5 ข้อควรรู้! เมื่อแมวผอมไว กินเก่ง แต่วิ่งเป็นจรวด อาจไม่ใช่แค่ซน แต่อาจเป็น “ไทรอยด์เป็นพิษ”
แมวบ้านคุณกินเยอะขึ้น กินเร็วขึ้น แต่กลับน้ำหนักลด?
กระโดดพล่าน วิ่งรอบบ้าน แล้วก็มานั่งหอบตาโตแบบไม่ยอมพัก?
อาการเหล่านี้อาจฟังดูตลก…แต่จริงๆ แล้วอาจเป็น “Hyperthyroidism” หรือที่เรียกกันว่า “ภาวะไทรอยด์เป็นพิษในแมว” ซึ่งพบได้บ่อยในแมวสูงวัย และหากไม่รีบรักษาอาจนำไปสู่โรคแทรกซ้อนที่อันตรายได้
มารู้จัก 5 ข้อควรรู้เกี่ยวกับโรคนี้แบบละเอียดแต่เข้าใจง่าย พร้อมวิธีดูแลน้องแมวให้ปลอดภัยและสุขภาพดีได้ยาวๆ กันครับ
Hyperthyroidism เป็นโรคต่อมไทรอยด์ที่ผลิตฮอร์โมนมากเกินไป ซึ่งจะไปเร่งระบบเผาผลาญของแมวให้ทำงานเกินระดับปกติ
“ประมาณ 10% ของแมวอายุ 10 ปีขึ้นไป จะเป็นโรคไทรอยด์ในระดับใดระดับหนึ่ง”
– Feline Thyroid Study, Cornell University 2022
สัญญาณที่ควรเริ่มจับตา:
กินเยอะ แต่น้ำหนักลด
กระวนกระวาย วิ่งพล่าน
อาเจียนบ่อย หรือท้องเสีย
ขนหยาบ ร่วงง่าย
หายใจเร็ว หรือหัวใจเต้นเร็ว
ถ้าแมวของคุณมีอาการตามข้อ 1 อย่านั่งเดา ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อเจาะเลือดตรวจค่า T4 (Thyroxine) ซึ่งเป็นฮอร์โมนหลักที่ต่อมไทรอยด์ผลิต
ค่า T4 ปกติในแมว: 10–50 nmol/L
ถ้าสูงเกินกว่านี้ โดยเฉพาะ > 60 nmol/L อาจต้องได้รับการรักษา
“การตรวจเลือดหา T4 มีความแม่นยำกว่า 90% สำหรับการวินิจฉัยโรคไทรอยด์ในแมว”
– Veterinary Internal Medicine Journal, 2021
หลายคนกลัวคำว่า “โรคต่อมไทรอยด์” เพราะคิดว่าจะต้องผ่าตัดหรือให้ฮอร์โมนตลอดชีวิต
ความจริงคือโรคนี้มีหลายแนวทางการรักษา และสามารถควบคุมได้ดีหากตรวจเจอเร็ว
แนวทางการรักษาหลัก:
ยารับประทาน เช่น Methimazole (ช่วยลดการผลิตฮอร์โมน)
อาหารสูตรพิเศษ (Low-Iodine Diet)
การให้รังสีไอโอดีน (Radioactive Iodine Therapy) – ได้ผลถาวร
ผ่าตัดต่อมไทรอยด์ (เหมาะกับบางกรณีเท่านั้น)
เคล็ดลับ:
ถ้าแมวไม่ชอบกินยา ลองแบบน้ำ หรือขอให้สัตวแพทย์ปรับสูตร
ห้ามผสมอาหารสูตรปกติกับสูตร low-iodine เพราะจะลดประสิทธิภาพ
Hyperthyroidism อาจไม่หายขาดถ้าไม่ได้รับการรักษาด้วยรังสีหรือผ่าตัด
แต่การใช้ยาและอาหารสามารถควบคุมอาการได้ดีมาก
การติดตามผลเลือดทุก 3–6 เดือน เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อปรับยาให้เหมาะกับสภาพร่างกายของแมว
“แมวที่ควบคุมฮอร์โมนได้ดี มีอายุยืนใกล้เคียงแมวสุขภาพดี (เฉลี่ย 14–17 ปี)”
– Feline Endocrine Lifespan Review, 2020
นี่คือประเด็นที่สำคัญสุดสำหรับแมวสูงวัยครับ
การรักษาไทรอยด์อาจไปเปิดเผยปัญหาไตที่ซ่อนอยู่ เพราะฮอร์โมนที่มากไปอาจเคย “กลบ” ค่าไตที่ผิดปกติ
ดังนั้นหลังเริ่มการรักษา ต้องตรวจไตควบคู่เสมอ
แนะนำ:
ตรวจ BUN, Creatinine และ SDMA ควบคู่กับ T4
สังเกตพฤติกรรมแมวว่าฉี่เยอะขึ้นหรือกินน้ำน้อยลงหรือไม่
หากมีโรคไตร่วม ควรใช้สูตรอาหารที่ครอบคลุมทั้ง 2 โรค
ไทรอยด์เป็นพิษในแมวไม่ใช่โรคที่น่ากลัวเกินไป แต่เป็นโรคที่ต้องอาศัย “ความเข้าใจ + การดูแลระยะยาว”
หากคุณสังเกตพฤติกรรมแมวให้ดี พาไปตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ และทำตามแนวทางที่เหมาะสม
คุณจะได้แมวที่กลับมาสุขภาพดี วิ่งเก่ง กินเก่ง…แต่ไม่ผอมเกินแบบมีความสุขทั้งบ้านครับ
❝แมวกินจุแต่น้ำหนักลด…อาจไม่ใช่เรื่องเล่น แต่เป็นไทรอยด์ที่ต้องรีบรักษา❞
#ไทรอยด์แมว #แมวไฮเปอร์ #แมวกินจุผอมไว #โรคแมวสูงวัย #Lazadogรู้ใจแมว
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com