รวม 5 ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยง “เชพราดอร์ (Sheprador)” หมาลูกครึ่งที่ฉลาดขั้นเทพ แถมรักครอบครัวไม่แพ้ใคร
ถ้าคุณกำลังมองหาหมาที่ “เก่ง ฉลาด ขยัน แถมยังเป็นมิตร” ขอแนะนำให้รู้จักกับหนึ่งในสุนัขลูกผสมที่คนทั่วโลกพูดถึงอย่าง เชพราดอร์ (Sheprador)
เจ้านี่คือผลลัพธ์ของการจับคู่ระหว่างสองสายพันธุ์ยอดนิยม ได้แก่ เยอรมันเชพเพิร์ด (German Shepherd) และ ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) ซึ่งต่างฝ่ายต่างส่งต่อ DNA ความเก่งมาแบบไม่มีใครยอมใคร
และนี่คือ รวม 5 ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยงเชพราดอร์ (Sheprador) ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจเจ้าหมาสุดเท่ตัวนี้มากขึ้นก่อนตัดสินใจพาเข้าบ้าน
เชพราดอร์ไม่ได้เกิดจากการผสมแบบสุ่ม แต่เกิดจากการตั้งใจรวม “สมอง” ของเยอรมันเชพเพิร์ด เข้ากับ “หัวใจ” ของลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์
ผลที่ได้คือหมาที่ฉลาดแบบเข้าใจคำสั่งเร็ว แถมมีนิสัยน่ารัก เข้ากับคนได้ทุกวัย
น้ำหนัก: 27–40 กก.
ความสูง: 55–65 ซม.
อายุเฉลี่ย: 10–14 ปี
ขน: สั้นถึงกลาง สีดำ น้ำตาล เหลือง หรือผสม
โครงสร้าง: แข็งแรง ล่ำสัน เคลื่อนไหวว่องไว
ข้อมูลจาก DogTime: เชพราดอร์จัดว่าเป็นหนึ่งในหมาลูกผสมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอเมริกา เพราะสมดุลระหว่างความฉลาดและความเป็นมิตร
หมาพันธุ์นี้ไม่ใช่แค่เรียนรู้ไว แต่ยังสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม
เรียกง่ายๆ ว่าเป็นหมาที่ “อ่านเกม” ได้ดีกว่าคนบางคนเสียอีก
เข้าใจคำสั่งพื้นฐานภายใน 5–10 ครั้ง (อ้างอิงจาก AKC)
สามารถฝึกให้ช่วยงานต่างๆ ได้ เช่น หาของ ช่วยงานบ้าน
เหมาะกับกิจกรรมฝึกสมอง เช่น เกมดมกลิ่น, Puzzle, Dog agility
เคล็ดลับ: อย่าฝึกซ้ำแบบเดิมทุกวัน เพราะเขาจะเบื่อเร็ว ลองปรับโจทย์หรือเพิ่มความยาก เพื่อกระตุ้นให้เขาสนุกกับการเรียนรู้ต่อเนื่อง
เชพราดอร์ไม่ใช่หมาสายชิลที่นอนได้ทั้งวัน เขาต้องการ “กิจกรรม” และ “การปฏิสัมพันธ์” อย่างสม่ำเสมอ
ชอบวิ่ง เล่น และออกกำลังทุกวัน
ถ้าไม่ได้ระบายพลัง อาจเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวหรือทำลายข้าวของ
เหมาะกับบ้านมีสนามหรือเจ้าของที่พาออกกำลังทุกวัน
ข้อมูลจาก PetMD: สุนัขพันธุ์ใหญ่ที่ไม่ได้ออกกำลังกายมีความเสี่ยงโรคอ้วนสูงกว่า 30% ภายในปีแรกของการเลี้ยง
เนื่องจากได้ยีนจากทั้งเยอรมันเชพเพิร์ดและลาบราดอร์ เชพราดอร์จึงมีโอกาสขนร่วงมากโดยเฉพาะในช่วงฤดูผลัดขน
แปรงขนอย่างน้อย 3 ครั้ง/สัปดาห์
ใช้แชมพูสำหรับผิวแพ้ง่าย
หมั่นดูแลหู ตา และเล็บอย่างสม่ำเสมอ
ตรวจสุขภาพประจำปี และฉีดวัคซีนครบ
กลเม็ด: ลงทุนซื้อเครื่องดูดฝุ่นดีๆ และแปรงขนแบบ “Deshedding” จะช่วยให้บ้านไม่กลายเป็นสนามรบของเส้นขน
แม้เชพราดอร์จะดูแข็งแรงมาก แต่เพราะเป็นลูกผสมจากสายพันธุ์ใหญ่ทั้งสอง จึงมีแนวโน้มเกิดโรคบางอย่างที่พบบ่อยในพ่อแม่พันธุ์
ข้อสะโพกเสื่อม (Hip Dysplasia)
โรคข้อศอกเสื่อม (Elbow Dysplasia)
ปัญหาตา เช่น ต้อกระจก
โรคผิวหนังจากภูมิแพ้
ข้อมูลจาก Orthopedic Foundation for Animals (OFA): ประมาณ 20–25% ของเชพราดอร์อาจมีภาวะข้อสะโพกเสื่อมในช่วงอายุ 4–6 ปี หากไม่ได้รับการดูแลเรื่องน้ำหนักและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
เชพราดอร์ (Sheprador) คือหมาลูกผสมที่มีทั้งสมอง ฉลาดเท่เหมือนเยอรมันเชพเพิร์ด และใจดี เข้ากับทุกคนได้เหมือนลาบราดอร์
เหมาะกับเจ้าของที่มีเวลาให้ มีพื้นที่ และพร้อมดูแลเรื่องออกกำลังกายและสุขภาพอย่างจริงจัง
ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่อยู่นิ่ง รักการผจญภัย และต้องการหมาคู่ใจที่ “รู้ใจจริง” ไม่ใช่แค่เดินตาม — เชพราดอร์คือตัวเลือกที่คุณควรพิจารณาอย่างยิ่ง
#เชพราดอร์หมาฉลาดหัวใจอบอุ่น #หมาลูกครึ่งที่ดีทั้งสมองและใจ #หมาออกกำลังคู่ใจสายลุย #หมานิสัยดีแต่ต้องได้วิ่งทุกวัน #Lazadogรวมหมาคู่ใจสำหรับทุกไลฟ์สไตล์
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com