รวม 5 ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยง “ชิปเปอร์กี้” หมาดำจอมขยัน ขี้สงสัย ฉลาดเกินไซส์
ถ้าคุณเจอหมาตัวเล็ก ขนดำขลับ หูตั้ง ท่าทางเหมือนตำรวจลับมาจับโจร แล้วอยู่ดีๆ ก็กระโดดขึ้นโซฟาแล้วนั่งจ้องคุณแบบไม่กะพริบ...
ยินดีด้วยครับ คุณเจอกับ “ชิปเปอร์กี้” หมาตัวเล็กพลังเยอะที่เต็มไปด้วยความฉลาด ความไว และอารมณ์ขันในตัวเอง
อย่าดูถูกขนาดตัวนะครับ เพราะหมาพันธุ์นี้เคยทำหน้าที่ “เฝ้าเรือ เฝ้าบ้าน ไล่หนู และแจ้งเตือนอันตราย” มานานตั้งแต่สมัยเบลเยียมยุคกลาง!
ถ้าคุณกำลังสนใจหมาตัวเล็ก ฉลาด คล่องแคล่ว และเฝ้าบ้านแบบมืออาชีพ (แถมไม่เปลืองเนื้อที่) ลองมาทำความรู้จักเขากับบทความ รวม 5 ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยงชิปเปอร์กี้ ฉบับใช้ได้จริงทุกบรรทัดกันครับ
ต้นกำเนิดของชิปเปอร์กี้อยู่ในเบลเยียม โดยถูกพัฒนามาจากสายพันธุ์ Leauvenaar เพื่อทำหน้าที่เป็นหมาเฝ้าเรือในเมืองท่า
หน้าที่หลักของเขาคือ “เฝ้า แจ้งเตือน ไล่หนู และดูแลทรัพย์สิน” แบบไม่หยุดพัก
น้ำหนัก: 4–7 กก.
ความสูง: 25–33 ซม.
อายุเฉลี่ย: 13–15 ปี (บางตัวอยู่ถึง 17 ปี)
ขน: สีดำ ขนสองชั้น หนาแน่น รอบคอคล้ายแผงคอสิงโต
หูตั้ง หน้าแหลม ดวงตาเฉียบ หางสั้นหรือไม่มีหาง
ข้อมูลจาก American Kennel Club (AKC): ชิปเปอร์กี้อยู่ในกลุ่ม Non-Sporting Group และได้ชื่อว่าเป็น "Little Black Devil" เพราะพลังเยอะและความแสบแบบน่ารัก
อย่าคิดว่าเลี้ยงหมาตัวเล็กแล้วจะนิ่งๆ ชิปเปอร์กี้คือตัวจริงเรื่อง ขยัน ซน ขี้สงสัย และมีพลังงานแบบไม่สิ้นสุด
ถ้าไม่ได้ออกกำลังหรือเล่นเกมวันละอย่างน้อย 30–45 นาที เขาอาจแปลงร่างเป็นนักขุด นักกัด หรือหมาไฮเปอร์ที่เดินวนบ้านไม่หยุด
เดินเล่น 2 รอบ/วัน (เช้า–เย็น)
เกมซ่อนของหรือเกมดมกลิ่น
ฝึกคำสั่งและเชื่อฟัง (Obedience)
Agility แบบเล็กๆ ก็ได้ เช่น กระโดดกรวย วิ่งลอดเก้าอี้
กลเม็ด: หมาพันธุ์นี้ “ชอบทำอะไรใหม่ๆ” การฝึกต้องมี Challenge เปลี่ยนทุกสัปดาห์ ไม่งั้นเบื่อง่ายและจะทำเป็นไม่รู้เรื่อง
ชิปเปอร์กี้เป็นหมาที่มีไอคิวสูง เรียนรู้คำสั่งไว เข้าใจสถานการณ์เก่ง
แต่ถ้าเจ้าของตามเกมไม่ทัน เขาก็พร้อมจะ “เนียนไม่ทำตาม” หรือ “มุดหลบไปทำเรื่องซน” ได้แบบเนียนๆ
ขี้เล่น ฉลาด ชอบเรียนรู้
ติดเจ้าของแต่ไม่ง้อ ไม่ซบตักทั้งวัน
เฝ้าบ้านเก่ง เห่าได้ถ้ามีคนแปลกหน้า
ไวต่อเสียงและการเคลื่อนไหว
เคล็ดลับ: ใช้ Positive Reinforcement และอย่าลืมฝึกคำสั่งควบคุมเสียงเห่า เช่น “พอแล้ว” หรือ “เงียบ” เพื่อไม่ให้เห่าทั้งวัน
ขนของชิปเปอร์กี้เป็นขนสองชั้นที่หนาและแน่นโดยเฉพาะรอบคอ ถึงจะไม่ได้ยาวเหมือนสายพันธุ์อื่น แต่ “ขนร่วงเยอะ” มาก โดยเฉพาะช่วงผลัดขน
แปรงขนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง
อาบน้ำเดือนละ 1 ครั้ง หรือเมื่อน้องเลอะ
เช็ดหู–ตา–ข้อพับบ่อยๆ เพราะขนหนาเก็บความชื้นได้
หมั่นตรวจเห็บหมัดโดยเฉพาะช่วงหน้าฝน
ข้อมูลจาก PetMD: หมาขนดำที่อาศัยในเมืองร้อนอย่างไทยมีโอกาสเป็นรังแคและผื่นร้อนสูงกว่าสายพันธุ์ขนบางถึง 2 เท่า
ชิปเปอร์กี้เป็นหมาที่มีอายุยืนและไม่ค่อยป่วยง่าย แต่ก็มีแนวโน้มเป็นโรคเฉพาะสายพันธุ์บางอย่าง โดยเฉพาะเรื่องตา ผิวหนัง และระบบข้อ
Progressive Retinal Atrophy (PRA): ตาเสื่อม ตรวจปีละครั้ง
สะบ้าเคลื่อน (Patellar Luxation): หลีกเลี่ยงพื้นลื่นหรือกระโดดสูง
ภูมิแพ้ผิวหนัง: ต้องเลือกอาหารและแชมพูอย่างระมัดระวัง
โรคต่อมไทรอยด์ต่ำ (Hypothyroidism): อาจพบในหมาอายุมาก
ข้อมูลจาก Orthopedic Foundation for Animals (OFA): ประมาณ 11–14% ของชิปเปอร์กี้มีแนวโน้มมีภาวะข้อสะบ้าหลวม หากเลี้ยงในบ้านที่พื้นลื่นหรือไม่ควบคุมน้ำหนัก
ชิปเปอร์กี้ คือหมาขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยพลัง ฉลาด ขี้สงสัย และมีเสน่ห์เฉพาะตัวแบบหมานักเฝ้ายามจิ๋ว
เขาไม่ใช่หมาที่จะนอนเฉยๆ ทั้งวัน แต่เหมาะกับเจ้าของที่รักการฝึก รักการเล่น และอยากมีคู่หูตัวเล็กที่อยู่ไม่สุข (แต่รักคุณมาก)
ถ้าคุณต้องการหมาที่เลี้ยงในบ้านได้ ขนสวย ไม่กินที่ แต่กินใจ — ชิปเปอร์กี้อาจเป็นหมาที่เหมาะกับคุณแบบเกินคาดครับ
#ชิปเปอร์กี้หมาดำจอมขยัน #หมาเฝ้ายามไซส์มินิ #Schipperkeฉลาดเกินไซส์ #หมาเล็กไม่แผ่วแต่แสบ #Lazadogหมาตัวจิ๋วพลังเกินร้อย
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com