5 ข้อควรรู้! “แผลกัด-ฝีแมว” อันตรายกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่แผลธรรมดา
แผลแมวกัดหรือฝีหนองจากการต่อสู้ อาจดูเหมือนเรื่องเล็กๆ สำหรับคนเลี้ยงแมว
แต่รู้ไหมครับว่า อาการพวกนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้แมวต้องไปหาหมอบ่อยที่สุดอันดับต้นๆ!
โดยเฉพาะในแมวที่ออกไปผจญภัยนอกบ้าน หรือแมวที่มีนิสัยขี้ห้าว ขี้สู้
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับโลกของ “แผลกัดและฝีแมว” แบบเจาะลึก
เข้าใจตั้งแต่สาเหตุ อาการ วิธีป้องกัน การดูแล รวมถึงข้อควรระวังที่หลายคนมองข้าม!
แมวมีฟันเขี้ยวที่แหลมและยาว ซึ่งเมื่อกัดแล้ว จะทิ้ง “แผลลึกแต่เล็ก”
ปัญหาคือ แบคทีเรียจากปากแมวจะเข้าไปติดในชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดฝีหนองใน 2-5 วันหลังการกัด
“กว่า 60% ของแผลที่เกิดจากการกัดในแมวจะกลายเป็นฝีหนองหากไม่รักษา”
– Journal of Feline Medicine and Surgery, 2021
สาเหตุหลักของแผลกัดในแมว:
การทะเลาะกับแมวตัวอื่น (โดยเฉพาะแมวตัวผู้ที่ไม่ได้ทำหมัน)
แย่งพื้นที่ อาหาร หรืออาณาเขต
พฤติกรรมแมวที่มีแนวโน้มชอบออกไปข้างนอก
หลังจากโดนกัด แผลจะดูเงียบๆ ไปสักพัก
แต่ถ้าแมวเริ่มบวมตรงบริเวณนั้น มีไข้ หรือเจ็บเมื่อแตะ — นั่นแหละครับ “ฝีเริ่มมาแล้ว!”
อาการของฝีแมวที่ควรระวัง:
ก้อนบวมนิ่มๆ ใต้ผิวหนัง (มักพบบริเวณหัว คอ ต้นขา)
ขนร่วงเฉพาะจุด หรือแผลเปิดมีหนอง
เบื่ออาหาร ซึม เดินช้าลง
มีไข้ หรือแมวเลียแผลซ้ำๆ
“ฝีแมวที่ไม่ได้รับการรักษาอาจลุกลามจนติดเชื้อในกระแสเลือดได้”
– Veterinary Clinics of North America, 2020
หลายคนเข้าใจผิดว่าแค่บีบหนองออก ล้างแผล แล้วเดี๋ยวก็หาย
แต่จริงๆ แล้วการรักษาฝีในแมว ต้องอาศัยความสะอาด ความรู้ และยาเฉพาะทาง
ขั้นตอนการรักษามาตรฐาน:
สัตวแพทย์จะเจาะระบายหนองออก (บางรายต้องวางยาสลบ)
ใช้ยาปฏิชีวนะเฉพาะทาง
ดูแลแผลด้วยการล้าง + ป้องกันการเลียด้วยคอลล่าร์
ตรวจติดตามอาการอย่างใกล้ชิด 3-5 วันแรก
อย่าลืม: แมวบางตัวอาจต้องใช้เวลาในการหายมากถึง 10–14 วัน
และหากติดเชื้อรุนแรง อาจต้องรักษาในโรงพยาบาลสัตว์
วิธีลดโอกาสแมวโดนกัดหรือเกิดฝี ไม่ใช่แค่เฝ้า...แต่ต้อง “ปรับพฤติกรรม + สิ่งแวดล้อม”
เคล็ดลับป้องกันฝีจากแผลกัด:
ทำหมันแมว (ลดพฤติกรรมทะเลาะ)
ไม่ปล่อยแมวออกไปข้างนอกโดยลำพัง
เพิ่มของเล่น + ต้นไม้แมวในบ้าน เพื่อลดความเครียด
แยกแมวใหม่กับแมวเดิมก่อนให้อยู่ร่วมกัน (ลดการทะเลาะ)
ตรวจเช็คแผลหรือรอยข่วนเป็นประจำ โดยเฉพาะแมวห้าว
“แมวที่อยู่ในบ้าน 100% มีโอกาสเกิดฝีจากแผลกัดน้อยกว่าแมวปล่อยอิสระถึง 80%”
– Feline Urban Safety Survey, 2019
แมวที่เกิดฝีซ้ำบ่อย หรือมีแผลหายช้า อาจไม่ใช่เพราะโดนกัดธรรมดา
แต่อาจเป็นสัญญาณว่าแมวมีภูมิคุ้มกันต่ำจากโรคไวรัส เช่น FIV (ไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่องแมว) หรือ FeLV (ลิวคีเมียแมว)
แนวทางการตรวจเพิ่มเติม:
หากแมวมีแผลบ่อย + อักเสบช้า ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อตรวจเลือด
ทำประวัติการรักษา และสังเกตพฤติกรรมหลังป่วยทุกครั้ง
แมวติด FIV หรือ FeLV ยังมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ หากรู้และดูแลให้ถูกทาง
แมวอาจดูเหมือน “นักสู้ประจำซอย” แต่การต่อสู้มีค่าตอบแทนเป็น “ฝีหนอง” และความเจ็บปวดเสมอ
อย่ามองข้ามแผลเล็กๆ หรืออาการบวมเล็กน้อย เพราะนั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสุขภาพที่ใหญ่ขึ้น
เข้าใจธรรมชาติแมว รู้ทันอาการ และดูแลอย่างใกล้ชิด = แมวปลอดภัย คุณสบายใจ!
❝แมวโดนกัด = ฝีหนองรออยู่ ถ้าคุณไม่ทันเกม!❞
#แผลแมวกัด #ฝีแมว #ดูแลแมวป่วย #แมวโดนกัด #แมวทะเลาะกัน #Lazadogรู้ใจแมว
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com