5 ข้อควรรู้! “โรคหัวใจในแมว” ภัยเงียบที่หลายบ้านไม่รู้ตัว 

หากคุณคิดว่า “แมวไม่ค่อยวิ่ง ไม่ค่อยเล่น คงขี้เกียจธรรมดา”
บางทีมันอาจไม่ได้ขี้เกียจครับ...แต่อาจมีปัญหาเรื่อง “หัวใจ” อยู่ก็ได้!

โรคหัวใจในแมว โดยเฉพาะโรคกล้ามเนื้อหัวใจหนา (Hypertrophic Cardiomyopathy – HCM)
คือโรคที่พบบ่อยที่สุด และเป็นภัยเงียบที่ “ไม่แสดงอาการชัดเจน” ในช่วงแรก
หลายกรณีเจ้าของมารู้ตอนแมวล้มลงหายใจไม่ออก หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงไปแล้ว ซึ่งอาจสายเกินไป...

วันนี้เราจะมาชำแหละแบบไม่ห่วงหล่อ! ว่าโรคนี้คืออะไร รู้ได้ยังไง และเจ้าของแมวต้องทำยังไงถึงจะ “รู้ทันก่อนสาย”

1. โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนา (HCM) คืออะไร ทำไมแมวถึงเสี่ยง?

โรค HCM คือ ภาวะที่กล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้ายของแมวหนาตัวขึ้น ทำให้เลือดสูบฉีดได้น้อยลง
ส่งผลให้หัวใจทำงานหนัก และอาจนำไปสู่ ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน หรือ ลิ่มเลือดอุดตัน

แมวพันธุ์เสี่ยงสูง:

• เมนคูน (Maine Coon)

• แร็กดอลล์ (Ragdoll)

• บริติช ช็อตแฮร์

• สก็อตติช โฟลด์

“HCM พบในแมวพันธุ์เมนคูนมากถึง 30–40% และในแมวทั่วไปประมาณ 10–15%”
– Feline Cardiology Study, Journal of Veterinary Internal Medicine, 2021

2. ระวัง! โรคนี้แทบไม่มีอาการจนกว่าจะรุนแรง

โรค HCM มักไม่แสดงอาการจนถึงระยะที่เริ่มรุนแรง หรือเข้าสู่ภาวะหัวใจวาย
ซึ่งทำให้เจ้าของจำนวนมากพลาดสัญญาณเตือนเบื้องต้นไปอย่างน่าเสียดาย

สัญญาณอันตรายที่ควรระวัง:

• หายใจเร็ว หอบ แม้ไม่ได้วิ่งเล่น

• อ่อนแรง นอนนิ่งนานผิดปกติ

• ขาหลังเย็น ขาอ่อนแรงเฉียบพลัน (อาจเป็นลิ่มเลือดอุดตัน)

• หายใจทางปาก (ภาวะฉุกเฉิน!)

• เหงือกซีดหรือม่วง

“กว่า 50% ของแมวที่วินิจฉัยว่าเป็น HCM มีอาการเฉียบพลันโดยไม่มีสัญญาณนำมาก่อน”
– Pet Emergency Clinical Review, 2020

3. จะรู้ได้ยังไงว่าแมวเป็น HCM? ตรวจแบบไหนแม่นสุด?

เนื่องจากโรคนี้ไม่มีอาการชัดในช่วงต้น การตรวจคัดกรองจึงเป็นทางรอด
โดยเฉพาะสำหรับแมวพันธุ์เสี่ยง และแมวโตอายุ 4 ปีขึ้นไป

วิธีการตรวจที่แนะนำ:

• อัลตราซาวด์หัวใจ (Echocardiogram): แม่นยำที่สุด ตรวจความหนากล้ามเนื้อหัวใจ

• X-ray: ตรวจขนาดหัวใจและปอด

• ECG: ตรวจจังหวะการเต้นของหัวใจ

• การตรวจพันธุกรรม (สำหรับพันธุ์เมนคูน/แร็กดอลล์)

คำแนะนำ: ตรวจหัวใจประจำปี โดยเฉพาะในแมวโตและแมวพันธุ์เสี่ยง จะช่วยลดความเสี่ยงภาวะฉุกเฉินได้มาก

4. แมวเป็น HCM แล้วรักษาได้ไหม?

ข่าวดีคือ แม้ HCM จะยังไม่มียารักษาให้หายขาด แต่ การดูแลและควบคุมอาการ ช่วยให้แมวใช้ชีวิตปกติได้หลายปี
และถ้าเจอเร็ว...ก็มีโอกาสสูงมากที่จะชะลอการพัฒนาโรค

การรักษาทั่วไปประกอบด้วย:

• ยาควบคุมจังหวะหัวใจ เช่น Atenolol

• ยาขยายหลอดเลือด ลดภาระหัวใจ

• ยาป้องกันลิ่มเลือด เช่น Clopidogrel

• อาหารสูตรโรคหัวใจ (โปรตีนต่ำ โซเดียมต่ำ)

• ควบคุมน้ำหนักแมวให้เหมาะสม

“แมวที่ได้รับยาตามแผนและตรวจหัวใจต่อเนื่องสามารถอยู่ได้อีก 2–5 ปีอย่างมีคุณภาพชีวิตดี”
– Feline Heart Disease Outcome Report, 2023

5. การดูแลแมวที่เป็นโรคหัวใจในชีวิตประจำวัน ต้องปรับอะไรบ้าง?

ถ้าแมวคุณเป็น HCM อย่าเพิ่งตื่นตระหนก เพราะหลายบ้านดูแลกันแบบเข้าใจ และแมวยังใช้ชีวิตได้น่ารักเหมือนเดิม
แต่ต้องปรับวิธีเลี้ยงบางอย่างเพื่อความปลอดภัยของหัวใจเจ้าเหมียว

เคล็ดลับการดูแล:

• หลีกเลี่ยงการเล่นที่เหนื่อยเกินไป เช่น วิ่งไล่ของเล่นนานๆ

• จัดมุมพักสงบ ไม่ร้อน ไม่เสียงดัง

• ให้อาหารเป็นเวลา ควบคุมน้ำหนัก

• สังเกตหายใจ และตรวจสุขภาพตามนัดอย่างเคร่งครัด

• ไม่พลาดการให้ยา! ตั้งเตือนในมือถือไว้เลย

  
  

โรคหัวใจในแมวไม่ใช่เรื่องไกลตัว และไม่ใช่โรคที่ “รอจนแสดงอาการแล้วค่อยดูแล”
เพราะแมวไม่พูด แต่ร่างกายเขาส่งสัญญาณ...แค่เจ้าของต้องรู้ทัน

รู้เร็ว ตรวจไว ดูแลถูกทาง = หัวใจของแมวก็มีโอกาสเต้นต่ออย่างอบอุ่นในบ้านของคุณ

❝โรคหัวใจแมว...อาจเงียบ แต่ไม่เคยเบา❞

#โรคหัวใจแมว #แมวเป็นHCM #ดูแลแมวหัวใจอ่อนแอ #กล้ามเนื้อหัวใจหนาแมว #ตรวจหัวใจแมว #แมวพันธุ์เสี่ยง #Lazadogรู้ใจแมว

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com