รวม 5 ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยง “ลาบราดูเดิล” หมาผสมสุดฮิต ฉลาด ขี้เล่น และนุ่มฟูเหมือนตุ๊กตามีชีวิต

หมาที่น่ารักเหมือนตุ๊กตาแต่ฉลาดเหมือนอาจารย์มหา’ลัย มีอยู่จริงนะครับ
ขอแนะนำให้รู้จักกับ Labradoodle (ลาบราดูเดิล) หมาลูกผสมระหว่างลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ และพุดเดิล ซึ่งรวมเอาความฉลาด ขี้เล่น และขนนุ่มน่ากอดไว้ในตัวเดียว

ลาบราดูเดิลไม่ได้แค่น่ารัก แต่ยังเป็นหมาสายเทอราพี (therapy dog) ที่ช่วยให้คนหลายคนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นด้วย
ถ้าคุณกำลังหาหมาสายครอบครัวสุดเฟรนด์ลี่แต่ไม่อยากเจอขนร่วงเต็มบ้าน — ลาบราดูเดิลอาจจะ “ใช่” แบบไม่ต้องลังเล

1. ลูกผสมสุดป๊อปที่เกิดจากความตั้งใจให้ "เป็นมากกว่าสุนัข"

ลาบราดูเดิลเกิดขึ้นครั้งแรกในออสเตรเลียช่วงปลายยุค 1980 โดย Wally Conron ผู้ต้องการหมาที่ไม่ก่อภูมิแพ้ (allergy-friendly) แต่ยังคงนิสัยช่วยเหลือคนแบบลาบราดอร์
และผลลัพธ์ก็คือ “หมาที่มีขนนุ่ม ไม่ผลัดขน และนิสัยดีเกินต้าน”

ลักษณะเด่น:

• น้ำหนัก: 14–30 กก. (แล้วแต่ขนาด Mini, Medium, Standard)

• ความสูง: 35–60 ซม.

• อายุเฉลี่ย: 12–15 ปี

• ขน: หยิกหรือลอน ขนนุ่ม ไม่ค่อยผลัดขน

• สีขน: ครีม น้ำตาล ทอง แดง เทา ดำ ฯลฯ

• หน้าตาน่ารักแบบ “ยิ้มได้” ตาโต หูตก

ข้อมูลจาก Australian Labradoodle Association: ลาบราดูเดิลได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะนิสัยเฟรนด์ลี่และขนไม่ก่อภูมิแพ้

2. ฉลาดมาก ขี้เล่นมาก และเข้ากับคน (รวมถึงสัตว์) ได้ทุกเพศวัย

หมาพันธุ์นี้ฉลาดระดับที่สามารถฝึกให้ทำงานเป็นหมาช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา หรือทำเทคนิคในรายการทีวีได้ง่ายๆ
นอกจากนี้ยัง เฟรนด์ลี่กับทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ แมว หรือแม้แต่นกกระจอกข้างบ้าน

นิสัยที่ควรรู้:

• ขี้เล่น ไม่ขี้หงุดหงิด

• ฉลาด เรียนรู้คำสั่งไว

• ไม่ก้าวร้าว และมีความอดทนสูง

• ติดเจ้าของ แต่ไม่ขี้กลัว

เคล็ดลับ: ฝึกคำสั่งตั้งแต่ 8 สัปดาห์ เช่น “นั่ง”, “รอ”, “มา” จะช่วยควบคุมพลังงานน้องได้ดีในระยะยาว

3. ขนนุ่มเหมือนเมฆ ไม่ผลัดขนเยอะ แต่ต้องดูแลเป็นพิเศษ

แม้จะถูกจัดว่าเป็นหมาที่ไม่ผลัดขน (Hypoallergenic) แต่ลาบราดูเดิลก็ยังต้องการการดูแลขนอย่างสม่ำเสมอ
เพราะขนหยิกสามารถพันกันง่าย และหากไม่หวีหรือเล็มให้ดีจะกลายเป็นพรมก้อนกลมๆ แบบไม่ตั้งใจ

การดูแลขน:

• หวีขนสัปดาห์ละ 3–4 ครั้ง

• อาบน้ำทุก 4–6 สัปดาห์

• ตัดแต่งขนทุก 6–8 สัปดาห์ โดยช่างมือโปร

• ตรวจรอบหู ตา และอุ้งเท้าเป็นประจำ

อ้างอิงจาก The Doodle Society: ลาบราดูเดิลที่ดูแลขนดีมีโอกาสเกิดผิวหนังอักเสบลดลงถึง 40%

4. พลังเยอะ ต้องขยับ ไม่งั้นจะหาเรื่องเล่นเอง

อย่าคิดว่าหน้าตาน่ารักจะนิ่งนะครับ เพราะลาบราดูเดิล มีพลังงานสูงระดับวิ่งรอบสวนสาธารณะแบบไม่เหนื่อย
ถ้าไม่มีเวลาดูแลให้ได้ปลดปล่อยพลังงาน น้องอาจเริ่มเคี้ยวรองเท้าแบบ “ไม่ตั้งใจแต่สนุกดี”

กิจกรรมที่เหมาะ:

• เดินหรือวิ่ง 30–60 นาที/วัน

• เล่นโยนของ ซ่อนของ หรือเทรนเบาๆ

• เล่นน้ำได้ดีเยี่ยม เพราะสายเลือดลาบราดอร์

• ชอบอยู่กับเจ้าของ ไม่ชอบถูกปล่อยให้อยู่คนเดียว

ข้อควรรู้: ถ้าคุณไม่มีเวลาให้พลังงานน้องระบายทุกวัน อาจต้องมีผู้ช่วย เช่น dog walker หรือ doggy daycare

5. สุขภาพโดยรวมดี แต่ต้องระวัง “สะโพก” และ “หูอักเสบ”

ลาบราดูเดิลส่วนมากมีสุขภาพดี และอายุยืนกว่าหลายสายพันธุ์
แต่ต้องระวังเรื่อง ข้อสะโพกเสื่อม (Hip Dysplasia) และ หูอักเสบ เพราะขนหูหนาและห้อยลงมาปิดช่องอากาศ

การดูแลสุขภาพ:

• ตรวจข้อสะโพกเมื่อโตเต็มวัย (1–2 ปี)

• เช็ดหูสัปดาห์ละครั้ง

• เสริม Omega-3 และกลูโคซามีน

• พาไปตรวจสุขภาพประจำปี

ข้อมูลจาก OFA (Orthopedic Foundation for Animals): ลาบราดูเดิลมีแนวโน้มเป็น Hip Dysplasia ได้ถ้าพ่อแม่ไม่ผ่านการคัดกรอง

Labradoodle (ลาบราดูเดิล) คือหมาที่ผสมความฉลาดแบบพุดเดิล และความเฟรนด์ลี่แบบลาบราดอร์ไว้อย่างลงตัว
เขาเหมาะกับครอบครัวที่มีเวลาให้ เล่นด้วย และพร้อมดูแลขนนุ่มๆ ของเขาให้ฟูและสุขภาพดีเสมอ
ถ้าคุณอยากมีหมาที่น่ารักแบบตุ๊กตา แต่มีสมองแบบนักวางแผน — ลาบราดูเดิลคือคู่หูที่คุณไม่ควรมองข้ามครับ

#ลาบราดูเดิลหมาน่ารักฉลาดเกินต้าน #หมาลูกผสมขวัญใจบ้าน #หมาขนนุ่มไม่ผลัดขน #Labradoodleเพื่อนแท้สายครอบครัว #Lazadogสายพันธุ์หมา

อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com

Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com