รวม 5 ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยง “ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ (Tibetan Mastiff)” หมายักษ์สายสงบ ผู้ปกป้องด้วยหัวใจและขนระดับราชา
ถ้าคุณเคยเห็นหมาที่ขนแน่นจนดูเหมือนสวมเสื้อขนสัตว์ฤดูหนาว พร้อมใบหน้าเข้มๆ ดุดันเหมือนหัวหน้ากลุ่มนักรบ
แต่ว่า…ในสายตาเจ้าของ เขาคือ “หมาน้อย” ที่นอนกลิ้งอยู่หน้าบ้าน นั่นแหละครับ คุณอาจได้เจอกับ ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ (Tibetan Mastiff) แล้วล่ะ!
หมาพันธุ์นี้ถือเป็นหนึ่งในสุนัขสายพันธุ์เก่าแก่ที่สุดในโลก และเคยถูกใช้เพื่อเฝ้าวัดในทิเบต ตั้งแต่สมัยพระลามะยังไม่ใช้มือถือ
มาดู รวม 5 ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยงทิเบตัน มาสทิฟฟ์ (Tibetan Mastiff) แล้วคุณจะรู้ว่า หมายักษ์นี้ไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียว แต่ใจใหญ่และฉลาดแบบน่าทึ่ง
หมาสายพันธุ์นี้เกิดจากทิเบตเพื่อปกป้องครอบครัวและทรัพย์สินในพื้นที่ห่างไกลหิมาลัย ด้วยความสงบ มั่นใจ และไม่กลัวสิ่งใด
ถึงแม้จะไม่ค่อยเห่า แต่น้องมีเซนส์ว่า “ใครคือคนแปลกหน้า” แม้เขาจะยังไม่เดินเข้าบ้าน
น้ำหนัก: ตัวผู้ 45–72 กก., ตัวเมีย 34–54 กก.
ความสูง: ตัวผู้ 66–76 ซม., ตัวเมีย 61–71 ซม.
อายุเฉลี่ย: 10–12 ปี
ขน: หนาแน่น มีสองชั้น สีดำ แดง ทอง เทา หรือผสม
หน้ากว้าง ขนรอบคอแน่นเหมือนใส่ “ปลอกคอสิงโต”
ข้อมูลจาก American Kennel Club (AKC): จัดอยู่ในกลุ่ม Working Group และมีประวัติว่าเป็นหมาเฝ้าวัดในสมัยโบราณ
ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ ไม่ใช่หมาที่จะเข้ามาอ้อนคุณแบบโกลเด้น เขาจะอยู่ห่างๆ แบบ “อยู่เป็น”
เขารักเจ้าของแต่ไม่ได้แสดงออกด้วยการกระดิกหางเยอะๆ แต่จะคอยตามมองแบบเงียบๆ ถ้าใครเดินเข้าบ้านแบบไม่คุ้นหน้า
รักสงบ แต่พร้อมปกป้อง
มีความเป็น “ตัวของตัวเอง” สูง
ไม่เหมาะกับคนเลี้ยงมือใหม่
รักครอบครัว แต่เลือกไว้วางใจคนแปลกหน้า
เคล็ดลับ: เริ่มฝึกตั้งแต่เล็ก ให้เข้าสังคมกับคนและสัตว์อื่นบ่อยๆ จะช่วยให้เขาเป็นมิตรขึ้น และไม่กลายเป็นหมา “เงียบแต่คิดเองทุกอย่าง”
ขนของทิเบตัน มาสทิฟฟ์ หนาแบบต้องใช้คำว่า “สลัดขนได้เป็นผ้าห่ม” โดยเฉพาะช่วงผลัดขน
แม้จะสวยและนุ่มมือ แต่ถ้าไม่ดูแลอย่างดี ขนจะพันเป็นก้อน และทำให้เกิดเชื้อราและกลิ่นอับได้ง่าย
แปรงขน 2–3 ครั้งต่อสัปดาห์
อาบน้ำทุก 6–8 สัปดาห์
ผลัดขนหนักช่วงเปลี่ยนฤดู ต้องแปรงทุกวัน
ระบายอากาศบริเวณใต้คอ ใต้อุ้งเท้าเป็นพิเศษ
ข้อมูลจาก PetMD: ทิเบตัน มาสทิฟฟ์เป็นสายพันธุ์ที่ผลัดขนมากช่วงอากาศอุ่น ต้องใช้หวีเฉพาะสำหรับขนชั้นใต้ (undercoat rake)
หมาพันธุ์นี้ถึงจะดูนิ่งๆ แต่จริงๆ แล้วมีพลังงานสะสมมาก ถ้าไม่ได้ออกกำลังกาย เขาอาจกลายเป็น “เครื่องเฝ้าบ้านแบบเสียงดัง”
และอาจเริ่มสร้างงานเอง เช่น ขุดสวน หรือเคลียร์พุ่มไม้ข้างบ้าน
เดินเร็ววันละ 30–60 นาที
วิ่งในพื้นที่รั้วปิด
เกมฝึกคำสั่งแบบใช้สมอง
พาไปเดินทางใกล้ธรรมชาติ เช่น ป่า หญ้าสูง
กลเม็ด: อย่าพาออกแดดแรงช่วงเที่ยง เพราะขนหนาของเขาจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงเกินไปจนเสี่ยงฮีทสโตรก
ทิเบตัน มาสทิฟฟ์มีความเสี่ยงของโรคขนาดใหญ่ เช่น Hip Dysplasia และ Hypothyroidism โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้นที่ไม่เหมาะกับเขา
ถ้ารับเลี้ยงมาในไทย ต้องควบคุมน้ำหนัก อาหาร และอุณหภูมิให้ดี
Hip Dysplasia (สะโพกเสื่อม)
Hypothyroidism (ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ)
Entropion (ขอบตางุ้มเข้า)
Obesity (โรคอ้วน)
ข้อมูลจาก Orthopedic Foundation for Animals (OFA): หมาพันธุ์นี้มีโอกาสเกิดสะโพกเสื่อมเฉลี่ย 18–25% หากเลี้ยงในพื้นที่จำกัดและไม่มีการควบคุมน้ำหนัก
ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ (Tibetan Mastiff) คือหมาสายพันธุ์โบราณที่เต็มไปด้วยความสง่างาม ฉลาด และจงรักภักดี
เขาไม่ใช่หมาที่เหมาะกับทุกคน แต่ถ้าคุณเข้าใจธรรมชาติของหมาเฝ้าบ้านสายขรึม และพร้อมดูแลหมาขนาดใหญ่ที่มีบุคลิก “รักลึก แต่ไม่อ้อน”
คุณจะได้เพื่อนแท้ผู้เงียบแต่พร้อมยืนเคียงข้างเสมอ
#ทิเบตันมาสทิฟฟ์หมายักษ์ผู้สงบ #TibetanMastiffหมารักษาวัดสุดคลาสสิค #หมาเฝ้าบ้านที่ไม่ต้องเห่า #หมาขนแน่นรักลึกแบบผู้นำ #Lazadogหมาสำหรับเจ้าของสายเข้าใจ
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com