รวม 5 ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยง “ยักด์เทอร์เรียร์” หมานักล่าจอมพลัง ขนาดเล็กแต่วิ่งไม่หยุด ฉลาดดุจนักสืบ
หมาบางตัวเกิดมาเพื่อวิ่งเล่นในสวน บางตัวเกิดมาเพื่อกอดบนโซฟา...
แต่สำหรับ Jagdterrier (ยักด์เทอร์เรียร์) ตัวนี้ — เขาเกิดมาเพื่อ "ล่า" และ "ลุย"!
แม้จะตัวเล็กพอจะซ่อนในเป้สะพายหลัง แต่หัวใจของเขาใหญ่เกินเบอร์ เต็มไปด้วยความกล้า ความฉลาด และความกระตือรือร้นแบบไม่รู้จักเหนื่อย
ถ้าคุณคิดว่าเทอร์เรียร์ทุกตัวเหมือนกัน บทความนี้อาจจะเปลี่ยนความคิดคุณครับ เพราะน้องยักด์ไม่ใช่แค่หมาเล็กธรรมดา แต่คือสายลุยขั้นสุดจากเยอรมนีแท้ๆ
ลองมาดู 5 ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยงยักด์เทอร์เรียร์ กันเลยครับ
ยักด์เทอร์เรียร์ (Jagdterrier หรือ German Hunt Terrier) พัฒนาขึ้นในเยอรมนีช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยกลุ่มนักล่าที่ต้องการหมาตัวเล็ก ฉลาด อึด และเชื่อฟัง
เขาไม่ใช่หมาตกแต่งสวน แต่คือ "หมาปฏิบัติการภาคสนาม" ที่สามารถไล่ล่าสัตว์ในป่า วิ่งในอุโมงค์ และว่ายน้ำตามเหยื่อได้
น้ำหนัก: 7.5–10 กก.
ความสูง: 33–40 ซม.
อายุเฉลี่ย: 12–15 ปี
ขน: สั้นหรือขนลวด กันน้ำได้ดี
สี: ดำ-แทน, น้ำตาล-แทน หรือเทาเข้ม
หูพับ รูปร่างเพรียว กระชับ ว่องไว
ข้อมูลจาก Deutscher Jagdterrier Club: สายพันธุ์นี้ต้องผ่านการทดสอบภาคสนาม (field trials) เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นหมาใช้งาน
อย่าเห็นว่าเล็กแล้วจะพาเดินรอบหมู่บ้านพอจบนะครับ เพราะ ยักด์เทอร์เรียร์คือตู้พลังงานเดินได้
เขาต้องการออกกำลังกายอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่เดินเบาๆ แต่คือการ “ลุย” ทั้งวิ่ง กระโดด ดมกลิ่น และฝึกคำสั่งต่างๆ
วิ่งเร็วหรือเดินเขาอย่างน้อย 45–60 นาทีต่อวัน
ชอบเกมซ่อนของ เกมดมกลิ่น เกมฝึกสมอง
สนุกกับการฝึก Agility หรือ Obedience
ไม่ควรเลี้ยงในพื้นที่แคบหรือขาดการกระตุ้น
ข้อควรรู้: ถ้าไม่ได้ปลดพลัง น้องอาจเริ่ม “ระเบิดบ้าน” เช่น แทะรองเท้า ขุดสนาม หรือเห่าเรียกร้อง
ยักด์เทอร์เรียร์ฉลาดแบบ “นักสืบสี่ขา” สามารถเรียนรู้คำสั่งต่างๆ ได้ไว แต่ขณะเดียวกันก็มีความดื้อในแบบเทอร์เรียร์
ไม่ใช่หมาที่ฝึกด้วยการตะคอก หรือปล่อยปละละเลยได้ เพราะเขาจะ “นำคุณ” แทน “ฟังคุณ”
ใช้วิธี Positive Reinforcement (ขนม+คำชม)
สอนคำสั่งพื้นฐานตั้งแต่เด็ก เช่น มานี่, หยุด, อย่า
อย่าปล่อยให้กำหนดกติกาในบ้านเอง
มีของเล่นที่ท้าทาย เช่น puzzle toy, scent box
ข้อมูลจาก The Spruce Pets: หมากลุ่มเทอร์เรียร์มีแนวโน้มเป็น “เจ้าถิ่น” หากไม่ได้เข้าสังคมและฝึกตั้งแต่เล็ก
ขนของยักด์เทอร์เรียร์มี 2 แบบ คือขนเรียบ (smooth) และขนลวด (wire) ซึ่งกันน้ำได้ดีและไม่ผลัดขนมาก
แต่เพราะเขาชอบลุย ชอบวิ่งในป่า ขนจึงมักโดนเศษไม้ ข่วน หรือโดนแมลงกัด
แปรงขนสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง
อาบน้ำทุก 4–6 สัปดาห์ หรือเมื่อลุยจนเลอะ
ตรวจผิวหนัง หู ตา หลังลุย หรือเดินทาง
ใช้ยาหยอดป้องกันเห็บ หมัด พยาธิทุกเดือน
เคล็ดลับ: ขนแบบนี้แทบไม่ต้องตัด แต่ควรเล็มบริเวณเท้าและหูเพื่อความสะอาดและปลอดภัย
โดยรวมแล้วยักด์เทอร์เรียร์เป็นหมาที่ “แกร่ง” มาก ไม่ค่อยป่วยง่าย อายุยืน และมีภูมิต้านทานสูง
แต่เพราะเป็นหมาที่ต้องการการฝึก การออกกำลังกาย และการจัดการอย่างต่อเนื่อง จึงไม่เหมาะกับคนเลี้ยงหมาครั้งแรก
ตรวจสะโพกและข้อเข่าเมื่อโตเต็มวัย
ดูพฤติกรรมการกิน เพราะอาจกินเร็วหรือไม่เคี้ยว
ตรวจสุขภาพฟันและหูทุก 6 เดือน
ควบคุมน้ำหนัก เพราะตัวเล็ก น้ำหนักเกินส่งผลชัด
แหล่งอ้างอิงจาก OFA: Jagdterrier เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีอัตราป่วยทางพันธุกรรมต่ำที่สุดในกลุ่มเทอร์เรียร์
Jagdterrier (ยักด์เทอร์เรียร์) คือน้องหมาตัวเล็กแต่ใจใหญ่มาก เขาคือหมานักล่า ฉลาด พลังสูง และจงรักภักดีแบบไม่มีเงื่อนไข
เหมาะกับคนที่มีเวลาให้ เล่นจริง ลุยจริง และพร้อมจะสร้างความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกับหมาใจเด็ดตัวนี้
ถ้าคุณคือคนที่ชอบหมาสายลุย ไม่ติดหรู รักความท้าทาย — ยักด์เทอร์เรียร์คือน้องที่คุณจะหลงรักในแบบที่หมาทั่วไปให้ไม่ได้ครับ
#ยักด์เทอร์เรียร์หมาล่าตัวจิ๋ว #หมาเยอรมันพลังสูง #Jagdterrierหมาฉลาดสายลุย #หมาขนาดเล็กใจใหญ่ #Lazadogสายพันธุ์หมา
อยากรู้วิธีดูแลน้องหมา&แมวให้มีความสุขในทุกวัน?
ติดตามบทความน่ารักๆ แบบนี้ได้ที่ Lazadog.com/blog
หรือแชร์ประสบการณ์กับเราได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ
by Prasobsook Saisud – Founder Lazadog.com
Doglala – Social for Pet Lovers doglala.com