma)
มะเร็งเต้านม (Mammary Tumors)
มะเร็งผิวหนังจากแสงแดด (Squamous Cell Carcinoma)
มะเร็งลำไส้และระบบย่อยอาหาร
แมวพันธุ์เปอร์เซีย สก็อตติชโฟลด์ หรือเบงกอล มีโอกาสพบปัญหาเหล่านี้มากกว่าสายพันธุ์อื่นบางชนิด
แมวไม่ใช่สัตว์ที่ชอบแสดงความเจ็บปวดชัดๆ แบบหมา
เพราะงั้นเจ้าของจึงต้องสังเกตพฤติกรรมอย่างละเอียด
สัญญาณที่อาจบ่งบอกว่าแมวมีมะเร็ง:
มีก้อนเนื้อโตขึ้นเรื่อยๆ
น้ำหนักลดแบบไม่มีเหตุผล
เบื่ออาหาร อาเจียน หรือท้องเสียเรื้อรัง
ซึม ไม่เล่น ไม่เข้าสังคมเหมือนเดิม
มีเลือดออกจากปาก จมูก หรืออวัยวะเพศ
แผลที่ไม่หายแม้เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์
“กว่า 60% ของเคสแมวมะเร็งในไทย พบตอนเข้าสู่ระยะลุกลาม เพราะไม่มีอาการชัดเจนในช่วงแรก”
– Pet Diagnostic Survey Thailand, 2023
บางสิ่งในชีวิตประจำวันของแมว อาจเป็น "ตัวจุดไฟเงียบๆ" ให้เซลล์ผิดปกติพัฒนา
ปัจจัยเสี่ยงที่ควรรู้:
ควันบุหรี่ในบ้าน: เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอดและช่องปากในแมว
อาหารเก่าเก็บ หรือมีสารกันบูดมากเกินไป
แสงแดดจัดในแมวขนสีขาว: ทำให้เสี่ยงมะเร็งผิวหนัง
ไวรัส FeLV (ลิวคีเมียแมว): เพิ่มโอกาสเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
การไม่ทำหมัน: โดยเฉพาะในแมวตัวเมีย เพิ่มโอกาสมะเร็งเต้านมถึง 4 เท่า
“แมวที่สัมผัสควันบุหรี่เป็นประจำมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งช่องปากสูงกว่าแมวในบ้านปลอดควันถึง 2.5 เท่า”
– Indoor Pet Cancer Study, 2020
ข่าวดีคือ แมวสามารถ “รักษามะเร็งได้” ถ้าตรวจพบเร็ว และเลือกวิธีเหมาะสม
แนวทางการรักษา:
ผ่าตัด: สำหรับมะเร็งผิวหนัง หรือก้อนที่ยังไม่ลุกลาม
เคมีบำบัด (Chemotherapy): ใช้ยาแบบเฉพาะเจาะจงในขนาดต่ำกว่าคนมาก
ยากิน: เช่น Prednisolone หรือยาเฉพาะทาง
การดูแลแบบประคับประคอง (Palliative care): ในกรณีที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้
ข้อควรรู้: แมวตอบสนองต่อการรักษาได้ดี และไม่ค่อยมีผลข้างเคียงรุนแรงเหมือนในคน
“แมวที่ได้รับเคมีบำบัดมีอัตราการรอดชีวิตเฉลี่ย 6–18 เดือน และคุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างชัดเจน”
– American Veterinary Medical Association, 2022
แม้มะเร็งบางชนิดจะป้องกันได้ยาก เพราะมาจากพันธุกรรมหรือปัจจัยภายใน
แต่หลายกรณีก็ “ลดความเสี่ยงได้” ถ้าเรารู้วิธีดูแล
แนวทางป้องกันมะเร็งในแมว:
ฉีดวัคซีน FeLV + FIV
ทำหมันแมวเพศเมียก่อนอายุ 6 เดือน (ลดเสี่ยงมะเร็งเต้านม)
หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ หรือสารเคมีรุนแรงในบ้าน
พาไปตรวจสุขภาพแมวประจำปี และตรวจเลือดเมื่ออายุ 7 ปีขึ้นไป
ให้อาหารคุณภาพดี ลดอาหารแปรรูปหรือขนมเก่าเก็บ
แมวก็เป็นมะเร็งได้ และอาการมักมาแบบเงียบๆ ไม่ให้เจ้าของรู้ตัว
แต่ข่าวดีคือ ถ้าเราสังเกตให้ดี ป้องกันให้เร็ว และรักษาให้ทัน
แมวก็ยังมีโอกาสมีชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุขได้เหมือนเดิม
รู้ทันมะเร็งแมว ไม่ใช่เพื่อกลัว...แต่เพื่อ “ป้องกันและรับมือ” ให้ดีที่สุด
❝แมวแข็งแรงได้ ถ้าเรารู้ทันมะเร็ง❞
#มะเร็งในแมว #แมวป่วยต้องรู้ #สัญญาณมะเร็งแมว #ตรวจสุขภาพแมว #ป้องกันมะเร็งแมว #Lazadogรู้ใจแมว
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com