รวม 5 ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยง “ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์” หมาร่าเริงอันดับหนึ่งของโลก ที่ทั้งฉลาด ขี้เล่น และรักเจ้าของเกินร้อย
ถ้าพูดถึงหมาที่ “ร่าเริงขั้นสุด” “ฉลาดเกินคาด” และ “รักคนแบบไม่มีเงื่อนไข”
เชื่อเลยครับว่า Labrador Retriever (ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์) ต้องติดโผอันดับต้นๆ แน่นอน
หมาพันธุ์นี้เป็นมากกว่าหมาสำหรับเล่น เพราะเขาคือ หมาช่วยงาน ทั้งสายตา งานค้นหา กู้ภัย หรือแม้แต่เป็นหมาบำบัด (therapy dog) ที่ช่วยดูแลหัวใจคน
และแน่นอนว่าในประเทศไทย ลาบราดอร์ก็คือหมาในฝันของหลายๆ บ้าน
แต่ก่อนจะตกหลุมรักเต็มหัว ลองมาอ่าน 5 ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยงลาบราดอร์ กันก่อนครับ เผื่อหัวใจจะยิ่งพร้อม!
ลาบราดอร์มีต้นกำเนิดจาก Newfoundland (แคนาดา) ก่อนถูกพัฒนาในอังกฤษ
ถูกใช้เป็นหมาช่วยลากแห ออกเรือ และเก็บสิ่งของในน้ำ (จึงชื่อว่า “รีทรีฟเวอร์”)
เขาเป็นหนึ่งในหมาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยเฉพาะในอเมริกาและยุโรป
น้ำหนัก: ตัวผู้ 29–36 กก., ตัวเมีย 25–32 กก.
ความสูง: ตัวผู้ 56–61 ซม., ตัวเมีย 53–58 ซม.
อายุเฉลี่ย: 10–12 ปี
ขน: สั้น แน่น กันน้ำได้
สีขน: เหลือง (ครีม), ดำ, ช็อกโกแลต
หน้าตาเป็นมิตร หูตก หางหนาโบกแบบ “อารมณ์ดีเสมอ”
ข้อมูลจาก American Kennel Club (AKC): ลาบราดอร์ครองแชมป์ “สายพันธุ์ยอดนิยมอันดับ 1” ในสหรัฐอเมริกาติดต่อกันถึง 31 ปี (1991–2021)
ลาบราดอร์จัดเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่ ฉลาดที่สุดในโลก (อยู่ในอันดับ Top 10 จากการจัดอันดับของ Stanley Coren)
นั่นหมายความว่าเขาสามารถเรียนรู้คำสั่งได้รวดเร็ว และมีความสามารถหลากหลาย ทั้งฝึกง่าย และพร้อม “รับงาน” ได้เสมอ
เป็นมิตรกับคนและสัตว์อื่นๆ
ฉลาด เรียนรู้คำสั่งพื้นฐานได้ใน 5–10 ครั้ง
ขี้เล่น ชอบกิจกรรมแบบมีปฏิสัมพันธ์
ติดเจ้าของ และชอบอยู่เป็นฝูง
เคล็ดลับ: ฝึกคำสั่งพื้นฐานตั้งแต่ 8–12 สัปดาห์ และใช้เทคนิค Positive Reinforcement (ชม + ขนม) เพื่อสร้างนิสัยดีตั้งแต่เด็ก
แม้จะเป็นหมาขนสั้น แต่ลาบราดอร์ก็ ผลัดขนทุกวันแบบไม่เกรงใจพื้นบ้าน
ขนของเขามี 2 ชั้น ชั้นล่างหนาเพื่อกันน้ำ ชั้นบนมันเงาและป้องกันฝุ่น
แปรงขนสัปดาห์ละ 3–4 ครั้ง (ทุกวันยิ่งดี)
ใช้แปรงแบบ Undercoat Rake ช่วยลดขนร่วง
อาบน้ำทุก 4–6 สัปดาห์ หรือเมื่อเลอะ
ตรวจผิวหนังบริเวณหู ใต้คอ และท้องเป็นพิเศษ
อ้างอิงจาก The Spruce Pets: การแปรงขนเป็นประจำช่วยลดขนร่วงได้ถึง 50% และยังช่วยสร้างความผูกพันกับเจ้าของ
ลาบราดอร์คือหมาที่เกิดมา “เพื่อขยับ” ไม่ใช่เพื่อ “อยู่เฉยๆ”
หากไม่ได้พลังงานออก เขาอาจเริ่ม “เคลื่อนไหวในทางสร้างสรรค์” เช่น เคี้ยวไม้ประตู หรือขุดดินสไตล์หมาเก็บสมบัติ
เดินเร็ว/วิ่ง 45–60 นาที/วัน
เล่นดึงของ วิ่งไล่บอล ว่ายน้ำ (โปรดมาก)
เกมฝึกสมอง เช่น ซ่อนขนม
เทรนคำสั่งใหม่ทุกสัปดาห์
ข้อควรรู้: ลาบราดอร์เหมาะกับเจ้าของที่มีเวลาให้เล่นด้วยกัน ไม่เหมาะกับบ้านที่ต้องปล่อยให้อยู่ลำพังทั้งวัน
แม้จะเป็นหมาอึดและทน แต่ลาบราดอร์ก็มีแนวโน้มจะ อ้วนง่าย และมีปัญหาเรื่องข้อต่อ โดยเฉพาะ สะโพกเสื่อม (Hip Dysplasia)
นอกจากนี้ยังต้องระวัง “ต้อกระจก” และ “ข้อศอกหลุด”
ควบคุมอาหารให้เหมาะสมตามวัย
ตรวจสะโพกเมื่อโตเต็มวัย
เสริมอาหารข้อต่อ เช่น Glucosamine และ Omega-3
หมั่นตรวจตาและหู (โดยเฉพาะหมาสีอ่อน)
ข้อมูลจาก Orthopedic Foundation for Animals (OFA): ลาบราดอร์มีอัตรา Hip Dysplasia ประมาณ 11–14% หากไม่ได้รับการคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์อย่างดี
Labrador Retriever (ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์) คือหมาที่ใครๆ ก็รักได้ง่าย เพราะทั้งฉลาด ร่าเริง ซื่อสัตย์ และพร้อมจะเป็นเพื่อนร่วมกิจกรรมในทุกวัน
เขาเหมาะกับครอบครัวที่มีเวลาให้พาออกกำลังกาย ฝึกสื่อสาร และเล่นด้วยอย่างต่อเนื่อง
ถ้าคุณกำลังมองหาหมาที่เข้าได้กับทุกคน และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวจริงๆ — ลาบราดอร์คือน้องหมาในฝันที่อยู่ไม่ไกลเลยครับ
#ลาบราดอร์หมาขวัญใจบ้าน #หมาฉลาดสายสุขภาพดี #หมาเพื่อนแท้พลังงานสูง #LabradorRetrieverหมาที่ทุกบ้านควรมี #Lazadogสายพันธุ์หมา
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com