5 ข้อควรรู้! “แมวคลอดลูก” ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ถ้าเจ้าของไม่รู้ทันอาการ (อัปเดท 2025)

Apr 22, 2025
healthy สุขภาพ
5 ข้อควรรู้! “แมวคลอดลูก” ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ถ้าเจ้าของไม่รู้ทันอาการ (อัปเดท 2025)

🐶 ไวรัลวันนี้! หมา-แมวไทย

ที่มา: Google News

5 ข้อควรรู้! “แมวคลอดลูก” ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ถ้าเจ้าของไม่รู้ทันอาการ

ถ้าคุณมีแมวท้องอยู่บ้าน และคิดว่า “แมวคลอดเองได้ เดี๋ยวมันก็จัดการเองแหละ”
ขอให้คุณหยุดคิดแค่นั้นก่อนเลยครับ เพราะการคลอดลูกของแมวมีรายละเอียดเยอะมาก
ทั้งเรื่องอุณหภูมิร่างกาย การสังเกตสัญญาณเตือน ไปจนถึงการช่วยแมวในกรณีคลอดยาก
และบางครั้ง การที่เรา "ไม่รู้" อาจทำให้แม่แมวเสี่ยงชีวิตโดยไม่รู้ตัว!

บทความนี้จะพาคุณไปรู้ลึกแบบไม่เวอร์ ทั้งสนุก ทั้งใช้งานได้จริง สำหรับเจ้าของมือใหม่หรือคนที่มีแมวกำลังจะเป็นแม่แบบไม่ตั้งใจ


1. แมวตั้งท้องนานแค่ไหน? แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าใกล้คลอด?

โดยเฉลี่ยแมวจะตั้งท้องนาน 63-67 วัน หรือประมาณ 9 สัปดาห์
ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ 6 เป็นต้นไป ร่างกายของแม่แมวจะเริ่มแสดงอาการเตรียมคลอดชัดขึ้น

สัญญาณว่าแมวกำลังใกล้คลอด:

  • หัวนมเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้ม + ขยายขนาด

  • พฤติกรรมเริ่มซึม ซ่อนตัว หามุมสงบ

  • เริ่มทำรัง ใช้ผ้านุ่มๆ หรือกล่องเป็นที่ซ่อน

  • อุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ (ต่ำกว่า 37.8°C)

  • ปากมดลูกเริ่มเปิดและมีสารเมือกใสหรือขุ่นออกมาจากช่องคลอด

“มากกว่า 80% ของแมวจะคลอดภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากอุณหภูมิร่างกายต่ำลง”
Feline Reproduction Journal, 2021


2. คลอดเองหรือคลอดยาก? รู้ไว้ก่อนจะได้ไม่ต้องลุ้นระทึก!

แมวส่วนใหญ่สามารถคลอดเองได้ (ธรรมชาติสร้างมาเก่งครับ)
แต่บางกรณี เช่น ลูกตัวใหญ่เกินไป หรือแม่แมวมีโรคแทรกซ้อน ก็อาจทำให้คลอดยากได้

ระยะเวลาปกติในการคลอด:

  • ลูกแมวแต่ละตัวใช้เวลาประมาณ 30–60 นาที

  • ถ้าหยุดไปเกิน 2 ชั่วโมงโดยไม่มีลูกตัวใหม่ออกมา = สัญญาณอันตราย

  • ถ้าแม่แมวเบ่งแรงนานกว่า 20 นาทีโดยไม่มีลูกออกมาเลย = ต้องรีบพาไปหาหมอ

“ภาวะคลอดยากพบได้ในแมวถึง 5–8% ของการตั้งครรภ์ทั้งหมด”
Veterinary Obstetrics Report, 2020


3. เตรียมตัวอย่างไร? ให้แมวคลอดอย่างปลอดภัยและแม่ไม่เครียด

การเตรียมพื้นที่คลอดและบรรยากาศเงียบสงบเป็นสิ่งสำคัญมาก
เพราะแม่แมวที่เครียดอาจย้ายลูก หรือแม้กระทั่งหยุดคลอดชั่วคราว

สิ่งที่ควรเตรียม:

  • กล่องคลอดบุด้วยผ้านุ่ม (ควรมีขอบกันลูกแมวหล่น)

  • ผ้าขนหนูสะอาด + กระดาษทิชชู่

  • ถุงมือสะอาด (ในกรณีที่ต้องช่วยดึงลูก)

  • เบอร์โทรสัตวแพทย์ฉุกเฉิน

  • อาหารแมวแม่ลูกอ่อน วางไว้ใกล้ๆ

ข้อควรรู้: แม่แมวบางตัวไม่ยอมคลอดถ้ามีคนมองหรือจับมากเกินไป
การให้พื้นที่ส่วนตัวจึงสำคัญสุดๆ


4. ช่วยแมวยังไงถ้ามีปัญหาระหว่างคลอด?

ถ้าคุณต้องเข้าไปช่วย อย่าตกใจ แต่ก็อย่าทำอะไรโดยไม่เข้าใจ!

กรณีที่ควรช่วย:

  • ลูกออกมาแต่ยังอยู่ในถุงน้ำคร่ำ > ใช้ผ้าเช็ดเบาๆ แล้วฉีกถุงให้ลูกหายใจ

  • ลูกหายใจไม่ออก > ใช้ผ้าซับจมูกแล้วนวดตัวเบาๆ

  • สายสะดือไม่ขาด > ใช้ด้ายผูกแล้วตัดด้วยกรรไกรสะอาด (ห่างตัวลูก 2-3 ซม.)

อย่าทำเด็ดขาด:

  • อย่าดึงลูกออกแรงๆ ถ้าไม่แน่ใจ

  • อย่าใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลหรือแหย่ช่องคลอด

  • อย่าบังคับให้แม่แมวกินหรือเปลี่ยนที่คลอดขณะคลอด


5. หลังคลอดอย่าชะล่าใจ! การดูแลแม่และลูกแมวต้องต่อเนื่อง

ช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอดคือช่วงสำคัญ
ลูกแมวต้องได้กินน้ำนมเหลือง (Colostrum) ซึ่งอุดมไปด้วยภูมิคุ้มกัน
และแม่แมวต้องได้พัก+กินอาหารที่มีโปรตีนสูง

เคล็ดลับหลังคลอด:

  • เช็กจำนวนลูกให้ครบตามอัลตราซาวด์ (ถ้าทำมาก่อน)

  • ทำความสะอาดกล่องคลอดทุกวัน

  • น้ำสะอาด + อาหารแม่ลูกอ่อนพร้อมเสมอ

  • สังเกตแม่แมวว่ามีไข้ ตกขาวผิดปกติ หรือไม่กินข้าวหรือเปล่า

“ลูกแมวที่ไม่ได้กินน้ำนมเหลืองภายใน 24 ชั่วโมงแรก มีอัตราการรอดลดลง 40–50%”
Neonatal Feline Health Report, 2019


การคลอดลูกในแมวอาจดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ถ้าเราเป็นเจ้าของที่ “รู้ทันและเตรียมพร้อม”
ไม่เพียงแต่ช่วยให้แม่แมวปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ลูกแมวมีชีวิตที่ดีตั้งแต่วันแรก

แค่เข้าใจร่างกายแมว เตรียมตัวให้พร้อม และดูแลด้วยความใส่ใจ = ความปลอดภัยทั้งครอก!


❝การคลอดแมวไม่ใช่โชค...แต่เป็นเรื่องที่เตรียมได้❞


#แมวคลอดลูก #ดูแลแมวตั้งท้อง #ลูกแมวแรกเกิด #ช่วยแมวคลอด #เตรียมตัวคลอดแมว #Lazadogรู้ใจแมว


อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com


Doglala - Social for Pet Lovers

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com

Recent Posts