5 ข้อควรรู้! แมวหลงลืม งงทาง ร้องตอนดึก อาจเป็น “โรคสมองเสื่อม” ที่เจ้าของต้องรู้ทัน

เคยไหมครับ...แมวที่เคยน่ารัก เรียกแล้วรีบวิ่งมา
วันนี้กลับยืนนิ่ง ตาลอย หรือเดินวนในบ้านแบบคนหลงทาง?

ถ้าคุณเริ่มสังเกตว่าแมวที่บ้านมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปโดยไม่มีเหตุผล เช่น ร้องเสียงดังตอนดึก ลืมที่นอน หรือเข้ากระบะผิด — คุณอาจกำลังเผชิญกับสิ่งที่เรียกว่า “โรคสมองเสื่อมในแมวสูงวัย”

ใช่ครับ! ไม่ได้มีแค่คนที่เป็นอัลไซเมอร์ แมวก็เป็นได้เหมือนกัน
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ Cognitive Dysfunction Syndrome (CDS) ในแมว ผ่าน 5 ข้อควรรู้ ที่อ่านแล้วจะเข้าใจแมวแก่ขึ้นเยอะเลยครับ

1. CDS หรือ “โรคสมองเสื่อมในแมว” คืออะไร?

โรคนี้ในแมวมีชื่อเต็มๆ ว่า Cognitive Dysfunction Syndrome (CDS)
เป็นภาวะที่พบได้ในแมวสูงวัย โดยเฉพาะอายุ 11 ปีขึ้นไป
สมองจะเริ่มเสื่อมตามวัย ส่งผลต่อความจำ พฤติกรรม และการรับรู้สิ่งรอบตัว

“มากกว่า 35% ของแมวที่อายุเกิน 12 ปี แสดงอาการที่สอดคล้องกับโรคสมองเสื่อม”
– Journal of Feline Medicine and Surgery, 2020

อาการคล้ายกับอัลไซเมอร์ในคน:

• หลงทางในบ้าน

• ลืมที่นอน

• ร้องเสียงดังผิดเวลา (โดยเฉพาะตอนกลางคืน)

• เดินวน

• ลืมเข้ากระบะทราย

• ไม่ตอบสนองเมื่อเรียกชื่อ

2. อาการของ CDS อาจดูเหมือนเรื่องเล็ก แต่จริงๆ แล้ว “สะสมจนชีวิตเปลี่ยน”

หลายคนอาจคิดว่า “แมวแก่ก็ต้องเป็นแบบนี้แหละ”
แต่จริงๆ แล้ว...อาการของโรคนี้สามารถส่งผลต่อคุณภาพชีวิตทั้งแมวและเจ้าของ

ตัวอย่างพฤติกรรมเปลี่ยนไปที่ควรจับตา:

• เคยขี้อ้อน กลายเป็นเฉยเมย

• นอนมากเกินไปในตอนกลางวัน

• เครียดง่าย ระแวง

• ฉี่ผิดที่

• เอาหัวพิงกำแพงหรือยืนนิ่งนานๆ

• ลืมพฤติกรรมพื้นฐาน เช่น กินข้าวเมื่อหิว

“ในแมวที่อายุ 15 ปีขึ้นไป เกือบ 50% แสดงพฤติกรรมผิดปกติจาก CDS”
– Feline Cognitive Health Review, 2022

3. โรคนี้วินิจฉัยอย่างไร? ใช่สมองเสื่อมจริงไหม หรือเป็นโรคอื่น?

CDS ไม่สามารถวินิจฉัยจากการสังเกตอย่างเดียวได้ครับ
เพราะต้องแยกออกจากโรคอื่นๆ ที่แสดงพฤติกรรมคล้ายกัน เช่น:

• โรคไตเรื้อรัง (ทำให้ร้องตอนกลางคืนจากความไม่สบายตัว)

• โรคไทรอยด์เป็นพิษ (ทำให้แมวหงุดหงิด เคลื่อนไหวมาก)

• โรคทางประสาทอื่นๆ

แนวทางการวินิจฉัย:

• ซักประวัติโดยละเอียด

• ตรวจร่างกาย ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ

• สังเกตพฤติกรรมร่วมกันระยะหนึ่ง

• อาจต้องใช้ MRI หรือ CT scan ในบางกรณี (หากสงสัยโรคประสาทอื่น)

4. โรคสมองเสื่อมในแมวไม่มีทางหาย...แต่ชะลอได้!

ข่าวร้ายคือ CDS ไม่มีทางรักษาให้หายขาด
แต่ข่าวดีคือ...เราสามารถชะลออาการ และทำให้แมวมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้

แนวทางดูแลแมวที่เป็น CDS:

• จัดตารางชีวิตให้สม่ำเสมอ: เวลาอาหาร ที่นอน และกิจกรรม

• ไม่เปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมบ่อย

• เปิดไฟอ่อนๆ ตอนกลางคืน

• พูดกับแมวบ่อยๆ กระตุ้นสมอง

• ให้อาหารเสริมบำรุงสมอง เช่น SAMe, Omega-3 (ปรึกษาหมอก่อน)

• ออกกำลังกายเบาๆ เช่น เล่นเบาๆ เดินสำรวจ

“แมวที่ได้รับการกระตุ้นสมองและใช้สูตรอาหารเฉพาะสำหรับ CDS มีแนวโน้มชะลออาการเสื่อมได้นานขึ้นถึง 18 เดือน”
– Feline Aging Study, 2021

5. การเข้าใจโรคนี้ = ความเข้าใจแมวแก่ที่ล้ำค่าที่สุด

แมวแก่ที่เป็น CDS ไม่ได้ดื้อ ไม่ได้งอน ไม่ได้งง
เขาแค่ “เริ่มลืม” ว่าเคยทำอะไร เคยอยู่ตรงไหน หรือเคยสนิทกับคุณแค่ไหน

สิ่งที่แมวต้องการไม่ใช่คำดุ แต่คือความเข้าใจ ความอ่อนโยน และพื้นที่ปลอดภัยที่เขาไว้ใจได้ในแต่ละวัน

Tips สำหรับเจ้าของ:

• อย่าดุแมวที่ฉี่ผิดที่หรือร้องตอนกลางคืน

• ใช้กลิ่นคุ้นเคย เช่น ผ้าเก่าๆ ที่เคยใช้ด้วยกัน

• เพิ่มจุดพักในบ้านให้แมวรู้สึกสงบ

• อย่าทำให้ตกใจ หรือย้ายของบ่อย

  
  

โรคสมองเสื่อมในแมวไม่ใช่เรื่องไกลตัว
แต่คือสัญญาณที่บอกว่าแมวของคุณ “อยู่กับคุณมานานพอที่จะเริ่มแก่แล้ว”
และนั่นคือสิ่งล้ำค่าที่สุดที่เจ้าของควรตอบแทนด้วยความเข้าใจและความรัก

แมวจำไม่ได้ว่าเราเคยรักเขายังไง...แต่เราจำได้ และเราจะดูแลเขาไปจนถึงวันสุดท้าย

❝แมวอาจลืมชื่อเรา…แต่เราไม่มีวันลืมว่าเขาคือครอบครัว❞

#แมวสมองเสื่อม #แมวแก่ต้องใส่ใจ #ดูแลแมวสูงวัย #CDSแมว #แมวหลงทาง #Lazadogรู้ใจแมว

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com