5 ข้อควรรู้! “แมวคลอดลูก” ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ถ้าเจ้าของไม่รู้ทันอาการ
ถ้าคุณมีแมวท้องอยู่บ้าน และคิดว่า “แมวคลอดเองได้ เดี๋ยวมันก็จัดการเองแหละ”
ขอให้คุณหยุดคิดแค่นั้นก่อนเลยครับ เพราะการคลอดลูกของแมวมีรายละเอียดเยอะมาก
ทั้งเรื่องอุณหภูมิร่างกาย การสังเกตสัญญาณเตือน ไปจนถึงการช่วยแมวในกรณีคลอดยาก
และบางครั้ง การที่เรา "ไม่รู้" อาจทำให้แม่แมวเสี่ยงชีวิตโดยไม่รู้ตัว!
บทความนี้จะพาคุณไปรู้ลึกแบบไม่เวอร์ ทั้งสนุก ทั้งใช้งานได้จริง สำหรับเจ้าของมือใหม่หรือคนที่มีแมวกำลังจะเป็นแม่แบบไม่ตั้งใจ
โดยเฉลี่ยแมวจะตั้งท้องนาน 63-67 วัน หรือประมาณ 9 สัปดาห์
ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ 6 เป็นต้นไป ร่างกายของแม่แมวจะเริ่มแสดงอาการเตรียมคลอดชัดขึ้น
สัญญาณว่าแมวกำลังใกล้คลอด:
หัวนมเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้ม + ขยายขนาด
พฤติกรรมเริ่มซึม ซ่อนตัว หามุมสงบ
เริ่มทำรัง ใช้ผ้านุ่มๆ หรือกล่องเป็นที่ซ่อน
อุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ (ต่ำกว่า 37.8°C)
ปากมดลูกเริ่มเปิดและมีสารเมือกใสหรือขุ่นออกมาจากช่องคลอด
“มากกว่า 80% ของแมวจะคลอดภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากอุณหภูมิร่างกายต่ำลง”
– Feline Reproduction Journal, 2021
แมวส่วนใหญ่สามารถคลอดเองได้ (ธรรมชาติสร้างมาเก่งครับ)
แต่บางกรณี เช่น ลูกตัวใหญ่เกินไป หรือแม่แมวมีโรคแทรกซ้อน ก็อาจทำให้คลอดยากได้
ระยะเวลาปกติในการคลอด:
ลูกแมวแต่ละตัวใช้เวลาประมาณ 30–60 นาที
ถ้าหยุดไปเกิน 2 ชั่วโมงโดยไม่มีลูกตัวใหม่ออกมา = สัญญาณอันตราย
ถ้าแม่แมวเบ่งแรงนานกว่า 20 นาทีโดยไม่มีลูกออกมาเลย = ต้องรีบพาไปหาหมอ
“ภาวะคลอดยากพบได้ในแมวถึง 5–8% ของการตั้งครรภ์ทั้งหมด”
– Veterinary Obstetrics Report, 2020
การเตรียมพื้นที่คลอดและบรรยากาศเงียบสงบเป็นสิ่งสำคัญมาก
เพราะแม่แมวที่เครียดอาจย้ายลูก หรือแม้กระทั่งหยุดคลอดชั่วคราว
สิ่งที่ควรเตรียม:
กล่องคลอดบุด้วยผ้านุ่ม (ควรมีขอบกันลูกแมวหล่น)
ผ้าขนหนูสะอาด + กระดาษทิชชู่
ถุงมือสะอาด (ในกรณีที่ต้องช่วยดึงลูก)
เบอร์โทรสัตวแพทย์ฉุกเฉิน
อาหารแมวแม่ลูกอ่อน วางไว้ใกล้ๆ
ข้อควรรู้: แม่แมวบางตัวไม่ยอมคลอดถ้ามีคนมองหรือจับมากเกินไป
การให้พื้นที่ส่วนตัวจึงสำคัญสุดๆ
ถ้าคุณต้องเข้าไปช่วย อย่าตกใจ แต่ก็อย่าทำอะไรโดยไม่เข้าใจ!
ลูกออกมาแต่ยังอยู่ในถุงน้ำคร่ำ > ใช้ผ้าเช็ดเบาๆ แล้วฉีกถุงให้ลูกหายใจ
ลูกหายใจไม่ออก > ใช้ผ้าซับจมูกแล้วนวดตัวเบาๆ
สายสะดือไม่ขาด > ใช้ด้ายผูกแล้วตัดด้วยกรรไกรสะอาด (ห่างตัวลูก 2-3 ซม.)
อย่าทำเด็ดขาด:
อย่าดึงลูกออกแรงๆ ถ้าไม่แน่ใจ
อย่าใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลหรือแหย่ช่องคลอด
อย่าบังคับให้แม่แมวกินหรือเปลี่ยนที่คลอดขณะคลอด
ช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอดคือช่วงสำคัญ
ลูกแมวต้องได้กินน้ำนมเหลือง (Colostrum) ซึ่งอุดมไปด้วยภูมิคุ้มกัน
และแม่แมวต้องได้พัก+กินอาหารที่มีโปรตีนสูง
เคล็ดลับหลังคลอด:
เช็กจำนวนลูกให้ครบตามอัลตราซาวด์ (ถ้าทำมาก่อน)
ทำความสะอาดกล่องคลอดทุกวัน
น้ำสะอาด + อาหารแม่ลูกอ่อนพร้อมเสมอ
สังเกตแม่แมวว่ามีไข้ ตกขาวผิดปกติ หรือไม่กินข้าวหรือเปล่า
“ลูกแมวที่ไม่ได้กินน้ำนมเหลืองภายใน 24 ชั่วโมงแรก มีอัตราการรอดลดลง 40–50%”
– Neonatal Feline Health Report, 2019
การคลอดลูกในแมวอาจดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ถ้าเราเป็นเจ้าของที่ “รู้ทันและเตรียมพร้อม”
ไม่เพียงแต่ช่วยให้แม่แมวปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ลูกแมวมีชีวิตที่ดีตั้งแต่วันแรก
แค่เข้าใจร่างกายแมว เตรียมตัวให้พร้อม และดูแลด้วยความใส่ใจ = ความปลอดภัยทั้งครอก!
❝การคลอดแมวไม่ใช่โชค...แต่เป็นเรื่องที่เตรียมได้❞
#แมวคลอดลูก #ดูแลแมวตั้งท้อง #ลูกแมวแรกเกิด #ช่วยแมวคลอด #เตรียมตัวคลอดแมว #Lazadogรู้ใจแมว
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com